คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่

คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่

"มูลนิธิเมาไม่ขับ"เสนอไอเดียเปิดนวตกรรมการจ้างงานคนพิการในรูปแบบใหม่ ให้เจ้าของสถานประกอบการขนาดใหญ่ จ้างคนพิการทำกิจกรรม CSR พลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสทำประโยชน์ให้กับสังคม“

เมื่อวันที่ 26 ม.ค. นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการเมาไม่ขับ เปิดเผยกับ “เดลินิวส์ออนไลน์” ว่า จากที่กฎหมายกำหนดไว้ว่าสถานประกอบการที่มีคนงาน 100 คนขึ้นไปต้องจ้างคนพิการ 1 คนเข้าทำงาน เป็นการส่งเสริมให้คนพิการได้มีงานทำ ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการขนาดใหญ่ไม่ค่อยจะจ้างคนพิการ เพราะหาตำแหน่งให้คนพิการมาทำงานไม่ได้ กฎหมายจึงกำหนดว่า บริษัทจะต้องส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ปีละประมาณ 1 แสนบาทต่อคน ดังนั้นตนซึ่งอยู่มูลนิธิเมาไม่ขับ มีคนพิการที่เกิดจากเมาแล้วขับมาเป็นอาสาสมัครอยู่จำนวน 4,000-5,000 คนทั่วประเทศ และยังมีคนพิการที่ไม่ได้มาทำงานกับมูลนิธิอีกหลายหมื่นคน

นพ.แท้จริง กล่าวว่า จะเห็นว่าในสังคมยังมีคนพิการที่ไม่ได้รับการจ้างงาน เพราะเขาทำงานไม่ได้ ซึ่งเรียกว่า พิการรุนแรง บริษัท ห้างร้าน ก็ไม่จ้าง เพราะไม่รู้ว่าจะให้มาทำหน้าที่อะไร ที่มูลนิธิฯมีคนพิการมาช่วยรณรงค์เยอะมาก จึงมีแนวคิดว่าแทนที่จะเป็นแค่อาสาสมัคร เราให้บริษัทที่จำเป็นจะต้องจ้างคน แล้วเขาต้องเสียเงินอยู่แล้วทุกปี เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ จำเป็นต้องจ้างคนพิการปีหนึ่งประมาณ 200 คน ถ้าไม่จ้างจะต้องจ่ายเงิน 20 ล้านบาทให้กับกองทุนทุกปี

คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่

“ผมได้ไปพูดคุยกับทางธนาคารไทยพาณิชย์ก็เห็นด้วยที่จะเอาเงินมาจ้างคนพิการที่เป็นอาสาสมัครของมูลนิธิ ต่อไปอาสามัครของมูลนิธิไปทำงานแล้วได้เงินจากธนาคารไทยพาณิชย์ เขาเรียกจ้างเหมา ไม่ใช่จ้างเป็นพนักงาน เหมือนการจ้างทำกิจกรรมเป็นเวลา 1 ปี แล้วเรากำหนดว่าเขาต้องทำอะไรบ้าง ธนาคารเห็นด้วยว่าถ้าเป็นCSR ของธนาคารก็ได้ แทนที่จะต้องเสียเงินทำ CSR จึงให้เงินกับคนพิการโดยตรง” นพ.แท้จริง กล่าว

เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าวว่า จึงได้เกิดการจ้างงานแบบใหม่ คือ การจ้างงานในการไปทำงานในชุมชน ทำงานที่เป็นประโยชน์กับสังคม เช่น มูลนิธิเมาไม่ขับก็จะเป็นการรณรงค์เมาไม่ขับให้ทำหน้าที่ดังนี้ 1.ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อรณรงค์แจกแผ่นพับแจกสติกเกอร์ 2.ไปเยี่ยมเหยื่อรายใหม่ ๆ ตามโรงพยาบาล ตามบ้านที่เป็นเหยื่อจากอุบัติเหตุ ไปพูดประสบการณ์ให้เขาฟัง เพราะหมอพูดคนป่วยไม่เชื่อ แต่ถ้าคนเหล่านี้พูดเขาจะเชื่อ 3.ไปตามสถานที่โรงงานที่ให้ไปพูด เล่าประสบการณ์ตนเองให้กับคนอื่น ๆ ได้ฟัง เอาวิกฤติมาเป็นโอกาส 4.ไปกับตำรวจ ไปอยู่ตามด่านที่ตรวจแอลกกอฮอล์ เวลาตำรวจตั้งด่านให้คนพิการพูดกับคนเมา ซึ่งการทำกิจกรรมดังกล่าวเปรียบเสมือนเขาทำงาน สำหรับโครงการเมาไม่ขับทางกระทรวงแรงงานเห็นด้วย เพราะเข้าข่าย ม.35 พรบ.ส่งเสริมคุณภาพคนพิการ สามารถทำกิจกรรมอย่างอื่น จ้างเหมา ช่วยเหลือคนพิการ แล้วกิจกรรมที่ทำตรงนี้ถือว่าเป็นการจ้างงานคนพิการ ไม่ต้องโยนเงินเข้ากองทุนมาจ้างคนพิการได้โดยตรง.

คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่

คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่

คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/375613 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 26 ม.ค.59
วันที่โพสต์: 27/01/2559 เวลา 10:01:37 ดูภาพสไลด์โชว์ คนพิการเฮมูลนิธิเมาไม่ขับ ดันการจ้างงานรูปแบบใหม่