สาวพิการทางการได้ยิน สู้ชีวิตเปิดร้านขายน้ำ ใช้วิธีอ่านปากลูกค้ารับออเดอร์
สาวลูกตำรวจวัย 27 ปีพิการทางการได้ยินมาตั้งแต่อายุ 3 ขวบกว่า สู้ชีวิตด้วยการหันมาเปิดร้านขายน้ำชา กาแฟ โดยใช้วิธีอ่านปากลูกค้าหากยาวไปก็ให้เขียนลงในกระดาษ สร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทต่อวัน
8 กรกฎาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ร้านพันไมล์ กาแฟสด บ้านหนองหอย หมู่ที่ 3 ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด จ.ตรัง ซึ่งเป็นร้านของ น.ส. พันไมล์ ปานยัง หรือน้องแบม อายุ 27 ปี ลูกสาวตำรวจในพื้นที่ ได้เปิดร้านขายเครื่องดื่มประเภทน้ำ เช่น ชาไทย กาแฟสด ชาเขียว ชาเย็น โกโก้ และน้ำผลไม้ต่าง ๆ กว่า 30 เมนู ซึ่งความพิเศษของน้องแบมคือน้องมีความพิการทางการได้ยินถึงร้อยละ 80 เวลามีลูกค้ามาสั่งซื้อน้ำ น้องจะใช้วิธีอ่านปากของลูกค้า หากพูดยาวไปก็จะให้ลูกค้าเขียนลงในกระดาษและใช้เครื่องคิดเลขคิดเงิน พร้อมบริการส่งเครื่องดื่มให้ลูกค้าถึงโรงงาน สถานที่ราชการและบ้านใกล้เคียงในรัศมีไม่เกิน 1 กิโลเมตร
โดยอาศัยการเขียนลงในกระดาษเป็นหลัก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าขาประจำที่ชื่นชอบรสชาติเครื่องดื่มที่เข้มข้น กลมกล่อม แก้วใหญ่ ให้เยอะ คุ้มราคา ซึ่งน้องแบมได้เรียนรู้การขายน้ำจากยูทูปจากไม่กี่เมนูเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้กลายมาเป็นกว่า 30 เมนูแล้ว ราคาขายตั้งแต่แก้วละ 20-45 บาท สร้างรายได้ตั้งแต่ 700-2,500 บาทต่อวันเลยทีเดียว
และเนื่องจากน้องแบมหน้าตาสะสวย ยิ้มเก่ง และร่าเริง ทำให้มีลูกค้าแวะเวียนมาอุดหนุนอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งนางจุฬาภรณ์ ปานยัง อายุ 52 ปีคุณแม่ของน้องแบมเล่าว่า ตอนน้องแบมมีอายุได้ 3 ปีกว่าเกิดอาการช็อก รักษาตัวอยู่นานหลายปี โดยแพทย์บอกว่ามีอาการเกี่ยวกับเส้นประสาทหู ทำให้สูญเสียการได้ยินไปบางส่วน แต่น้องแบมเป็นคนสู้ชีวิตตั้งใจเล่าเรียนจนจบชั้นม.6 แล้วจึงมาเปิดร้านขายน้ำอยู่กับแม่ ซึ่งเป็นร้านเล็กๆ ในหมู่บ้าน จนในปี 2567 จึงขยายกิจการเป็นของตัวเองข้างร้านคุณแม่
โดยมีคุณพ่อให้การสนับสนุน จนน้องแบมยืนได้ด้วยตัวเองและมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 30,000-40,000 บาทต่อเดือน กลายเป็นแบบอย่างที่ดีของชุมชน สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้พิการรายอื่นๆ ไม่ย่อท้อ และมีหนุ่มๆ มาแวะเวียนอยู่ประจำแต่น้องแบมก็ยังโสดสนิท ยังไม่คิดมีแฟน เพราะตั้งใจหาเงินไว้ต่อยอดธุรกิจให้มีเมนูน้ำดื่มที่หลากหลายมากขึ้น ในราคาสบายกระเป๋า เพื่อให้ลูกค้าทุกคนสามารถทานได้
โดยนางจุฬาภรณ์ ปานยัง คุณแม่ของน้องแบม กล่าวว่า ตอนอายุ 3 ปีกว่าน้องช็อกต้องไปอยู่โรงพยาบาลห้วยยอด ก่อนจะส่งต่อไปที่โรงพยาบาลตรังนานประมาณ 20 วันพอฟื้นขึ้นมาน้องก็มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาทหู ต้องหาหมอที่ ม.อ. สงขลาและโรงพยาบาลรามาจนต้องผ่าตัดที่โรงพยาบาลรามา และต้องส่งน้องไปเรียนที่โรงเรียนภาษามือ โดยเปิดร้านขายน้ำเมื่อปีที่ผ่านมา
'ขายแก้วละ 20-45 บาท ขายได้ขั้นต่ำวันละ 700 มากสุดคือ 2,000 กว่าบาท ที่มากสุดคือ 1,000 กว่าบาทต่อวัน โดยน้องเข้าไปดูในเฟสและคิดค้นดัดแปลงได้หลายเมนูขึ้น ลูกค้ามีเยอะส่วนมากเป็นคนแถวนี้เพราะน้องมีอัธยาศัยดี ชอบยิ้ม ชอบสนุก ซึ่งตนภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้มาก เพราะน้องสามารถช่วยตัวเองได้และไปซื้อของเองได้ โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรของเขา เขาเก่ง'
ขอบคุณ... https://www.naewna.com/likesara/897591