ผนึกเครือข่าย 3 องค์กร ยกระดับคุณภาพชีวิตคนพิการ
ข้อมูลจากกรมส่งเสริม และพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการเมื่อเดือน มิ.ย. 2560 ระบุว่ามีจำนวนคนพิการที่ได้รับการออกบัตรประจำตัวคนพิการทั้งหมด 1,802,375 คน ในจำนวนนี้มีคนพิการอยู่ในวัยทำงาน (อายุ 15-60 ปี) จำนวน 802,058 คน โดยได้ทำงานแล้ว 227,924 คน ดังนั้น ยังมีแรงงานคนพิการอีกเป็นจำนวนมากที่พร้อมเข้าสู่การจ้างงาน สมาคมธนาคารไทย จึงเดินหน้าโครงการ “สมาคมธนาคารไทยส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ” ด้วยการผสานเครือข่ายการทำงานร่วมกับชมรม CSR สมาคมธนาคารไทย และ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด โดยมุ่งไปที่การพัฒนาศักยภาพแรงงานคนพิการที่ปฏิบัติงานในสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัด 76 แห่ง และกิ่งกาชาดอำเภอ 240 แห่งทั่วประเทศ
ทั้งนี้ ธนาคารสมาชิกของสมาคมธนาคารไทยทั้ง 14 แห่งได้จ้างเหมาบริการการจ้างงานคนพิการ รวม 902 คน ให้ทำงานกับสภากาชาดไทย โดยปีแรกของโครงการนี้ สภากาชาดไทยสามารถรับคนพิการเข้าไปช่วยทำงานในสำนักงานเหล่ากาชาด และกิ่งกาชาดอำเภอรวม 668 อัตรา
“ฐิตินันท์ วัธนเวคิน” ประธานชมรม CSR สมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ปัญหาที่พบเจอคือคนพิการจำนวนมากมีศักยภาพสูง แต่ขาดแคลนอุปกรณ์การทำงาน โดยเฉพาะคอมพิวเตอร์ ทางสมาคมจึงรับบริจาคคอมพิวเตอร์จากธนาคารสมาชิกที่มีกำหนดระยะเวลาต้องเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อบริจาคให้กับสภากาชาดไทยสำหรับให้คนพิการได้ใช้ทำงาน “สมาคมได้รวบรวมและรับบริจาคเครื่องคอมพิวเตอร์จากธนาคารสมาชิกที่มีโครงการเปลี่ยนเครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่แทนรุ่นเก่าให้กับพนักงานในช่วงปลายปี 2559-2560 รวมถึงการรับบริจาคเครื่องใหม่ตามความประสงค์ของธนาคารผู้บริจาค โดยมีธนาคารสมาชิก 5 แห่ง ที่มีแผนเปลี่ยนคอมพิวเตอร์รุ่นเก่า ให้การสนับสนุนโครงการรวม 550 ชุด”
ธนาคารดังกล่าว ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน), ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน), ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน), ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) และธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ สมาคมธนาคารไทยยังได้รับความร่วมมือเป็นพิเศษจากบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งได้มอบซอฟต์แวร์ที่จำเป็นในการทำงาน ทั้งซอฟต์แวร์ วินโดวส์ 10 ออฟฟิศ 365 และออฟฟิศ 2016 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เช่น การเก็บข้อมูลด้านต่าง ๆ งานประชาสัมพันธ์ งานเอกสารการประชุม เอกสารการเงิน บันทึกการทำบัญชี และพัฒนาศักยภาพให้กับคนพิการผ่านการเรียนรู้แบบดิจิทัล
“การบริจาคคอมพิวเตอร์ทำให้สภากาชาดไทยไม่ต้องซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ และประหยัดเงินไปได้ถึง 70 ล้านบาท แต่สิ่งที่แรงงานคนพิการได้รับมากกว่านั้นคือ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และศักดิ์ศรี เพราะจากเป็นผู้ที่ได้รับความช่วยเหลืออย่างเดียว กลายมาเป็นผู้ที่สามารถช่วยเหลือคนอื่นได้ด้วย”
“แผนงานถัดไปที่เราวางไว้คือ จะให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนทางการเงินกับคนพิการ เพราะเมื่อให้อาชีพเขาแล้ว เราต้องเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้พวกเขามีความสะดวกในการทำงานมากขึ้น ขั้นต่อไปก็ต้องเสริมทักษะและองค์ความรู้ด้านอื่น ๆ และความรู้ด้านการเงินก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่จะช่วยยกระดับแรงงานคนพิการให้สามารถวางแผนชีวิตตัวเองได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” ทั้งนั้นเพื่อตอบโจทย์การส่งเสริมทักษะ และศักยภาพของคนพิการให้ครอบคลุมในทุกมิติ