โฟกัสวิกฤติปฐมวัย(1) 'ติดเล่นไฮเทค' เป็น'ออทิสติกเทียม!'

แสดงความคิดเห็น

โฟกัสวิกฤติปฐมวัย(1) 'ติดเล่นไฮเทค' เป็น'ออทิสติกเทียม!'

ปัจจุบันปัญหาการ “ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ที่เกิดมากขึ้นในเด็ก ส่งผลทำให้เด็กรุ่นใหม่เกิด ’สภาวะสมาธิสั้นเทียม“ มากขึ้น รวมถึงมีแนวโน้มที่เด็กไทยจะ มีพัฒนาการทางภาษาที่ช้าลง จนทำให้เกิดอีกสภาวะ สถานการณ์โลกปัจจุบันเสมือนเรียกร้องให้เด็กทั่วโลก รวมถึง ’เด็กไทยรุ่นใหม่“ จำเป็นต้องมี “ทักษะของศตวรรษที่ 21” ตั้งแต่กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า... ด้วยระบบการเรียนการสอนในห้องเรียนในโรงเรียนรูปแบบเดิม ๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล หรือ ’เด็กช่วงปฐมวัย“ ยังไม่เอื้อต่อการไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างที่ควรเป็น เพราะ ’ยังมีอุปสรรค-ข้อจำกัด“ ในหลายด้าน โดยเฉพาะกับ “การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก” ที่ดูเหมือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน “ประเทศไทย” จะมีปัญหาอยู่ไม่น้อย...และเกี่ยวกับ “แนวทางการแก้ปัญหา” เพื่อการลดอุปสรรคและข้อจำกัดในการพัฒนาทักษะเด็กไทยให้สามารถรับมือกับโลกในศตวรรษที่ 21 นั้น

เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางสถาบันนานมีบุ๊คส์อินโนเวชั่น ได้มีการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ Sensory Integration & Active Learning For Active Citizen ขึ้น เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปีของทางนานมีบุ๊คส์ โดยได้มีการเชิญนักวิชาการ นักการศึกษา และครูปฐมวัย เข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงร่วมสะท้อนมุมมองในเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้มีการหยิบยก นำเอา “กรณีศึกษาประเทศไทย” และ “กรณีศึกษาต่างประเทศ” ขึ้นมาสะท้อน...ผ่าน “มุมมอง” ของ “นักการศึกษา-นักวิชาการ” มีมุมสะท้อนทั้งส่วนของไทย และต่างประเทศ โดยเวทีนี้ก็มี ’มุมวิเคราะห์ที่น่าสนใจ“ ไม่น้อย

สำหรับ “มุมสะท้อน-มุมวิเคราะห์” ของ “นักวิชาการ-นักการศึกษาไทย” นั้น ทาง ธิดา พิทักษ์สินสุข คณะทำงานจัดทำรายงานการปฏิรูปการปฐมวัยของประเทศ ได้สะท้อนปัญหาดังกล่าวผ่านการบรรยายในหัวข้อ “แนวทางการขับเคลื่อนการศึกษาปฐมวัยในอนาคต” โดยได้โฟกัสไปที่เรื่องของ “การสร้างรากฐานการเรียนรู้ของเด็ก” สรุปได้ว่า ปัจจุบันปัญหาการ “ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ที่เกิดมากขึ้นในเด็ก ส่งผลทำให้เด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มเกิด ’สภาวะสมาธิสั้นเทียม“ มากขึ้น รวมถึงมีแนวโน้มที่เด็กไทยจะ มีพัฒนาการทางภาษาที่ช้าลง จนทำให้เกิดอีกสภาวะ ที่เรียกกันว่า ’สภาวะของออทิสติกเทียม!!!“ จนอาจทำให้ไทยต้องเจอกับ ’วิกฤติปฐมวัย“ ทางอาจารย์ธิดายังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ไว้อีกว่า... จากผลการสำรวจเด็กไทย ช่วงอายุระหว่าง 1-3 ปี พบว่า... มีเด็กที่มี พัฒนาการล่าช้าไม่สมวัย โดยพบปัญหาดังกล่าวนี้มากถึงร้อยละ 28.6 ซึ่งต้องถือว่า เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของประเทศไทย!!! เพราะ...พัฒนาการเรียนรู้ของเด็กช่วงปฐมวัยจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงพัฒนาการของเด็กในช่วงวัยที่โตขึ้น ดังนั้น “วิกฤติปฐมวัย” จึงเป็น “วิกฤติที่สำคัญของประเทศ” ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุก ๆ ภาคส่วนในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะ “ครูอนุบาล-ผู้บริหารโรงเรียน” ที่ถือเป็น “ผู้จุดประกายทักษะ” ต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ

กุญแจสำคัญจึงอยู่ที่คุณครูอนุบาลทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้ที่ควรจะคำนึงถึงปัญหานี้มากที่สุด เพราะอนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับอนาคตของปฐมวัย ดังนั้น หน้าที่ของครูอนุบาล จึงถือว่าเป็นผู้สร้างอนาคตของเด็ก ๆ โดยแท้จริง เป็นประเด็นน่าคิดที่ทางนักวิชาการด้านการศึกษาท่านนี้ได้มีการสะท้อนไว้ ส่วน “เสียงสะท้อน” จากฝั่ง “ครู” กับการแก้ไข “วิกฤติปฐมวัย” นั้น ทาง วรรณธนา เดวีเลาะห์ ครูประจำระดับชั้นอนุบาล รร.ศาลาคู้ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ระบุไว้สรุปได้ว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มครูด้วยกันก็เคยถกปัญหาเรื่องพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก และทำให้ต้องกลับมาคิดต่อกันว่า จะทำอย่างไรให้การสอนเด็กอนุบาลเชื่อมโยงกับการสอนของเด็กประถมได้? เพราะบางครั้งนโยบายที่ได้รับมานั้นอาจตรงกันข้ามกับสิ่งที่ครูเคยปฏิบัติ ที่สำคัญ...พอเด็กที่สอนขึ้นไปเรียนชั้นประถมฯ ก็จะถูกถามกลับมาว่า เพราะเหตุใดเด็กถึงอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้? ซึ่ง กรณีนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะตัวเด็ก...แต่ยังกลายเป็น ’ปัญหาของครู“ อีกด้วย!!!

ทั้งนี้ นอกจากปัญหาในเรื่องดังกล่าวข้างต้น อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่แพ้กัน นั่นคือ “ปัญหาการสอนเด็กระดับปฐมวัย” เช่น การขาดทักษะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กไทย ที่ทำให้คะแนนค่าเฉลี่ยวัดผลของเด็กไทยนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญของเด็กไทย และรวมถึงการศึกษาของไทย ในเวลานี้ด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เกี่ยวโยงกับเรื่องนี้ ทาง คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการและเลขานุการโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการ สอนแบบ Active Learning ให้กับเด็กชั้นอนุบาล ได้ให้ข้อมูลและเป้าหมายเกี่ยวกับโครงการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย” ที่จัดขึ้น โดยสรุปบางส่วนคือ... วิธีการเรียนรู้ของบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย คือการ มุ่งเน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่กระบวนการคิดด้วยตัวเอง และคุณครูจะทำหน้าที่สอบถามเด็กเพื่อดูวิธีตอบคำถาม ซึ่งมักมีคำตอบที่แตกต่างกันไป และเมื่อครูทราบถึงวิธีการ ก็จะสามารถนำไปใช้เชื่อมโยงกับบริบทในโรงเรียนได้... เพื่อนำสู่การ ’ออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม“ ให้เด็ก ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างแนวทางแก้ปัญหา เรื่อง ’เด็กปฐมวัย“ ในไทยมิใช่แค่เรื่องเด็ก ๆ และก็ยังมี ’มุมมองนักวิชาการต่างประเทศ“ ที่วิเคราะห์ไว้น่าสนใจ...มาดูกันตอนต่อไป

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/article/592167

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 17 ส.ค.60
วันที่โพสต์: 18/08/2560 เวลา 10:49:05 ดูภาพสไลด์โชว์ โฟกัสวิกฤติปฐมวัย(1) 'ติดเล่นไฮเทค' เป็น'ออทิสติกเทียม!'

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โฟกัสวิกฤติปฐมวัย(1) 'ติดเล่นไฮเทค' เป็น'ออทิสติกเทียม!' ปัจจุบันปัญหาการ “ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ที่เกิดมากขึ้นในเด็ก ส่งผลทำให้เด็กรุ่นใหม่เกิด ’สภาวะสมาธิสั้นเทียม“ มากขึ้น รวมถึงมีแนวโน้มที่เด็กไทยจะ มีพัฒนาการทางภาษาที่ช้าลง จนทำให้เกิดอีกสภาวะ สถานการณ์โลกปัจจุบันเสมือนเรียกร้องให้เด็กทั่วโลก รวมถึง ’เด็กไทยรุ่นใหม่“ จำเป็นต้องมี “ทักษะของศตวรรษที่ 21” ตั้งแต่กระบวนการคิดอย่างมีวิจารณญาณ มีความคิดสร้างสรรค์ และรู้เท่าทันเทคโนโลยี อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า... ด้วยระบบการเรียนการสอนในห้องเรียนในโรงเรียนรูปแบบเดิม ๆ ตั้งแต่ชั้นอนุบาล หรือ ’เด็กช่วงปฐมวัย“ ยังไม่เอื้อต่อการไปถึงเป้าหมายดังกล่าวได้อย่างที่ควรเป็น เพราะ ’ยังมีอุปสรรค-ข้อจำกัด“ ในหลายด้าน โดยเฉพาะกับ “การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก” ที่ดูเหมือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ใน “ประเทศไทย” จะมีปัญหาอยู่ไม่น้อย...และเกี่ยวกับ “แนวทางการแก้ปัญหา” เพื่อการลดอุปสรรคและข้อจำกัดในการพัฒนาทักษะเด็กไทยให้สามารถรับมือกับโลกในศตวรรษที่ 21 นั้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ ทางสถาบันนานมีบุ๊คส์อินโนเวชั่น ได้มีการจัดกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการหัวข้อ Sensory Integration & Active Learning For Active Citizen ขึ้น เนื่องในโอกาสฉลองครบรอบ 25 ปีของทางนานมีบุ๊คส์ โดยได้มีการเชิญนักวิชาการ นักการศึกษา และครูปฐมวัย เข้าร่วมกิจกรรม รวมถึงร่วมสะท้อนมุมมองในเรื่องนี้ ซึ่งก็ได้มีการหยิบยก นำเอา “กรณีศึกษาประเทศไทย” และ “กรณีศึกษาต่างประเทศ” ขึ้นมาสะท้อน...ผ่าน “มุมมอง” ของ “นักการศึกษา-นักวิชาการ” มีมุมสะท้อนทั้งส่วนของไทย และต่างประเทศ โดยเวทีนี้ก็มี ’มุมวิเคราะห์ที่น่าสนใจ“ ไม่น้อย สำหรับ “มุมสะท้อน-มุมวิเคราะห์” ของ “นักวิชาการ-นักการศึกษาไทย” นั้น ทาง ธิดา พิทักษ์สินสุข คณะทำงานจัดทำรายงานการปฏิรูปการปฐมวัยของประเทศ ได้สะท้อนปัญหาดังกล่าวผ่านการบรรยายในหัวข้อ “แนวทางการขับเคลื่อนการศึกษาปฐมวัยในอนาคต” โดยได้โฟกัสไปที่เรื่องของ “การสร้างรากฐานการเรียนรู้ของเด็ก” สรุปได้ว่า ปัจจุบันปัญหาการ “ติดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์” ที่เกิดมากขึ้นในเด็ก ส่งผลทำให้เด็กรุ่นใหม่มีแนวโน้มเกิด ’สภาวะสมาธิสั้นเทียม“ มากขึ้น รวมถึงมีแนวโน้มที่เด็กไทยจะ มีพัฒนาการทางภาษาที่ช้าลง จนทำให้เกิดอีกสภาวะ ที่เรียกกันว่า ’สภาวะของออทิสติกเทียม!!!“ จนอาจทำให้ไทยต้องเจอกับ ’วิกฤติปฐมวัย“ ทางอาจารย์ธิดายังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ไว้อีกว่า... จากผลการสำรวจเด็กไทย ช่วงอายุระหว่าง 1-3 ปี พบว่า... มีเด็กที่มี พัฒนาการล่าช้าไม่สมวัย โดยพบปัญหาดังกล่าวนี้มากถึงร้อยละ 28.6 ซึ่งต้องถือว่า เป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ของประเทศไทย!!! เพราะ...พัฒนาการเรียนรู้ของเด็กช่วงปฐมวัยจะส่งผลต่อเนื่องไปถึงพัฒนาการของเด็กในช่วงวัยที่โตขึ้น ดังนั้น “วิกฤติปฐมวัย” จึงเป็น “วิกฤติที่สำคัญของประเทศ” ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากทุก ๆ ภาคส่วนในการแก้ปัญหา โดยเฉพาะ “ครูอนุบาล-ผู้บริหารโรงเรียน” ที่ถือเป็น “ผู้จุดประกายทักษะ” ต่าง ๆ ให้เด็ก ๆ กุญแจสำคัญจึงอยู่ที่คุณครูอนุบาลทั้งหลาย ซึ่งเป็นผู้ที่ควรจะคำนึงถึงปัญหานี้มากที่สุด เพราะอนาคตของประเทศขึ้นอยู่กับอนาคตของปฐมวัย ดังนั้น หน้าที่ของครูอนุบาล จึงถือว่าเป็นผู้สร้างอนาคตของเด็ก ๆ โดยแท้จริง เป็นประเด็นน่าคิดที่ทางนักวิชาการด้านการศึกษาท่านนี้ได้มีการสะท้อนไว้ ส่วน “เสียงสะท้อน” จากฝั่ง “ครู” กับการแก้ไข “วิกฤติปฐมวัย” นั้น ทาง วรรณธนา เดวีเลาะห์ ครูประจำระดับชั้นอนุบาล รร.ศาลาคู้ ที่เข้าร่วมกิจกรรม ระบุไว้สรุปได้ว่า ก่อนหน้านี้กลุ่มครูด้วยกันก็เคยถกปัญหาเรื่องพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก และทำให้ต้องกลับมาคิดต่อกันว่า จะทำอย่างไรให้การสอนเด็กอนุบาลเชื่อมโยงกับการสอนของเด็กประถมได้? เพราะบางครั้งนโยบายที่ได้รับมานั้นอาจตรงกันข้ามกับสิ่งที่ครูเคยปฏิบัติ ที่สำคัญ...พอเด็กที่สอนขึ้นไปเรียนชั้นประถมฯ ก็จะถูกถามกลับมาว่า เพราะเหตุใดเด็กถึงอ่านไม่ออก-เขียนไม่ได้? ซึ่ง กรณีนี้ไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะตัวเด็ก...แต่ยังกลายเป็น ’ปัญหาของครู“ อีกด้วย!!! ทั้งนี้ นอกจากปัญหาในเรื่องดังกล่าวข้างต้น อีกเรื่องหนึ่งที่ไม่แพ้กัน นั่นคือ “ปัญหาการสอนเด็กระดับปฐมวัย” เช่น การขาดทักษะทางวิทยาศาสตร์ของเด็กไทย ที่ทำให้คะแนนค่าเฉลี่ยวัดผลของเด็กไทยนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่สำคัญของเด็กไทย และรวมถึงการศึกษาของไทย ในเวลานี้ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เกี่ยวโยงกับเรื่องนี้ ทาง คิม จงสถิตย์วัฒนา กรรมการและเลขานุการโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการจัดการเรียนรู้ด้วยวิธีการ สอนแบบ Active Learning ให้กับเด็กชั้นอนุบาล ได้ให้ข้อมูลและเป้าหมายเกี่ยวกับโครงการ “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย” ที่จัดขึ้น โดยสรุปบางส่วนคือ... วิธีการเรียนรู้ของบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย คือการ มุ่งเน้นให้เด็กได้ลงมือปฏิบัติ เพื่อนำไปสู่กระบวนการคิดด้วยตัวเอง และคุณครูจะทำหน้าที่สอบถามเด็กเพื่อดูวิธีตอบคำถาม ซึ่งมักมีคำตอบที่แตกต่างกันไป และเมื่อครูทราบถึงวิธีการ ก็จะสามารถนำไปใช้เชื่อมโยงกับบริบทในโรงเรียนได้... เพื่อนำสู่การ ’ออกแบบการเรียนการสอนที่เหมาะสม“ ให้เด็ก ๆ ซึ่งนี่ก็เป็นตัวอย่างแนวทางแก้ปัญหา เรื่อง ’เด็กปฐมวัย“ ในไทยมิใช่แค่เรื่องเด็ก ๆ และก็ยังมี ’มุมมองนักวิชาการต่างประเทศ“ ที่วิเคราะห์ไว้น่าสนใจ...มาดูกันตอนต่อไป ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/article/592167

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...