“นายกฯ”ชูแนวทางพระราชดำริร.9 ทำให้คนตาบอดเป็นด็อกเตอร์
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านรายการศาสตร์พระราชา กล่าวว่าองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันคนพิการสากล” ตนจึงขอนำเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของนายช่วง โพธิรัญ อายุ 68 ปี เป็นผู้บกพร่องทางสายตาเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพซึ่งตั้งขึ้นมาด้วยแนวพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้ทุกวันนี้คนตาบอดที่มีความพร้อม มีศักยภาพและความสามารถได้รับโอกาสทางการศึกษาไม่ต่างจากคนทั่วไปสามารถเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาทั่วไปสามารถสอบชิงทุนไปเรียนในสถาบันอุดมศึกษาต่างประเทศ จนขณะนี้มีคนตาบอดเรียนจบปริญญาเอกเป็นด็อกเตอร์แล้วหลายคน
นอกจากนี้ ทรงมีพระราชประสงค์อยากให้ผู้พิการทางสายตาทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตไม่ท้อถอยกับโชคชะตาพระองค์จึงทรงพระราชนิพนธ์บทเพลง “ยิ้มสู้” ขึ้นมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้พิการทุกคน ซึ่งปัจจุบันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจกับทุกคนในประเทศไทยให้มีความเพียรอันบริสุทธิ์และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ทั้งนี้บ่อยครั้งที่พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชทานเลี้ยงอาหารที่โรงเรียนสอนคนตาบอดฯ ช่วงปีใหม่ โดยนายรัชตะมงคล อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดฯ เล่าว่าสมัยก่อนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาที่โรงเรียนบ่อยมากเพื่อไปทรงเยี่ยมเยียนนักเรียนผู้พิการทางสายตาหลายครั้งที่พระองค์โปรดที่จะเล่นกับเด็กๆ โดยไม่ให้บอกว่าพระองค์คือใครแต่ทรงให้ขานพระนามย่อว่า “พล” อีกทั้งยังทรงเป็นพระอาจารย์สอนวิชาดนตรีให้แก่ผู้พิการทางสายตา และทรงเป่าแซกโซโฟน พระราชทานแก่ทุกคนอีกด้วย
ขอบคุณ... http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=799664
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านรายการศาสตร์พระราชา กล่าวว่าองค์การสหประชาชาติ ได้ประกาศให้วันที่ 3 ธันวาคมของทุกปี เป็น “วันคนพิการสากล” ตนจึงขอนำเรื่องเล่าจากประสบการณ์ของนายช่วง โพธิรัญ อายุ 68 ปี เป็นผู้บกพร่องทางสายตาเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดกรุงเทพซึ่งตั้งขึ้นมาด้วยแนวพระราชดำริของ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้ทุกวันนี้คนตาบอดที่มีความพร้อม มีศักยภาพและความสามารถได้รับโอกาสทางการศึกษาไม่ต่างจากคนทั่วไปสามารถเข้าเรียนในสถาบันการศึกษาทั่วไปสามารถสอบชิงทุนไปเรียนในสถาบันอุดมศึกษาต่างประเทศ จนขณะนี้มีคนตาบอดเรียนจบปริญญาเอกเป็นด็อกเตอร์แล้วหลายคน นอกจากนี้ ทรงมีพระราชประสงค์อยากให้ผู้พิการทางสายตาทุกคนลุกขึ้นมาต่อสู้กับชีวิตไม่ท้อถอยกับโชคชะตาพระองค์จึงทรงพระราชนิพนธ์บทเพลง “ยิ้มสู้” ขึ้นมาเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้ผู้พิการทุกคน ซึ่งปัจจุบันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจกับทุกคนในประเทศไทยให้มีความเพียรอันบริสุทธิ์และไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ทั้งนี้บ่อยครั้งที่พระองค์พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์เสด็จพระราชทานเลี้ยงอาหารที่โรงเรียนสอนคนตาบอดฯ ช่วงปีใหม่ โดยนายรัชตะมงคล อุปนายกสมาคมศิษย์เก่าโรงเรียนสอนคนตาบอดฯ เล่าว่าสมัยก่อนพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จมาที่โรงเรียนบ่อยมากเพื่อไปทรงเยี่ยมเยียนนักเรียนผู้พิการทางสายตาหลายครั้งที่พระองค์โปรดที่จะเล่นกับเด็กๆ โดยไม่ให้บอกว่าพระองค์คือใครแต่ทรงให้ขานพระนามย่อว่า “พล” อีกทั้งยังทรงเป็นพระอาจารย์สอนวิชาดนตรีให้แก่ผู้พิการทางสายตา และทรงเป่าแซกโซโฟน พระราชทานแก่ทุกคนอีกด้วย ขอบคุณ... http://breakingnews.nationtv.tv/home/read.php?newsid=799664
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)