6 กทม.แจงตัดงบรถฟรีรับส่งผู้พิการ เงินเก่ายังเหลือใช้หมดค่อยขอใหม่...ติงส.ก.ไม่เอื้ออาทรคนด้อยโอกาส

เสาชิงช้า กลุ่มผู้พิการยื่นหนังสือร้องประธานสภา กทม.ขอให้ชี้แจงกรณีตัดงบโครงการรถบริการผู้พิการผู้สูงอายุ วอนอย่าปิดกั้นโอกาสในการเดินทางพบปะกัน ส.ก.อ้างไม่ได้ตัดงบ แต่ให้ใช้งบเก่าให้หมดก่อนแล้วค่อยมาขอใหม่

เมื่อวันที่ 1 กันยายน เวลา 12.30 น. ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยพลโทโชติภณ จันทร์อยู่ สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร รับหนังสือจาก น.ส.สุภา วงศ์วนพัฒน์ ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้รถบริการผู้พิการและผู้สูงอายุที่ใช้รถเข็นนำผู้พิการจำนวน 15 คน มายื่นหนังสือขอความชัดเจนจากประธานสภา กทม. หลังจากที่ได้ทราบข่าวกรณีที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 กทม.ได้ตัดงบโครงการรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุของสำนักการจราจรและขนส่ง ทำให้ผู้พิการเกิดความไม่สบายใจในเรื่องการตัดงบประมาณในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากโครงการนี้เป็นประโยชน์กับคนพิการและผู้สูงอายุได้เรื่องการเดินทางและทำให้เกิดความสะดวกสบายมากขึ้น

ประธานสภา กทม.ชี้แจงกับตัวแทนกลุ่มผู้พิการว่า สภา กทม.ไม่มีนโยบายที่จะตัดงบประมาณการดูแลคนพิการแต่อย่างใด โดยจะขอดูรายละเอียดกับทางสำนักการจราจรและขนส่งอีกครั้งก่อน ซึ่งยืนยันว่าเราให้ความสำคัญกับผู้พิการและผู้สูงอายุมาโดยตลอดในการเข้าถึงการบริการทุกรูปแบบ และการจัดทำโครงการต่างๆ เพื่อเอื้ออำนวยและผลประโยชน์ต่อคนพิการมากที่สุด ทั้งนี้ การพิจารณาตรวจสอบงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ของแต่ละสำนัก จะมีคณะกรรมการของสภา กทม.แต่ละชุดดูแลเฉพาะของหน่วยงานนั้นๆเพื่อให้เกิดความโปร่งใสครอบคลุมและคุ้มค่าในการใช้งบประมาณมากที่สุด

น.ส.สุภากล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่า สภา กทม.ตัดงบประมาณรถบริการสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ เนื่องจากวัตถุประสงค์ของโครงการยังไม่สอดคล้องกับระเบียบ ในเรื่องนี้ตนขอชี้แจงว่า โครงการดังกล่าวทำให้คนพิการและผู้สูงอายุมีโอกาสได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง

"การที่พวกเราไปห้างสรรพสินค้า เราไม่ได้ไปเที่ยว แต่ในห้างเดี๋ยวนี้มีธนาคาร มีสิ่งต่างๆ ทั้งข้าวของเครื่องใช้ อาหาร ดังนั้น หากจำกัดการเดินทางให้แค่ไปโรงพยาบาลและสถานที่ราชการ เท่ากับเป็นการตัดโอกาสของผู้พิการและผู้สูงอายุในการพบปะกัน"นางสาวสุภากล่าว

น.ส.สุภากล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีประโยชน์และดีมากๆ สำหรับคนพิการที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายตัวเองได้ เพราะแท็กซี่ส่วนใหญ่ปฏิเสธที่จะให้บริการ ไม่อยากรับคนพิการ-ผู้สูงอายุที่นั่งรถเข็น ซึ่งหลังจากมีโครงการนี้ทำให้ชีวิตพวกเรามีจิตใจที่แจ่มใสมากขึ้น

ทั้งนี้ ตัวแทนกลุ่มผู้ใช้รถบริการผู้พิการและผู้สูงอายุ กล่าวว่า ในวันนี้ตนอยากให้โครงการดังกล่าวอยู่ต่อไป และเพิ่มจำนวนรถให้มากขึ้นเป็น 100 คัน ตามที่เคยบอกไว้ ปัจจุบันมีรถเพียง 30 คัน ซึ่งไม่เพียงพอต่อการให้บริการในทุกพื้นที่ทั่ว กทม. อีกทั้งการติดต่อทะเบียนการใช้บริการ พวกเราต้องโทร.ไม่ต่ำกว่า 100 ครั้งขึ้นไปถึงจะติดต่อเจ้าหน้าที่ขอลงทะเบียนใช้บริการได้ซึ่งอยากให้ทางกทม.รับฟังข้อเสนอของพวกเราด้วย

นายอภิรัตน์ ศิวพรพิทักษ์ สมาชิกสภา กทม. ในฐานะคณะกรรมการจราจรและขนส่งและการระบาย กล่าวว่า ทางคณะกรรมการวิสามัญฯ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ไม่ได้ตัดโครงการทิ้งไป โครงการดังกล่าวจึงมีต่อไป แต่จากการที่สำนักการจราจรและขนส่ง (สจส.) ตั้งของบประมาณของโครงการดังกล่าวเป็นจำนวน 25,943,800 บาท ทางคณะกรรมการวิสามัญฯ เห็นว่า งบประมาณในปี 59 จำนวน 35,000,000 บาท นั้นยังไม่ได้มีการใช้เลยจึงเห็นควรให้นำงบในปี59 มาใช้ก่อน ซึ่งหากงบประมาณไม่พอก็สามารถขอเพิ่มได้ในปีต่อไป

"โครงการนี้มีความจำเป็นสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ แต่อยากให้มีการคัดกรองในทุกกลุ่มอย่างละเอียด เพื่อให้คนพิการทุกคนได้ใช้ประโยชน์จากโครงการดังกล่าวได้อย่างเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง"

นายอภิรัตน์กล่าว ด้านนายอมร กิจเชวงกูร รองผู้ว่าฯ กทม. โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโดยมีเนื้อหาใจความว่า รู้สึกเสียดายและเสียใจที่สมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ตัดงบประมาณอุดหนุนการดำเนินการโครงการรถโดยสารเพื่อคนสูงอายุและคนพิการที่ยากไร้ พร้อมระบุว่า ส.ก.บางคนที่แต่งตั้งโดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไม่เข้าใจความลำบากของผู้ด้อยโอกาสและมุ่งคิดแต่กำไรขาดทุน.

ขอบคุณ... http://www.ryt9.com/s/tpd/2500324

ที่มา: ryt9.comออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย2ก.ย.59
วันที่โพสต์: 2/09/2559 เวลา 11:21:04