จ้างงาน คนพิการ สร้างเศรษฐกิจควบคู่ดูแลสังคม
เล่าสู่กันฟัง : จ้างงาน คนพิการ สร้างเศรษฐกิจควบคู่ดูแลสังคม : โดย...บัญญัติ คำนูญวัฒน์ ก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวของบริษัทเครื่องสำอาง แบรนด์ “เดอะ โซป โค” ที่เมืองเคสวิค ประเทศอังกฤษ ที่ตั้งใจทำธุรกิจที่สามารถมอบทั้งความงามให้แก่ผู้บริโภค และยังมอบโอกาสให้แก่คนเล็กคนน้อยในสังคมด้วยการจ้างงาน คนพิการ และคนด้อยโอกาสไปพร้อมๆ กัน ฟังแล้วรู้สึกชื่นชมและอยากเห็นสิ่งดีๆ อย่างนี้เกิดขึ้นในบ้านเราบ้าง
เมื่อได้ยินข่าวว่า 6 องค์กรวิชาชีพ และอีก 200 องค์กรเอกชน ผนึกกำลังผสานพลังประชารัฐ จ้างงาน คนพิการ ในปีนี้ 1 หมื่นอัตรา พร้อมกับมีเสียงตอบจากหลายภาคส่วน ก็รู้สึกดีใจ และเห็นว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันมีผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต คนพิการ มากถึง 1,529,734 (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ค.59) ดังนั้น การจ้างงานผู้พิการจึงไม่เพียงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่นำไปสู่ความเท่าเทียม ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำแล้ว ยังจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจนับพันล้านบาทต่อปีด้วย
“ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เราจะรู้ว่าจริงๆ แล้วผู้พิการจำนวนมากมีศักยภาพในการทำงาน เพียงแต่เขาเหล่านี้อาจจะขาดโอกาสในการพัฒนา” ผู้บริหารของเดอะ โซป โค เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ซึ่งทำให้เห็นว่าถ้าเราเชื่อในพลังความคิด ความสามารถของ คนพิการ คนเหล่านี้ก็สามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างเหลือเชื่อ
นายเจเรมี โรบินสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเดอะ โซป โค กล่าวไว้อีกว่า ได้จ้างงาน คนพิการ และด้อยโอกาสถึง 80% ของกำลังคนทั้งหมดในบริษัท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนตาบอดและผู้พิการทางสายตามากที่สุด ซึ่งบริษัทได้ให้เขาทำงานจริงๆ ทำให้คนเหล่านี้มีความมั่นใจและมีการพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง ธุรกิจของเดอะ โซป โค ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับจากสังคมว่าการทำเงินในธุรกิจเอกชนสามารถดำเนินควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคมได้
ปัจจุบันในอังกฤษมีนักธุรกิจมากกว่า 1 ใน 4 ที่ตัดสินใจเปิดธุรกิจของตนเองขึ้นมา เพื่อหวังช่วยสังคม ซึ่งล่าสุดมีธุรกิจเพื่อสังคมจดทะเบียนในอังกฤษแล้วกว่า 7 หมื่นแห่ง สำหรับประเทศไทยวันนี้ได้เน้นการบูรณาการพลังร่วมจากทุกภาคส่วนและสนับสนุนการจ้างงานและการส่งเสริมอาชีพ คนพิการ มิติใหม่ โดยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจในการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานตามมาตรา 33 ซึ่งสถานประกอบการไม่เพียงแต่จ้าง คนพิการ ทำงานตรงกับบริษัท แต่ยังสามารถจ้าง คนพิการ ให้ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะในชุมชน หรือภูมิลำเนาได้ และยังส่งเสริมอาชีพตาม มาตรา 35 ที่บริษัทสามารถให้การสนับสนุน คนพิการ ที่มีความต้องการประกอบอาชีพอิสระได้
จังหวะนี้จึงเป็นโอกาสของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมกันดูแลสังคมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ทำให้ผู้พิการได้ทำงานที่มีคุณค่า พร้อมกับมีรายได้ มีอิสระ มีศักดิ์ศรีและพึ่งพาตนเอง และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่องค์กรที่ได้มีส่วนร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อมๆ กัน
ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000074478 (ขนาดไฟล์: 167)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
นายบัญญัติ คำนูญวัฒน์ เล่าสู่กันฟัง : จ้างงาน คนพิการ สร้างเศรษฐกิจควบคู่ดูแลสังคม : โดย...บัญญัติ คำนูญวัฒน์ ก่อนหน้านี้ ได้มีโอกาสรับรู้เรื่องราวของบริษัทเครื่องสำอาง แบรนด์ “เดอะ โซป โค” ที่เมืองเคสวิค ประเทศอังกฤษ ที่ตั้งใจทำธุรกิจที่สามารถมอบทั้งความงามให้แก่ผู้บริโภค และยังมอบโอกาสให้แก่คนเล็กคนน้อยในสังคมด้วยการจ้างงาน คนพิการ และคนด้อยโอกาสไปพร้อมๆ กัน ฟังแล้วรู้สึกชื่นชมและอยากเห็นสิ่งดีๆ อย่างนี้เกิดขึ้นในบ้านเราบ้าง เมื่อได้ยินข่าวว่า 6 องค์กรวิชาชีพ และอีก 200 องค์กรเอกชน ผนึกกำลังผสานพลังประชารัฐ จ้างงาน คนพิการ ในปีนี้ 1 หมื่นอัตรา พร้อมกับมีเสียงตอบจากหลายภาคส่วน ก็รู้สึกดีใจ และเห็นว่าน่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับประเทศไทย เนื่องจากปัจจุบันมีผู้พิการที่ขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิต คนพิการ มากถึง 1,529,734 (ข้อมูล ณ วันที่ 5 ก.ค.59) ดังนั้น การจ้างงานผู้พิการจึงไม่เพียงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการที่นำไปสู่ความเท่าเทียม ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำแล้ว ยังจะช่วยสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจนับพันล้านบาทต่อปีด้วย “ถ้าเราเปิดใจให้กว้าง เราจะรู้ว่าจริงๆ แล้วผู้พิการจำนวนมากมีศักยภาพในการทำงาน เพียงแต่เขาเหล่านี้อาจจะขาดโอกาสในการพัฒนา” ผู้บริหารของเดอะ โซป โค เคยให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อ ซึ่งทำให้เห็นว่าถ้าเราเชื่อในพลังความคิด ความสามารถของ คนพิการ คนเหล่านี้ก็สามารถสร้างธุรกิจให้เติบโตได้อย่างเหลือเชื่อ นายเจเรมี โรบินสัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเดอะ โซป โค กล่าวไว้อีกว่า ได้จ้างงาน คนพิการ และด้อยโอกาสถึง 80% ของกำลังคนทั้งหมดในบริษัท ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนตาบอดและผู้พิการทางสายตามากที่สุด ซึ่งบริษัทได้ให้เขาทำงานจริงๆ ทำให้คนเหล่านี้มีความมั่นใจและมีการพัฒนาฝีมืออย่างต่อเนื่อง ธุรกิจของเดอะ โซป โค ก็เติบโตอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับจากสังคมว่าการทำเงินในธุรกิจเอกชนสามารถดำเนินควบคู่ไปกับการช่วยเหลือสังคมได้ ปัจจุบันในอังกฤษมีนักธุรกิจมากกว่า 1 ใน 4 ที่ตัดสินใจเปิดธุรกิจของตนเองขึ้นมา เพื่อหวังช่วยสังคม ซึ่งล่าสุดมีธุรกิจเพื่อสังคมจดทะเบียนในอังกฤษแล้วกว่า 7 หมื่นแห่ง สำหรับประเทศไทยวันนี้ได้เน้นการบูรณาการพลังร่วมจากทุกภาคส่วนและสนับสนุนการจ้างงานและการส่งเสริมอาชีพ คนพิการ มิติใหม่ โดยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจในการปฏิบัติตามกฎหมายจ้างงานตามมาตรา 33 ซึ่งสถานประกอบการไม่เพียงแต่จ้าง คนพิการ ทำงานตรงกับบริษัท แต่ยังสามารถจ้าง คนพิการ ให้ทำงานเพื่อประโยชน์สาธารณะในชุมชน หรือภูมิลำเนาได้ และยังส่งเสริมอาชีพตาม มาตรา 35 ที่บริษัทสามารถให้การสนับสนุน คนพิการ ที่มีความต้องการประกอบอาชีพอิสระได้ จังหวะนี้จึงเป็นโอกาสของทั้งภาครัฐและเอกชนที่จะร่วมกันดูแลสังคมควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ ทำให้ผู้พิการได้ทำงานที่มีคุณค่า พร้อมกับมีรายได้ มีอิสระ มีศักดิ์ศรีและพึ่งพาตนเอง และสร้างความภาคภูมิใจให้แก่องค์กรที่ได้มีส่วนร่วมแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อมๆ กัน ขอบคุณ... http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9590000074478
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)