รายละเอียดกระทู้

โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ โดยบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อุบัติโครงการ "บิ๊กซีจับมือทำดีเพื่อชุมชน ปี 3" นับเป็นโอกาสดีที่โครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ โดยบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ร่วมกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย อุบัติโครงการ "บิ๊กซีจับมือทำดีเพื่อชุมชน ปี 3" เพื่อดำเนินการปรับปรุงอาคารสถานที่ พร้อมสนับสนุนสื่อการเรียนการสอนสำหรับเยาวชนผู้พิการ ให้สามารถเข้าถึงการศึกษาอย่างมีมาตรฐานและมีคุณภาพณศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสมุทรสงครามอ.เมือง จ.สมุทรสงคราม เบื้องต้น "วารุณี กิจเจริญพูลสิน" ผู้อำนวยการองค์กรสัมพันธ์ บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่าตลอด 3 ปีของการดำเนินโครงการผ่านมา เราสนับสนุนการมีส่วนร่วมของพนักงานกับชุมชน ตลอดจนงบประมาณเพื่อดำเนินโครงการต่างๆที่ได้รับการคัดเลือกให้ได้รับประโยชน์อย่างมาก "พร้อมกับช่วยรักษาดูแลสาธารณประโยชน์ต่างๆเนื่องจากบิ๊กซียังมีโครงการดี ๆ อีกจำนวนมากที่ทำควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนที่อยู่รอบ ๆ บิ๊กซีทั่วประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายการที่เราเป็นห้างค้าปลีกเพื่อชุมชนจนได้รับการโหวตจากประชาชน" ขณะที่ "สรายุธ ภูคัสมาส" ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดสมุทรสงคราม กล่าวเสริมว่าศูนย์แห่งนี้เป็นเหมือนโรงเรียนอนุบาลเด็กพิการแรกเริ่ม โดยจะช่วยเหลือเด็กพิการทุกประเภทให้เข้าสู่ระบบการศึกษา และเพื่อเตรียมความพร้อมจนเด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ แล้วจึงส่งต่อไปยังโรงเรียนเฉพาะความพิการ หรือเรียนร่วมกับเด็กปกติ นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอาชีพรองรับกรณีที่ไม่สามารถส่งเด็กต่อได้ เนื่องจากเป็นเด็กโตเกินไปหรือมีความพิการรุนแรง สำหรับศูนย์ของเรา จะมีเด็ก ๆ อยู่ทุกประเภทความพิการ โดยมีคุณครูเฉพาะการศึกษาพิเศษมาสอนประจำอยู่ 2 ท่าน ภายใต้ 6 ทักษะ ได้แก่ ทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็ก กล้ามเนื้อมัดใหญ่ วิชาการ การสื่อสาร สังคม การดำรงชีวิต และทักษะจำเป็นเฉพาะความพิการ ซึ่งเด็กบางคนอาจมีปัญหาแค่บางจุด ดังนั้น ถ้าเขาได้รับการพัฒนาไปเรื่อยๆจะสามารถใช้ชีวิตตามปกติมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกับเด็กอื่นๆ นอกจากนี้ "สรายุธ" ยังกล่าวเพิ่มเติมว่าเด็กพิการบางกลุ่มที่มีความบกพร่องทางด้านร่างกาย จะต้องใช้นักกายภาพบำบัดโดยเฉพาะ ซึ่งทางศูนย์ใหญ่จะจัดเวรนักกายภาพบำบัดออกมาให้บริการ สัปดาห์ละ 2 วัน ทั้งยังออกไปเยี่ยมบ้านและให้บริการเด็กพิการที่ไม่สะดวกเดินทางมาที่ศูนย์ "ทั้งนี้สื่อการเรียนการสอนทางด้านกายภาพค่อนข้างมีราคาสูงจึงเป็นโอกาสดีของเด็กๆ ที่ได้รับการสนับสนุนช่วยเหลือจากทางโครงการเพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับศูนย์ได้บริการชุมชนอย่างเต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์" "ผมเคยสัมผัสกับพ่อแม่ของเด็กพิการเขาบอกว่าการมีลูกพิการไม่ใช่ปัญหาแต่ขอให้ทุกคนมองว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เลี้ยงดูลูก ๆ อย่างเต็มที่ ซึ่งผมมองว่าสิ่งแรกที่จะช่วยเหลือลูก ๆ ของพวกเขาได้คือความรัก เมื่อไหร่ก็ตามที่เราทำด้วยความรักลูก ๆ จะมีการพัฒนาดีขึ้น แน่นอนว่าช่วงแรกอาจจะเครียด แต่เมื่อเราเห็นพัฒนาการของเขาเราจะมีความสุขผมจึงอยากให้กำลังใจผู้ปกครองทุกท่าน" เหมือนอย่างกับ "ไพริน วัญญะโต" อาชีพรับจ้าง คุณแม่ของน้องอีฟ "สุกัญญา นาคแสง" สาวน้อยวัย 14 ปีที่มีความพิการทางสมองตั้งแต่กำเนิด และได้เข้ามาเรียนที่ศูนย์แห่งนี้ตั้งแต่อายุ 5 ขวบ เพราะก่อนหน้าต้องเดินทางไปที่ศูนย์การศึกษาพิเศษวัดบางกะพ้อม ที่ อ.อัมพวา ซึ่งก็มีไปบ้าง ไม่ไปบ้าง เพราะต้องเดินทางไกลและตอนนั้นดิฉันก็ยังไม่ได้ทำงานต้องดูแลลูกด้วยตัวเองตลอดเวลา "จนมีศูนย์มาเปิดใกล้บ้าน จึงพาน้องเข้ามาเรียนที่นี่ โดยเราเริ่มทำงานเป็นแม่ครัว เพื่อนที่ทำงานก็เข้าใจ พอถึงเวลาพักเราก็ออกมาป้อนข้าวป้อนยาลูกได้ ส่วนที่โรงเรียนก็ดูแลอย่างดี บางวันก็ไปรับส่ง ซึ่งศูนย์ก็อยู่ใกล้บ้านแค่ไม่กี่กิโลเมตร ตอนนี้พอมีรายได้มาจุนเจือที่บ้าน ไม่ขัดสนเหมือนแต่ก่อน พัฒนาการของน้องอีฟดีขึ้นมาก เริ่มจำเพื่อนได้ ลูกมีความสุขเวลามาเจอเพื่อน ๆ ที่โรงเรียน เราเองก็มีความสุขที่ได้ดูแลลูกด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพราะมีนักกายภาพบำบัดมาสอน และฝึกให้แม่ทำด้วย ตอนนี้รู้สึกมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ และอยากดูแลลูกให้ดีมากขึ้น" อันเป็นคำกล่าวของผู้เป็นแม่ ที่ไม่เพียงรู้สึกขอบคุณโครงการจัดตั้งศูนย์การเรียนเฉพาะความพิการ ยังทำให้รู้สึกว่าตลอดเวลาที่บิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์สนับสนุนและเปิดโอกาสให้พนักงานคนพิการมาทำงานในห้างค้าปลีก จึงน่าจะเป็นการมอบโอกาสที่ริบหรี่ของพวกเขาให้กลับมีแสงสว่างไสวขึ้นมา ขอบคุณ... http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1450330733