ชำแหละ'ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์'เรื่องน่าเค้นของคน'ทะเล้น-ทะลึ่ง' : สกู๊ปบันเทิง
หากพูดถึงรายการประเภท "เรียลิตี้โชว์" ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว รายการ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" โดยบริษัท ยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซื้อลิขสิทธิ์การประกวด "บริเทนส์ก็อตแทเลนต์" จากประเทศอังกฤษมาออกอากาศในประเทศไทย และให้บริษัท "เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์" เป็นผู้ผลิตรายการ นับเป็นประเทศที่ 43 ของโลก และประเทศที่ 5 ของเอเชียที่มีรายการนี้
กระแสตอบรับของเรียลิตี้โชว์ ที่เปิดโอกาสให้คนมาแสดงความสามารถ โดยไม่จำกัดอายุ เพศ และจำนวน เป็นไปอย่างดีเยี่ยม หลายโชว์ได้รับการยอมรับ และเป็นที่พูดถึงในระยะเวลาอันรวดเร็วทั้ง "ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย" แชมป์ซีซั่น 1 และ "เล้ง-ราชนิกร แก้วดี" แชมป์ซีซั่นที่ 2 หากแต่ระหว่างทางของความสำเร็จ ยังมีจุด "ด่าง" หรือ "ดราม่า" มากมายเกิดขึ้นในรายการ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนเกิดเป็นกระแสทั้งในเชิงบวกและลบ
ดังเช่นกรณีของ "ปอนด์-ดวงใจ จันทร์เสือน้อย" หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในซีซั่นที่สอง กับการถอดเสื้อ เทสีราดตัวแล้วใช้หน้าอกวาดรูปบนผืนผ้าใบ สร้างคำถามในช่วงระหว่างนั้นว่า สิ่งที่เธอทำคือ "ศิลปะ" หรือ "อนาจาร" หลังจากนั้นปอนด์ ยอมรับว่า เธอมีอาชีพเป็นนักเต้นโคโยตี้ ส่วนการเข้ามาประกวดรายการนี้ เพราะมีคนมาติดต่อมา โดยให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท จากบทเรียนในครั้งนั้นทางทีมงานของเวิร์คพอยท์ รวมถึงผู้บริหารอย่าง "เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล" ได้ออกมากล่าวขอโทษประชาชน น้อมรับคำติชม และพร้อมจะพัฒนาปรับปรุงรูปแบบรายการต่อไป
หลังจากนั้นประชาชนคงมีความคาดหวังว่า จะได้เห็นการระมัดระวังในการคัดเลือกผู้เข้าประกวด ซึ่งทางทีมงานของรายการจะเป็นคนคัดเลือกในเบื้องต้น ก่อนจะมาถึงการตัดสินชี้ขาดของคณะกรรมการทั้ง 3 คน อย่าง "เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา" "ภิญโญ รู้ธรรม" "โจ-จิรายุส วรรธนะสิน" แสดงให้เห็นว่า ทุกขั้นตอนของการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน ต้องผ่านการคัดกรอง และเห็นชอบจาก ทีมงาน หรือ โปรดิวเซอร์ รายการมาก่อน ส่วนคณะกรรมการตัดสินทั้ง 3 ท่าน เปรียบเสมือนผู้ชี้ขาดในเกมการแข่งขัน เข้ามาเป็นสีสันให้รายการมีอรรถรสเข้มข้นมากยิ่งขึ้น แต่อาจจะเป็นผู้คุมเกมอย่างแท้จริง ฉะนั้นโชว์ที่ "ดี" หรือ "ไม่ดี" อาจถูกกำหนดไว้แล้วว่า ต้องเกิดขึ้นเมื่อไหร่และกรรมการควรตัดสินให้"ผ่าน"หรือ"ไม่ผ่าน"
ไม่มีใครคาดคิดว่า "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" ซีซั่นที่ 3 จะก้าว "พลาด" ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง เมื่อผู้เขาแข่งขันที่ใช้ชื่อว่า สิทธัตถะ เอมเมอรัล ขึ้นมาแสดงความสามารถในการร้องเพลง "เปาบุ้นจิ้น" แต่จากลักษณะการพูดจาตอบโต้กับคณะกรรมการ โดยไม่มีหางเสียง และมีพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะไม่ปกติ แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้แก่คณะกรรมการ จนถูกท้วงติงในเรื่อง "มารยาท" ของผู้เข้าแข่งขันรายนี้ สุดท้ายเขาดูเหมือน "ตัวตลก" ที่ฝืดและไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง จนคณะกรรมการ รวมถึงผู้ผลิตรายการ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า มีการนำ "บุคคลพิเศษ"มาออกรายการเพื่อเรียกเรตติ้งและสร้างกระแสโดยไร้คุณธรรมและจริยธรรม
กระทั่ง "แม่" ของผู้เข้าแข่งขันรายนี้ออกมายอมรับว่า ลูกของตัวเองอาจมีพฤติกรรมไม่ปกติจริง แต่ไม่เคยพาไปพบแพทย์ เนื่องจากยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทว่าลูกอยากไปออกรายการเพื่อแสดงความสามารถ ในฐานะของคนเป็นแม่ คาดว่าลูกไม่น่าจะผ่านรอบคัดเลือก แต่สุดท้ายกลับผ่านเข้าไปได้ถึงรอบออดิชั่น ณ โรงละคร อักษรา โดยไม่ทราบเหตุผลของทีมงาน และหากทีมงานเห็นว่า ไม่เหมาะสมจริงเหตุใดจึงไม่ตัดเทปนี้ทิ้งเพราะมีการบันทึกไปตั้งแต่วันที่20มีนาคม2556
ทั้งนี้คำตอบของ "แม่" ผู้เข้าแข่งขันรายนี้ ย่อมค้านกับคำตอบของทีมงานบริษัทเวิร์คพ็อยท์ที่ว่า ผู้เข้าแข่งขันดู "ปกติ" ทุกอย่างตอนมาคัดเลือก รวมถึงผู้บริหารอย่าง "เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล" ยอมเปิดปาก หลังจากคณะอนุกรรมการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง กสทช. นัดประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 3 เพื่อต้องการหาทางออกในด้านจริยธรรม จรรยาบรรณสื่อ และความรับผิดชอบต่อสังคม
โดยผู้บริหารเวิร์คพอยท์ เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะทางบริษัทรู้ไม่เท่าทัน และไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นศักดิ์ศรีใดๆ ทั้งสิ้น "ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราต้องขอโทษ จะระมัดระวัง และจะทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป เราดูและชื่นชมในตัวเขาด้วย แต่รายการไม่ทราบ ทำไมแม่ไม่บอกก่อน เพราะถ้าเป็นเคสปกติก็สามารถนำมาออกอากาศได้เลย แต่ไม่อยากให้โยงว่ารายการต้องการสร้างกระแสเพื่อเรียกเรตติ้ง เพราะคิดว่ารายการมีรูปแบบในการนำเสนอที่ดีอยู่แล้ว"ปัญญากล่าว
แม้แต่หนึ่งในคณะกรรมการอย่าง ภิญโญ ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ และตัวสิทธัตธะ ไม่ได้ผิดตรงไหน อยากให้ย้อนกลับไปดูตั้งแต่ซีซั่นที่ 1 "ต้องถามไปว่าจะสืบสวนกันเรื่องอะไร ความไม่เหมาะสมตรงไหน ผิดกฎหมายข้อที่เท่าไหร่ก็ว่ามา หรืออันนี้ จะยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ทำประชามติ และจะเป็นกรณีศึกษาให้แก่นักศึกษากฎหมายต่อไปก็ได้ เพราะตอนแรกมันไม่ได้มีเรื่องอะไร จนมีการสร้างกระแสต่างๆ กันออกมา ผมขอพูดว่า เรากำลังผิดกลิ่นน้องเขา คือการไปหาว่าเขาป่วยทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แล้วก็มาว่าคนที่หยิบน้องเขาออกมาโชว์ ซึ่งจริงๆ น้องเขาไม่ได้ถูกบังคับ เขาตั้งใจจะมาด้วยตัวเขาเอง ซึ่งเราก็เปิดกว้าง" ภิญโญกล่าว ซึ่งอาจจะจริงในบางส่วน ทว่าหากมีวิจารณญาณที่ดีในการพิจารณาแล้ว เชื่อขนมกินได้ว่าผู้ผลิตน่าจะทราบดีว่า เทปดังกล่าวควรที่จะนำออกอากาศหรือไม่ และทั้งนี้เสียงก่นด่า หรือวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่เทน้ำหนักไปที่ทีมผู้ผลิต ไม่ใช่ตัวของสิทธัตธะที่ดูคล้ายว่าจะเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์นี้ภิญโญอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปบางประการ
สถานการณ์ของ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" ในครั้งนี้ทำให้รู้ว่า ผู้ผลิตคิดอย่าง ผู้เข้าประกวดได้รับผลกระทบอีกอย่าง ส่วนประชาชนคนเสพสื่อ คงต้องจับตาดูต่อไปว่า "ไทยแลนด์" จะมี "ทาเลนต์" หรือ "ทะเล้น" ทะลึ่งอย่างไม่รอบครอบ และไร้ความรับผิดชอบต่อไปกันแน่!!
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล เจ้าของบริษัท \"เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์\" และ สิทธัตถะ เอมเมอรัล ผู้เข้าร่วมประกวดรายการ ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ซีซั่น3 หากพูดถึงรายการประเภท "เรียลิตี้โชว์" ย้อนกลับไปเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว รายการ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" โดยบริษัท ยูนิลีเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ซื้อลิขสิทธิ์การประกวด "บริเทนส์ก็อตแทเลนต์" จากประเทศอังกฤษมาออกอากาศในประเทศไทย และให้บริษัท "เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์" เป็นผู้ผลิตรายการ นับเป็นประเทศที่ 43 ของโลก และประเทศที่ 5 ของเอเชียที่มีรายการนี้ กระแสตอบรับของเรียลิตี้โชว์ ที่เปิดโอกาสให้คนมาแสดงความสามารถ โดยไม่จำกัดอายุ เพศ และจำนวน เป็นไปอย่างดีเยี่ยม หลายโชว์ได้รับการยอมรับ และเป็นที่พูดถึงในระยะเวลาอันรวดเร็วทั้ง "ไมร่า-มณีภัสสร มอลลอย" แชมป์ซีซั่น 1 และ "เล้ง-ราชนิกร แก้วดี" แชมป์ซีซั่นที่ 2 หากแต่ระหว่างทางของความสำเร็จ ยังมีจุด "ด่าง" หรือ "ดราม่า" มากมายเกิดขึ้นในรายการ กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง จนเกิดเป็นกระแสทั้งในเชิงบวกและลบ ดังเช่นกรณีของ "ปอนด์-ดวงใจ จันทร์เสือน้อย" หนึ่งในผู้เข้าแข่งขันในซีซั่นที่สอง กับการถอดเสื้อ เทสีราดตัวแล้วใช้หน้าอกวาดรูปบนผืนผ้าใบ สร้างคำถามในช่วงระหว่างนั้นว่า สิ่งที่เธอทำคือ "ศิลปะ" หรือ "อนาจาร" หลังจากนั้นปอนด์ ยอมรับว่า เธอมีอาชีพเป็นนักเต้นโคโยตี้ ส่วนการเข้ามาประกวดรายการนี้ เพราะมีคนมาติดต่อมา โดยให้ค่าจ้างเป็นจำนวนเงิน 1 หมื่นบาท จากบทเรียนในครั้งนั้นทางทีมงานของเวิร์คพอยท์ รวมถึงผู้บริหารอย่าง "เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล" ได้ออกมากล่าวขอโทษประชาชน น้อมรับคำติชม และพร้อมจะพัฒนาปรับปรุงรูปแบบรายการต่อไป หลังจากนั้นประชาชนคงมีความคาดหวังว่า จะได้เห็นการระมัดระวังในการคัดเลือกผู้เข้าประกวด ซึ่งทางทีมงานของรายการจะเป็นคนคัดเลือกในเบื้องต้น ก่อนจะมาถึงการตัดสินชี้ขาดของคณะกรรมการทั้ง 3 คน อย่าง "เบนซ์-พรชิตา ณ สงขลา" "ภิญโญ รู้ธรรม" "โจ-จิรายุส วรรธนะสิน" แสดงให้เห็นว่า ทุกขั้นตอนของการคัดเลือกผู้เข้าแข่งขัน ต้องผ่านการคัดกรอง และเห็นชอบจาก ทีมงาน หรือ โปรดิวเซอร์ รายการมาก่อน ส่วนคณะกรรมการตัดสินทั้ง 3 ท่าน เปรียบเสมือนผู้ชี้ขาดในเกมการแข่งขัน เข้ามาเป็นสีสันให้รายการมีอรรถรสเข้มข้นมากยิ่งขึ้น แต่อาจจะเป็นผู้คุมเกมอย่างแท้จริง ฉะนั้นโชว์ที่ "ดี" หรือ "ไม่ดี" อาจถูกกำหนดไว้แล้วว่า ต้องเกิดขึ้นเมื่อไหร่และกรรมการควรตัดสินให้"ผ่าน"หรือ"ไม่ผ่าน" ไม่มีใครคาดคิดว่า "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" ซีซั่นที่ 3 จะก้าว "พลาด" ซ้ำรอยเดิมอีกครั้ง เมื่อผู้เขาแข่งขันที่ใช้ชื่อว่า สิทธัตถะ เอมเมอรัล ขึ้นมาแสดงความสามารถในการร้องเพลง "เปาบุ้นจิ้น" แต่จากลักษณะการพูดจาตอบโต้กับคณะกรรมการ โดยไม่มีหางเสียง และมีพฤติกรรมบางอย่างที่อาจจะไม่ปกติ แต่กลับสร้างความไม่พอใจให้แก่คณะกรรมการ จนถูกท้วงติงในเรื่อง "มารยาท" ของผู้เข้าแข่งขันรายนี้ สุดท้ายเขาดูเหมือน "ตัวตลก" ที่ฝืดและไม่สร้างสรรค์อย่างยิ่ง จนคณะกรรมการ รวมถึงผู้ผลิตรายการ ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงว่า มีการนำ "บุคคลพิเศษ"มาออกรายการเพื่อเรียกเรตติ้งและสร้างกระแสโดยไร้คุณธรรมและจริยธรรม กระทั่ง "แม่" ของผู้เข้าแข่งขันรายนี้ออกมายอมรับว่า ลูกของตัวเองอาจมีพฤติกรรมไม่ปกติจริง แต่ไม่เคยพาไปพบแพทย์ เนื่องจากยังสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ทว่าลูกอยากไปออกรายการเพื่อแสดงความสามารถ ในฐานะของคนเป็นแม่ คาดว่าลูกไม่น่าจะผ่านรอบคัดเลือก แต่สุดท้ายกลับผ่านเข้าไปได้ถึงรอบออดิชั่น ณ โรงละคร อักษรา โดยไม่ทราบเหตุผลของทีมงาน และหากทีมงานเห็นว่า ไม่เหมาะสมจริงเหตุใดจึงไม่ตัดเทปนี้ทิ้งเพราะมีการบันทึกไปตั้งแต่วันที่20มีนาคม2556 ทั้งนี้คำตอบของ "แม่" ผู้เข้าแข่งขันรายนี้ ย่อมค้านกับคำตอบของทีมงานบริษัทเวิร์คพ็อยท์ที่ว่า ผู้เข้าแข่งขันดู "ปกติ" ทุกอย่างตอนมาคัดเลือก รวมถึงผู้บริหารอย่าง "เสี่ยตา-ปัญญา นิรันดร์กุล" ยอมเปิดปาก หลังจากคณะอนุกรรมการส่งเสริมการกำกับดูแลกันเอง กสทช. นัดประชุมพิจารณาเรื่องร้องเรียนรายการไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ ซีซั่น 3 เพื่อต้องการหาทางออกในด้านจริยธรรม จรรยาบรรณสื่อ และความรับผิดชอบต่อสังคม โดยผู้บริหารเวิร์คพอยท์ เผยว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเพราะทางบริษัทรู้ไม่เท่าทัน และไม่มีเจตนาจะดูหมิ่นศักดิ์ศรีใดๆ ทั้งสิ้น "ผมรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เราต้องขอโทษ จะระมัดระวัง และจะทำให้ดีขึ้นในครั้งต่อไป เราดูและชื่นชมในตัวเขาด้วย แต่รายการไม่ทราบ ทำไมแม่ไม่บอกก่อน เพราะถ้าเป็นเคสปกติก็สามารถนำมาออกอากาศได้เลย แต่ไม่อยากให้โยงว่ารายการต้องการสร้างกระแสเพื่อเรียกเรตติ้ง เพราะคิดว่ารายการมีรูปแบบในการนำเสนอที่ดีอยู่แล้ว"ปัญญากล่าว แม้แต่หนึ่งในคณะกรรมการอย่าง ภิญโญ ยังเคยให้สัมภาษณ์ว่า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องยกขึ้นมาเป็นวาระแห่งชาติ และตัวสิทธัตธะ ไม่ได้ผิดตรงไหน อยากให้ย้อนกลับไปดูตั้งแต่ซีซั่นที่ 1 "ต้องถามไปว่าจะสืบสวนกันเรื่องอะไร ความไม่เหมาะสมตรงไหน ผิดกฎหมายข้อที่เท่าไหร่ก็ว่ามา หรืออันนี้ จะยกขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ ทำประชามติ และจะเป็นกรณีศึกษาให้แก่นักศึกษากฎหมายต่อไปก็ได้ เพราะตอนแรกมันไม่ได้มีเรื่องอะไร จนมีการสร้างกระแสต่างๆ กันออกมา ผมขอพูดว่า เรากำลังผิดกลิ่นน้องเขา คือการไปหาว่าเขาป่วยทั้งที่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยัน แล้วก็มาว่าคนที่หยิบน้องเขาออกมาโชว์ ซึ่งจริงๆ น้องเขาไม่ได้ถูกบังคับ เขาตั้งใจจะมาด้วยตัวเขาเอง ซึ่งเราก็เปิดกว้าง" ภิญโญกล่าว ซึ่งอาจจะจริงในบางส่วน ทว่าหากมีวิจารณญาณที่ดีในการพิจารณาแล้ว เชื่อขนมกินได้ว่าผู้ผลิตน่าจะทราบดีว่า เทปดังกล่าวควรที่จะนำออกอากาศหรือไม่ และทั้งนี้เสียงก่นด่า หรือวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ส่วนใหญ่เทน้ำหนักไปที่ทีมผู้ผลิต ไม่ใช่ตัวของสิทธัตธะที่ดูคล้ายว่าจะเป็นเหยื่อจากเหตุการณ์นี้ภิญโญอาจจะเข้าใจอะไรผิดไปบางประการ สถานการณ์ของ "ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์" ในครั้งนี้ทำให้รู้ว่า ผู้ผลิตคิดอย่าง ผู้เข้าประกวดได้รับผลกระทบอีกอย่าง ส่วนประชาชนคนเสพสื่อ คงต้องจับตาดูต่อไปว่า "ไทยแลนด์" จะมี "ทาเลนต์" หรือ "ทะเล้น" ทะลึ่งอย่างไม่รอบครอบ และไร้ความรับผิดชอบต่อไปกันแน่!! ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130617/161168/ชำแหละไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์เรื่องน่าเค้นของคนทะเล้นทะลึ่ง.html#.UcEZRdhHWzs
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)