ยกปัญหา “บัวใหญ่โมเดล” จุดตัดทางรถไฟและรูปแบบสถานีไม่ตอบโจทย์ความสะดวก ปลอดภัย ขู่รฟท.ถ้านิ่ง ฟ้องศาลปกครองแน่

ยกปัญหา “บัวใหญ่โมเดล” จุดตัดทางรถไฟและรูปแบบสถานีไม่ตอบโจทย์ความสะดวก ปลอดภัย ขู่รฟท.ถ้านิ่ง ฟ้องศาลปกครองแน่

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 15 กรกฎาคม ที่ห้องประชุมเทศบาลเมือง (ทม.) บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา นายศักดิ์สิทธิ์ สกุลลิขเรศสีมา รอง ผวจ.นครราชสีมา เป็นประธานการประชุมแก้ไขปัญหาผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ ช่วงชุมทางถนนจิระ-ขอนแก่น โดยมีนายศักรินทร์ เสมหิรัญ นายอำเภอบัวใหญ่ พร้อมนายนิพนธ์ ลิ้มวงศ์ยุติ นายก ทม.บัวใหญ่ นางสุนิตย์สา สานา เลขานุการนายโกศล ปัทมะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส) เขต อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย (พท.) นายรัฐกิตต์ วัชรไพศาลสิน ในฐานะคณะอนุกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวข้องด้านการจราจรและการขนส่ง การพัฒนาเมืองและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครราชสีมา ตามคำสั่งจังหวัดนครราชสีมา ที่ 11920/2562 นายควง คำภี นายกสมาคมคนพิการโคราช ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และประชาชนในพื้นที่ อ.บัวใหญ่ ชี้แจงผลกระทบจากรูปแบบการก่อสร้างโครงการที่ไม่ตอบโจทย์ความสะดวก ความปลอดภัยในการใช้บริการรถไฟและได้สร้างปัญหาความเดือดร้อนรวมทั้งวิถีชีวิตชาวบ้านเปลี่ยนแปลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งมีนายณฐพนธ์ สุขวิญญา ผู้อำนวยการศูนย์วางแผนและพัฒนาโครงการ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) พร้อม ดร.ดุษฏี สถิรเศรษฐทวี ผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยนเรศวรและคณะทำงานได้มารับฟังเสียงสะท้อนเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาเยียวยา

บรรยากาศค่อนข้างเคร่งเครียด เนื่องจากที่ผ่านมาทั้ง อปท. และภาคประชาชนได้ร้องเรียนปัญหาให้ผู้บริหาร รฟท. และผู้มีอำนาจระดับจังหวัดซึ่งได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงพร้อมเปิดรับฟังปัญหารวม 6 ครั้ง แต่ไม่ได้แก้ไขปัญหาแต่อย่างใด ในที่ประชุมได้นำเสนอ 14 จุดตัดข้ามทางรถไฟในเขต อ.บัวใหญ่ ทั้งหมดมีปัญหาน้ำท่วมขังบ่อยครั้งและจุดที่เป็นเส้นทางหลักไปโรงพยาบาลบัวใหญ่ สถานศึกษา สถานที่ราชการและชุมชนขนาดใหญ่ เช่นจุดตัดถนนเทศบาล 17 บ้านดอนขุนสนิท รูปแบบลาดชันและคับแคบมาก ทำให้ไม่เหมาะสมกับปริมาณและชนิดยานพาหนะที่สัญจรผ่านวันละ 2,000 คัน จุดตัดถนนเทศบาล 15 แยกชูมิตร ไม่มีไหล่ทางให้คนเดิน ทางขึ้นลงลาดชันเสี่ยงต่อการอุบัติเหตุ จุดตัดทางหลวง 202 ขนาดคับแคบและต่ำ รถพยาบาล รถตำรวจและรถกู้ชีพที่มีเสาวิทยุสื่อสารไม่สามารถแล่นผ่านได้และรูปแบบสถานีรถไฟชุมทางบัวใหญ่แห่งใหม่ อาคารที่พักรอผู้โดยสารบริเวณชานชาลาไม่สามารถกันแดดกันฝนได้และสะพานเชื่อมต่อส่งผลกระทบกับผู้ที่มีปัญหาการเคลื่อนไหวร่างกายทั้งคนพิการ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย เด็กและสตรีมีครรภ์รวมทั้งการขนส่งสิ่งของสัมภาระ นอกจากนี้ได้ขอมติที่ประชุม กรณี รฟท.เจ้าของโครงการเพิกเฉย จะมีการรวบรวมรายชื่อชาวบัวใหญ่ฟ้องศาลปกครองนครราชสีมา โดยยกตัวอย่างชาวเมืองพล จ.ขอนแก่น รวมตัวฟ้องศาลปกครอง เรื่องจุดตัดละเมิดสิทธิพื้นฐานในการเดินทาง-กระทบวิถีชีวิตชุมชนท้องถิ่นทั้งเสี่ยงตาย-น้ำท่วมเมือง

นายควง นายกสมาคมพิการโคราช เปิดเผยว่า สถานีชุมทางบัวใหญ่แห่งใหม่ ถือเป็นสถานีรถไฟแห่งแรกและแห่งเดียว เมื่อซื้อตั๋วแล้วต้องเดินย้อนไปขึ้นบันไดจำนวน 48 ขั้น ความสูงประมาณ 7.20 เมตร เพื่อไปรอขึ้นขบวนรถไฟที่ชานชาลาที่ 1 หากเปลี่ยนชานชาลาก็ต้องเดินเท้าขึ้นบันไดอีกส่วนพื้นทางลาดให้คนพิการใช้รถวิลแชร์หรือการใช้รถล้อเลื่อนขนสิ่งของสัมภาระ ก่อสร้างไว้ที่ข้างชานชาลาทั้ง 2 ข้าง มีระยะห่างด้านละ 250 เมตร คนพิการและผู้ที่มีปัญหาความเคลื่อนไหวด้านร่างกาย จึงมีปัญหา อุปสรรคการเข้าถึงการบริการของรัฐ ฝากถึง รฟท. ควรถอดบทเรียนรูปแบบ “บัวใหญ่โมเดล” ซึ่งคนออกแบบไม่ได้ใช้แต่คนใช้ไม่มีส่วนในการออกแบบ ทำให้ทางลอดและสะพานทางข้ามจุดตัดข้ามทางรถไฟและสถานีรถไฟมีปัญหาค่อนข้างมาก ในอนาคตรัฐบาลจะดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงและรถไฟทางคู่ จะได้ไม่มีปัญหาเช่นนี้อีก

ส่วนคณะทำงานกล่าวว่า กรณีสถานีรถไฟบัวใหญ่ ได้เสนอแผนติดตั้งลิฟท์ขนส่งขนาดกว้าง 90 เซนติเมตร รองรับการใช้รถวิลแชร์จำนวน 3 ตัว ติดตั้งบริเวณสะพานข้ามชานชาลาส่วนปัญหาทางลอดและสะพานข้ามทางรถไฟ ได้รวบรวมข้อมูลเสนอให้ ผู้บริหาร รฟท. รับทราบ เพื่อเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาเป็นรูปธรรม

ขอบคุณ... https://siamrath.co.th/n/169825

ที่มา: siamrath.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 ก.ค.63
วันที่โพสต์: 16/07/2563 เวลา 09:20:46 ดูภาพสไลด์โชว์ ยกปัญหา “บัวใหญ่โมเดล” จุดตัดทางรถไฟและรูปแบบสถานีไม่ตอบโจทย์ความสะดวก ปลอดภัย ขู่รฟท.ถ้านิ่ง ฟ้องศาลปกครองแน่