รู้ตัวป่วยใจสู้รับจ้างตัดหญ้า '3 ชีวิต'มะเร็งกัดกินทั้งบ้าน
สัปดาห์นี้เปิด 3 ชีวิตสุดเวทนา วอนผู้ใจบุญช่วยเหลือเหตุป่วยมะเร็งกัดกินทั้งบ้าน พบลูกสาวป่วยมะเร็งถุงน้ำดี ซ้ำพิการกล้ามเนื้ออ่อนแรงแต่กำเนิด ส่วนแม่รับจ้างตัดหญ้าหาเลี้ยงทุกคน ทั้ง ๆ ป่วยมะเร็งปากมดลูกลุกลามระยะ 3 อีกคนยายเฒ่าวัย 80 ป่วยมะเร็งโพรงมดลูก.
เรียกว่าเป็นความทุกข์ทางกายที่เกิดขึ้นจากโรคร้าย จนทำให้ก่อความทุกข์ทางใจตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ กำลังใจจึงเป็นเสมือนแรงขับเคลื่อนสำคัญที่สุดในเวลานี้ สำหรับครอบครัวหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ที่คนในบ้านป่วยด้วยโรคมะเร็งทั้งหมด ต้องทนทุกข์ทรมานมากอยู่กับโรคร้ายโดยไม่รู้ว่าจะหายหรือไม่
เมื่อเดินทางไปถึงที่บ้านเลขที่ 140 หมู่ 2 บ้านซำเตย อ.วังทอง จ.พิษณุโลก พบเจอกับสมาชิกในบ้านทั้งหมด 3 คน มีฐานะยากจน ใช้ชีวิตสุดแสนรันทด เพราะในบ้านมีแต่ผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งกันทั้งหมด ซึ่งมี “ป้าแอ๋ว” หรือ นางพิษณุ พรมโต อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน กำลังดูแลปรนนิบัติลูกสาว ทราบชื่อคือ น.ส.อรพรรณ นาคเอก อายุ 34 ปี หรือ “นุช” ที่ป่วยพิการเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงแต่กำเนิด และป่วยหนักเป็นโรคมะเร็งถุงน้ำดี สภาพร่างกายผ่ายผอมเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก น้ำหนักเพียง 30 กก. เท่านั้น
ในทุก ๆ วัน “ป้าแอ๋ว” ต้องป้อนนมและเช็ดตัวดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังต้องดูแลแม่วัยชรา คือ นางระเบียบ พรมโต อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งในโพรงมดลูก ครอบครัวนี้จึงมีชีวิตความเป็นอยู่อย่างอัตคัดขัดสน เพราะไม่มีรายได้เพียงพอที่จะซื้อยาหรือข้าวปลาอาหารมาจุนเจือในครอบครัว
ป้าแอ๋ว บอกว่า ตนเองเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสำคัญที่คอยดูแลครอบครัว เพราะก่อนหน้านี้เคยไปทำงานหาเงินรับจ้างดูแลคนป่วยที่กรุงเทพฯ แต่ปรากฏว่าตรวจพบป่วยเป็นโรคมะเร็งปากมดลูกระยะที่ 3 จึงต้องหยุดงานและกลับมาพักรักษาตัวที่บ้านเกิด จ.พิษณุโลก ไม่สามารถทำงานหนักได้ และต้องไปพบแพทย์เพื่อรักษามะเร็งเป็นประจำ
“ลูกสาวป้าก็พิการตั้งแต่กำเนิด หนำซ้ำยังเป็นโรคมะเร็งถุงน้ำดี หมอบอกป้าไม่สามารถรักษาด้วยการผ่าตัดได้ เนื่องจากมะเร็งได้กระจายทั่วร่างกายแล้ว ส่วนแม่อายุ 80 ปี ก็ล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งในโพรงมดลูก ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเดินไปไหนมาไหน” นางพิษณุ กล่าว
ความเหน็ดเหนื่อยจึงตกอยู่ที่ป้าแอ๋วเพียงผู้เดียว เพราะต้องดูแลคนป่วยในบ้านถึง 2 คน รวมถึงต้องดูแลตัวเองที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งกันระยะที่ 3 ค่าใช้จ่ายในครอบครัวที่หามาได้จึงไม่เพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นค่ายารักษาโรค หรือค่ากับข้าวกับปลาในแต่ละวัน
ทำให้ทุกวันนี้ปากท้องของทั้ง 3 ชีวิต ต้องพึ่งพาจากเบี้ยคนพิการของน.ส.อรพรรณ และเบี้ยคนชราของนางระเบียบ ส่วนป้าแอ๋วจะออกไปทำงานรับจ้างตามหมู่บ้านที่ยังพอทำได้ อาทิ รับจ้างตัดหญ้า รับจ้างเก็บมันสำปะหลัง เพื่อให้พอมีเงินประทังชีวิตไปได้บ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่อย่างยากลำบาก
“หากวันใดป้าล้มป่วยหนักขึ้นมา หรือถึงขั้นเสียชีวิต แล้วอีก 2 ชีวิตที่เหลือจะอยู่กันอย่างไร เขาต้องอยู่อย่างอด ๆ อยาก ๆ ใครจะดูแลเขา ป้าเป็นห่วงพวกเขา 2 คน” ความในใจของป้าแอ๋ว ที่ระบายออกมาเป็นคำพูด
อย่างไรก็ตาม ป้าแอ๋ว จึงขอวิงวอนไปยังผู้ใจบุญและมีจิตเมตตา ช่วยเหลือเป็นค่ารักษา หรือบริจาคแพมเพิร์สสำหรับผู้ใหญ่ อาหารเสริม หรือนม ให้กับลูกสาวและแม่วัยชรา สามารถโทรศัพท์สอบถามได้ที่เบอร์ 094-7291483
ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 9 ก.พ.63
วันที่โพสต์: 11/02/2563 เวลา 09:46:58 
