สถาบันราชประชาสมาสัยจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขชูนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

สถาบันราชประชาสมาสัยจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขชูนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

วันนี้ (16 ม.ค.63) นายแพทย์ประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย ศาสตราจารย์นายแพทย์ธีระ รามสูต ประธานมูลนิธิราชประชาสมาสัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายแพทย์ ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิการบดีกรมควบคุมโรค และนายแพทย์ อาจินต์ ชลพันธุ์ ผู้อำนวยการสถาบันราชประชาสมาสัย ร่วมกันจัดงานวันราชประชาสมาสัย ในหัวข้อ “60 ราชประชาสมาสัย ก้าวต่อไปไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ที่สถาบันราชประชาสมาสัย อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ

สำหรับเนื่องในวันครบรอบการสถาปนาราชประชาสมาสัย 60 ปี เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงก่อตั้งสถาบันราชประชาสมาสัย เพื่อผลิตบุคลากร และค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคเรื้อน พร้อมทั้งจัดให้มีสัปดาห์ณรงค์ค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ ในวันที่ 13 - 19 มกราคม 2563 มีกิจกรรมเชิญชวน อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและประชนผู้สนใจเข้าร่วมไลน์แอด เพื่อรับความรู้เกี่ยวกับลักษณะอาการที่น่าสงสัยเป็นโรคเรื้อนและสามารถแนะนำไปตรวจรักษา

ด้านสถาบันราชประชาสมาสัย มีภารกิจ 2 เรื่องคือ โรคเรื้อนและโรคจากการประกอบอาชีพ และสิ่งแวดล้อม ในปีนี้เป็นปีครบรอบการก่อตั้งสถาบัน 60 ปี จึงจัดกิจกรรมพิเศษ เพื่อสนองนโยบายรัฐบาล “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” มีโครงการเร่งรัดค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนเพื่อลดความเสี่ยงของการเกิดความพิการ และตรวจสุขภาพผู้ประกอบอาชีพเก็บขยะ ผู้พิการ และ อสม.ในจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมทั้งสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดูแลสุขภาพของกลุ่มคนดังกล่าว และปัจจุบันประเทศไทย สามารถกำจัดโรคเรื้อนจนไม่เป็นปัญหาสาธารณสุข ด้วยความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ ทุกภาคส่วน สถานการณ์ของโรคเรื้อนในประเทศไทย มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 พบผู้ป่วยใหม่ 125 ราย การกระจายของโรคพบมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือร้อยละ 48.8 รองลงมาได้แก่ภาคใต้ ร้อยละ 19.2 แต่ปัญหาที่ยังคงมีอยู่คือสัดส่วนผู้ป่วยใหม่ที่มีความพิการยังไม่มีแนวโน้มลดลง โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ในช่วงร้อยละ 10-17 สะท้อนถึงการที่ผู้ป่วยมารับการรักษาล่าช้า โดยมีช่วงเวลาตั้งแต่ผู้ป่วยเริ่มปรากฏอาการของโรคจนถึงเวลาเข้ารับการตรวจรักษาเป็นเวลา 3 ปี 8 เดือน สาเหตุมาจากประชาชนขาดองค์ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเรื้อน และหากประชาชนสงสัยว่าตัวเองเป็นโรคเรื้อน หรือสังเกตเห็นผิวหนังเป็นวงด่าง ชา ผื่น หรือตุ่มแดง ไม่คัน ใช้ยากิน ยาทานานเกิน 3 เดือนแล้วยังไม่หายให้รีบมาพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัย ยิ่งเริ่มการรักษาได้เร็วเท่าไหร่ ความเสี่ยงในเรื่องของความพิการก็ยิ่งลดน้อยลง เป็นการป้องกันการเกิดความด้อยโอกาสในการประกอบอาชีพและการเข้าสังคมของผู้ป่วยและเป็นการตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังด้วย และขอความร่วมมือ อสม. จิตอาสาเพื่อร่วมในการค้นหาผู้ป่วยโรคเรื้อนรายใหม่ที่ตกค้างในชุมชนให้รีบมารับการรักษาก่อนเกิดความพิการ เพื่อการกำจัดโรคเรื้อนอย่างยั่งยืนต่อไป

ขอบคุณ... https://bit.ly/38c6kfi

ที่มา: thainews.prd.go.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 16 ม.ค.63
วันที่โพสต์: 17/01/2563 เวลา 10:36:52 ดูภาพสไลด์โชว์ สถาบันราชประชาสมาสัยจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขชูนโยบาย “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”