ยื่นหลักฐานเพิ่มคดี'ลูกเทพ'ยันไม่บอดชัวร์ มีภาพเซลฟี่

แสดงความคิดเห็น

นางสาวชนัดดา สาโรจน์ อายุ 34 ปี ยื่นหลักฐานเพิ่มฟ้องร้องน.ส.ชนัดดา สาโรจน์

จากกรณีที่นางสาวชนัดดา สาโรจน์ อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานบัญชี บริษัทแห่งหนึ่งบ้านอยู่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวไพลิน เกียงขวา อายุ 26 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ หลังจากได้พูดคุยกันเรื่องตุ๊กตาลูกเทพ จนกระทั่งมีการจับกุมดำเนินคดีผู้ต้องหา และนำตัวมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ และอ้างว่าเป็นคนพิการตาบอดมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ไม่เคยรับรู้เรื่องดังกล่าว ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.พ. นางสาวชนัดดา ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองกระบี่ อีกครั้ง เพื่อนำหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับคดีดังกล่าวมายื่นต่อ ร.ต.อ.ณัฐภัทร พุทธังกุโร เจ้าของคดีเพื่อยันยันว่า ไม่ได้รังแกคนพิการตาบอด เพราะหลักฐานต่างๆ ชัดเจน และจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความด่าทออีกหลายราย แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ร.ต.อ.ณัฐภัทร์ ไม่ได้เข้าเวร และติดภารกิจ จึงแนะนำให้มาพบในวันหลัง รวมทั้งคดีที่จะแจ้งความเพิ่มด้วย

นางสาวชนัดดา กล่าวว่า ในวันนี้ต้องการที่จะนำหลักฐานมาเพิ่มเติม เกี่ยวกับตัวผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นคนพิการตาบอด ซึ่งมีหลักฐานเกี่ยวกับภาพถ่ายเซลฟี่ และคลิปวีดีโอที่ผู้ต้องหาบันทึก ขณะอยู่กับลูกสาววัย 3 ขวบ เพื่อยืนยันว่า แม้ว่าผู้ต้องหาจะอ้างว่าตาบอด แต่ยังสามารถอัพภาพ และข้อความต่างๆ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ชื่อว่า "สตอเบอรร์รี่ นมสด" ได้ เชื่อว่าไม่ได้ตาบอดสนิท เมื่อดูจากภาพผู้ต้องหาที่ปรากฎในไทม์ไลน์ และนอกจากจะนำหลักฐานมาเพิ่มเติมแล้ว วันนี้ตั้งใจจะแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่โพสต์ข้อความด่าทอตน ทำให้เกิดความเสียหายอีกราย เพราะเป็นการหมิ่นประมาทเช่นกัน ซึ่งตนได้เก็บรวบรวมหลักฐานไว้แล้ว และอยากให้สื่อ ช่วยนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องด้วยว่า มีมาที่ไปอย่างไร เพราะหลังมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อ ทำให้ตนถูกสังคมประณามว่ารังแกคนพิการตาบอดทั้งที่พฤติกรรมต่างๆของผู้ต้องหาเหมือนไม่ใช่คนตาบอด“

ด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ กล่าวว่า กรณีที่ผู้เสียหายนำหลักฐานมาเพิ่มเติมนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถรับเพิ่มได้ เนื่องจากได้สรุปสำนวนและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการไปแล้ว ซึ่งผู้เสียหายสามารถที่จะนำไปยื่นเพิ่มในชั้นอัยการได้ ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก 1 คดีนั้นก็สามารถรับแจ้งได้ แต่เนื่องจากผู้เสียหายมีธุระด่วน จึงให้มาแจ้งความในวันหลัง และสาเหตุที่เจ้าหน้าที่แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งกับพนักงานสอบสวนคนเดิมนั้น เข้าใจว่าเป็นคดีที่มีความเกี่ยวโยงกัน ข้อหาทำนองเดียวกันและพนักงานสอบสวนก็มีข้อมูลเดิมอยู่แล้ว ในส่วนของผู้ต้องหานั้น ก็สามารถที่จะนำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แต่ขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้ประสานมาแต่อย่างใด..

ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/382734 (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 29 ก.พ.59
วันที่โพสต์: 1/03/2559 เวลา 10:29:50 ดูภาพสไลด์โชว์ ยื่นหลักฐานเพิ่มคดี'ลูกเทพ'ยันไม่บอดชัวร์ มีภาพเซลฟี่

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นางสาวชนัดดา สาโรจน์ อายุ 34 ปี ยื่นหลักฐานเพิ่มฟ้องร้องน.ส.ชนัดดา สาโรจน์ จากกรณีที่นางสาวชนัดดา สาโรจน์ อายุ 34 ปี อาชีพพนักงานบัญชี บริษัทแห่งหนึ่งบ้านอยู่ อ.เหนือคลอง จ.กระบี่ ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ นางสาวไพลิน เกียงขวา อายุ 26 ปี ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาฯ หลังจากได้พูดคุยกันเรื่องตุ๊กตาลูกเทพ จนกระทั่งมีการจับกุมดำเนินคดีผู้ต้องหา และนำตัวมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ เมื่อวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่ผู้ต้องหาได้ให้การปฏิเสธ และอ้างว่าเป็นคนพิการตาบอดมาตั้งแต่อายุ 18 ปี ไม่เคยรับรู้เรื่องดังกล่าว ก่อนจะได้รับการประกันตัวออกไป ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 29 ก.พ. นางสาวชนัดดา ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองกระบี่ อีกครั้ง เพื่อนำหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับคดีดังกล่าวมายื่นต่อ ร.ต.อ.ณัฐภัทร พุทธังกุโร เจ้าของคดีเพื่อยันยันว่า ไม่ได้รังแกคนพิการตาบอด เพราะหลักฐานต่างๆ ชัดเจน และจะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่โพสต์ข้อความด่าทออีกหลายราย แต่เจ้าหน้าที่แจ้งว่า ร.ต.อ.ณัฐภัทร์ ไม่ได้เข้าเวร และติดภารกิจ จึงแนะนำให้มาพบในวันหลัง รวมทั้งคดีที่จะแจ้งความเพิ่มด้วย นางสาวชนัดดา กล่าวว่า ในวันนี้ต้องการที่จะนำหลักฐานมาเพิ่มเติม เกี่ยวกับตัวผู้ต้องหาที่อ้างว่าเป็นคนพิการตาบอด ซึ่งมีหลักฐานเกี่ยวกับภาพถ่ายเซลฟี่ และคลิปวีดีโอที่ผู้ต้องหาบันทึก ขณะอยู่กับลูกสาววัย 3 ขวบ เพื่อยืนยันว่า แม้ว่าผู้ต้องหาจะอ้างว่าตาบอด แต่ยังสามารถอัพภาพ และข้อความต่างๆ ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่ชื่อว่า "สตอเบอรร์รี่ นมสด" ได้ เชื่อว่าไม่ได้ตาบอดสนิท เมื่อดูจากภาพผู้ต้องหาที่ปรากฎในไทม์ไลน์ และนอกจากจะนำหลักฐานมาเพิ่มเติมแล้ว วันนี้ตั้งใจจะแจ้งความดำเนินคดี กับผู้ที่โพสต์ข้อความด่าทอตน ทำให้เกิดความเสียหายอีกราย เพราะเป็นการหมิ่นประมาทเช่นกัน ซึ่งตนได้เก็บรวบรวมหลักฐานไว้แล้ว และอยากให้สื่อ ช่วยนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องด้วยว่า มีมาที่ไปอย่างไร เพราะหลังมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อ ทำให้ตนถูกสังคมประณามว่ารังแกคนพิการตาบอดทั้งที่พฤติกรรมต่างๆของผู้ต้องหาเหมือนไม่ใช่คนตาบอด“ ด้าน พ.ต.อ.สมพงศ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองกระบี่ กล่าวว่า กรณีที่ผู้เสียหายนำหลักฐานมาเพิ่มเติมนั้น เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถรับเพิ่มได้ เนื่องจากได้สรุปสำนวนและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการไปแล้ว ซึ่งผู้เสียหายสามารถที่จะนำไปยื่นเพิ่มในชั้นอัยการได้ ส่วนกรณีที่ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความเพิ่มอีก 1 คดีนั้นก็สามารถรับแจ้งได้ แต่เนื่องจากผู้เสียหายมีธุระด่วน จึงให้มาแจ้งความในวันหลัง และสาเหตุที่เจ้าหน้าที่แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งกับพนักงานสอบสวนคนเดิมนั้น เข้าใจว่าเป็นคดีที่มีความเกี่ยวโยงกัน ข้อหาทำนองเดียวกันและพนักงานสอบสวนก็มีข้อมูลเดิมอยู่แล้ว ในส่วนของผู้ต้องหานั้น ก็สามารถที่จะนำหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ได้ เจ้าหน้าที่จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน และให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย แต่ขณะนี้ผู้ต้องหายังไม่ได้ประสานมาแต่อย่างใด.. ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/regional/382734

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...