เฒ่าวัย 75 ดีใจได้รับบัตร ปชช.ครั้งแรก เผยตาบอดสองข้างอยากรับสวัสดิการจากรัฐ

แสดงความคิดเห็น

นายพรมมา ผาสุข ได้รับบัตร ปชช.ครั้งแรก

นายพรมมา ผาสุข อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 บ้านเหล่าสมบูรณ์ ต.ดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร มีใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขหลังจากได้รับสิทธิคืนเป็นคนไทย มีบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรก หลังรอคอยมานาน 75 ปี ทั้งนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เขตอำเภอบ้านม่วง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติพี่น้องมาเป็นพยาน และรวบรวมหลักฐานที่มียืนยันต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอ โดยผ่านการพิจารณาอนุมัติจากนายอำเภอในพื้นที่ผู้มีอำนาจออกให้ ปัจจุบัน นายพรมมา ผาสุข อาศัยอยู่กับพี่ชาย คือนายสุก ผาสุข อายุ 78 ปี ขณะนี้พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างไปไหนมาไหนก็ลำบาก

นายสุก พี่ชายเล่าว่า พื้นเพดั้งเดิมเป็นชาวอำเภอสว่างแดนดิน มีญาติพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 5 คน ตนเป็นลูกคนแรก ซึ่งทุกคนต่างก็แยกย้ายมีครอบครัวไปอยู่ที่อื่น ส่วนนายพรมมา (น้องชาย) เป็นคนที่ 3 ไม่มีครอบครัว และหนีออกจากบ้านไปทำงานที่อื่นกระทั่งหวนกลับบ้านเมื่อ 10 ปีก่อนและมาอาศัยอยู่กับตนที่บ้านหลังนี้ แต่ปรากฏว่า น้องชายไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ขาดสิทธิ และสวัสดิการต่างๆ เพราะไม่มีชื่อในสารบบ ซ้ำตาบอดทั้งสองข้างไปไหนก็ยากลำบาก แม้จะไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก็ต้องใช้บัตรแสดงตัวตนจริง รวมถึงเบี้ยยังชีพคนพิการ และผู้สูงอายุก็ไม่ได้ ซึ่งก็พยายามหาทางช่วยขอบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่น้องชายแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงหมดหวังที่จะได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนคนไทยทุกคน ต่อมา ได้รับการช่วยเหลือจาก นายชยันต์ ธนราช สมาชิก อบจ. เขตอำเภอบ้านม่วง ยื่นมือเข้าช่วย พร้อมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติพี่น้องให้การยืนยันว่าเป็นน้องชาย และเป็นคนไทยจริง เพราะคนสมัยนั้นไม่ค่อยสนใจกับเรื่องนี้

ด้านนายยงยุทธ ภู่สมนาม นายอำเภอบ้านม่วง เปิดเผยว่า ตนมีนโยบาย และมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนไทยจริงๆ เพื่อคืนสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่างๆ สมควรที่จะได้รับเหมือนคนไทยทุกคน แต่กลุ่มคนเหล่านั้นไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนจึงไม่มีสิทธิ ดังนั้น จึงแจ้งในที่ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่สำรวจผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านว่ามีบุคคลตกหล่นมีบัตรประจำตัวประชาชนหรือไม่ หากไม่มีก็ขอให้นำหลักฐานที่มี หรือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ญาติพี่น้อง ตลอดจนพยาบาลสถานอนามัยมายืนยัน ตนก็พร้อมที่จะพิจารณาและออกให้ ซึ่งหลังจากที่มารับตำแหน่งอยู่ที่นี่กว่า 4 เดือน ได้อนุมัติรับรองไปแล้ว 4-5 ราย เพื่อให้คนเหล่านั้นจะได้นำไปใช้ประโยชน์ และได้รับสวัสดิการอื่นๆ เหมือนคนไทย

เช่นเดียวกับ นายชยันต์ ธนราช ส.อบจ. เขตอำเภอบ้านม่วง ยอมรับว่าไม่เคยทราบมาก่อนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ได้คืนสิทธิแก่คนไทย โดยส่วนตัวก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือที่ได้ช่วยคืนความสุข และความเป็นธรรมแก่คนไทยทุกคน คือ ต่อไปก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่างๆ รวมถึงจะได้แบ่งเบาภาระครอบครัวไปได้มาก

ส่วนความรู้สึกของนายพรมมา ผาสุข หลังจากได้รับบัตรประจำตัวประชาชนได้กล่าวแต่เพียงว่า สุดแสนจะดีใจ และขอขอบคุณทุกคนที่ได้ให้การช่วยเหลือที่รับบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกใน ชีวิต ซึ่งตนรอมานานถึง 75 ปี ที่ระหกระเหินเร่ร่อนไปที่ต่างๆ โดยที่ไม่มีบัตร ต่อไปนี้จะใช้บัตรที่ถูกต้องเพื่อรักษาตัว หรือรับเงินเบี้ยยังชีพคนพิการ และเบี้ยผู้สูงอายุเหมือนคนอื่นเขา และที่สำคัญคือ ขณะนี้ตาก็บอดสนิททั้งสองข้าง จึงต้องเป็นภาระครอบครัวพี่ชาย และลูกหลานให้คอยดูแล

ขอบคุณ ... http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000092339 (ขนาดไฟล์: 185)

ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ก.ค.56

ที่มา: ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 28/07/2556 เวลา 02:44:18 ดูภาพสไลด์โชว์ เฒ่าวัย 75 ดีใจได้รับบัตร ปชช.ครั้งแรก เผยตาบอดสองข้างอยากรับสวัสดิการจากรัฐ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายพรมมา ผาสุข ได้รับบัตร ปชช.ครั้งแรก นายพรมมา ผาสุข อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 5 บ้านเหล่าสมบูรณ์ ต.ดงหม้อทองใต้ อ.บ้านม่วง จ.สกลนคร มีใบหน้ายิ้มแย้มอย่างมีความสุขหลังจากได้รับสิทธิคืนเป็นคนไทย มีบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรก หลังรอคอยมานาน 75 ปี ทั้งนี้ ได้รับความช่วยเหลือจากสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร เขตอำเภอบ้านม่วง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติพี่น้องมาเป็นพยาน และรวบรวมหลักฐานที่มียืนยันต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนอำเภอ โดยผ่านการพิจารณาอนุมัติจากนายอำเภอในพื้นที่ผู้มีอำนาจออกให้ ปัจจุบัน นายพรมมา ผาสุข อาศัยอยู่กับพี่ชาย คือนายสุก ผาสุข อายุ 78 ปี ขณะนี้พิการตาบอดสนิททั้งสองข้างไปไหนมาไหนก็ลำบาก นายสุก พี่ชายเล่าว่า พื้นเพดั้งเดิมเป็นชาวอำเภอสว่างแดนดิน มีญาติพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 5 คน ตนเป็นลูกคนแรก ซึ่งทุกคนต่างก็แยกย้ายมีครอบครัวไปอยู่ที่อื่น ส่วนนายพรมมา (น้องชาย) เป็นคนที่ 3 ไม่มีครอบครัว และหนีออกจากบ้านไปทำงานที่อื่นกระทั่งหวนกลับบ้านเมื่อ 10 ปีก่อนและมาอาศัยอยู่กับตนที่บ้านหลังนี้ แต่ปรากฏว่า น้องชายไม่มีบัตรประจำตัวประชาชน ขาดสิทธิ และสวัสดิการต่างๆ เพราะไม่มีชื่อในสารบบ ซ้ำตาบอดทั้งสองข้างไปไหนก็ยากลำบาก แม้จะไปเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก็ต้องใช้บัตรแสดงตัวตนจริง รวมถึงเบี้ยยังชีพคนพิการ และผู้สูงอายุก็ไม่ได้ ซึ่งก็พยายามหาทางช่วยขอบัตรประจำตัวประชาชนให้แก่น้องชายแต่ก็ไม่สำเร็จ จึงหมดหวังที่จะได้รับสิทธิประโยชน์เหมือนคนไทยทุกคน ต่อมา ได้รับการช่วยเหลือจาก นายชยันต์ ธนราช สมาชิก อบจ. เขตอำเภอบ้านม่วง ยื่นมือเข้าช่วย พร้อมกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติพี่น้องให้การยืนยันว่าเป็นน้องชาย และเป็นคนไทยจริง เพราะคนสมัยนั้นไม่ค่อยสนใจกับเรื่องนี้ ด้านนายยงยุทธ ภู่สมนาม นายอำเภอบ้านม่วง เปิดเผยว่า ตนมีนโยบาย และมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือคนไทยจริงๆ เพื่อคืนสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่างๆ สมควรที่จะได้รับเหมือนคนไทยทุกคน แต่กลุ่มคนเหล่านั้นไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนจึงไม่มีสิทธิ ดังนั้น จึงแจ้งในที่ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชนในพื้นที่สำรวจผู้คนที่อาศัยอยู่ภายในหมู่บ้านว่ามีบุคคลตกหล่นมีบัตรประจำตัวประชาชนหรือไม่ หากไม่มีก็ขอให้นำหลักฐานที่มี หรือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ญาติพี่น้อง ตลอดจนพยาบาลสถานอนามัยมายืนยัน ตนก็พร้อมที่จะพิจารณาและออกให้ ซึ่งหลังจากที่มารับตำแหน่งอยู่ที่นี่กว่า 4 เดือน ได้อนุมัติรับรองไปแล้ว 4-5 ราย เพื่อให้คนเหล่านั้นจะได้นำไปใช้ประโยชน์ และได้รับสวัสดิการอื่นๆ เหมือนคนไทย เช่นเดียวกับ นายชยันต์ ธนราช ส.อบจ. เขตอำเภอบ้านม่วง ยอมรับว่าไม่เคยทราบมาก่อนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งก็ยอมรับว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ได้คืนสิทธิแก่คนไทย โดยส่วนตัวก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือที่ได้ช่วยคืนความสุข และความเป็นธรรมแก่คนไทยทุกคน คือ ต่อไปก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ และสวัสดิการต่างๆ รวมถึงจะได้แบ่งเบาภาระครอบครัวไปได้มาก ส่วนความรู้สึกของนายพรมมา ผาสุข หลังจากได้รับบัตรประจำตัวประชาชนได้กล่าวแต่เพียงว่า สุดแสนจะดีใจ และขอขอบคุณทุกคนที่ได้ให้การช่วยเหลือที่รับบัตรประจำตัวประชาชนครั้งแรกใน ชีวิต ซึ่งตนรอมานานถึง 75 ปี ที่ระหกระเหินเร่ร่อนไปที่ต่างๆ โดยที่ไม่มีบัตร ต่อไปนี้จะใช้บัตรที่ถูกต้องเพื่อรักษาตัว หรือรับเงินเบี้ยยังชีพคนพิการ และเบี้ยผู้สูงอายุเหมือนคนอื่นเขา และที่สำคัญคือ ขณะนี้ตาก็บอดสนิททั้งสองข้าง จึงต้องเป็นภาระครอบครัวพี่ชาย และลูกหลานให้คอยดูแล ขอบคุณ ... http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9560000092339 ASTVผู้จัดการออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 ก.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...