'เฉิน กวงเฉิง' ทนายตาบอดจีน ถึงไต้หวันจ่อถกสิทธิมนุษยชน
'เฉิน กวงเฉิง' ทนายความผู้พิการทางสายตา นักเคลื่อนไหวชาวจีน ผู้ลี้ภัยในสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวันจ่อถกปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 24 มิ.ย. ว่า นักเคลื่อนไหวต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ เฉิน กวงเฉิง ทนายความตาบอดชื่อดังชาวจีน เดินทางถึงเขตปกครองพิเศษไต้หวัน พร้อมภรรยา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 23 มิ.ย. โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 18 วัน และคาดว่าอาจมีการพูดคุยกับสมาชิกนิติบัญญัติฝ่ายค้านเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย โดยอาจกระตุ้นให้รัฐบาลปักกิ่งไม่พอใจได้
ทั้งนี้ นายเฉิง เคยรับโทษจำคุก 4 ปี ตั้งแต่ปี 2549 โทษฐานเปิดโปงว่าเจ้าหน้าที่จีนบังคับให้สตรีทำแท้งและทำหมันตามนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน หลบหนีจากบ้านถูกกักบริเวณที่มณฑลชานตง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อ 22 เม.ย.ปีที่แล้ว หลบเข้ามาอยู่ที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง ก่อนยอมออกจากสถานทูตสหรัฐฯ เมื่อ 2 พ.ค. มาอยู่โรงพยาบาล รักษาอาการบาดเจ็บตอนหลบหนี หลังจีนรับรองความปลอดภัย ต่อมาเปลี่ยนใจขอสหรัฐฯ ช่วยลี้ภัย ห่วงชีวิตตัวเองและครอบครัวเป็นอันตราย และเดินทางจากกรุงปักกิ่งถึงเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐอเมริกาแล้ว เมื่อ 19 พ.ค. โดยขอศึกษาต่อเพิ่มเติม
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 25 มิ.ย.56
วันที่โพสต์: 25/06/2556 เวลา 03:05:05 
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เฉิน กวงเฉิง ทนายตาบอดจีน 'เฉิน กวงเฉิง' ทนายความผู้พิการทางสายตา นักเคลื่อนไหวชาวจีน ผู้ลี้ภัยในสหรัฐฯ เดินทางถึงไต้หวันจ่อถกปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน... สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 24 มิ.ย. ว่า นักเคลื่อนไหวต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ เฉิน กวงเฉิง ทนายความตาบอดชื่อดังชาวจีน เดินทางถึงเขตปกครองพิเศษไต้หวัน พร้อมภรรยา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 23 มิ.ย. โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้น 18 วัน และคาดว่าอาจมีการพูดคุยกับสมาชิกนิติบัญญัติฝ่ายค้านเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนในจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย โดยอาจกระตุ้นให้รัฐบาลปักกิ่งไม่พอใจได้ ทั้งนี้ นายเฉิง เคยรับโทษจำคุก 4 ปี ตั้งแต่ปี 2549 โทษฐานเปิดโปงว่าเจ้าหน้าที่จีนบังคับให้สตรีทำแท้งและทำหมันตามนโยบายลูกคนเดียวของรัฐบาลจีน หลบหนีจากบ้านถูกกักบริเวณที่มณฑลชานตง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อ 22 เม.ย.ปีที่แล้ว หลบเข้ามาอยู่ที่สถานทูตสหรัฐฯ ในกรุงปักกิ่ง ก่อนยอมออกจากสถานทูตสหรัฐฯ เมื่อ 2 พ.ค. มาอยู่โรงพยาบาล รักษาอาการบาดเจ็บตอนหลบหนี หลังจีนรับรองความปลอดภัย ต่อมาเปลี่ยนใจขอสหรัฐฯ ช่วยลี้ภัย ห่วงชีวิตตัวเองและครอบครัวเป็นอันตราย และเดินทางจากกรุงปักกิ่งถึงเมืองนวร์ก รัฐนิวเจอร์ซีย์ ของสหรัฐอเมริกาแล้ว เมื่อ 19 พ.ค. โดยขอศึกษาต่อเพิ่มเติม ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/oversea/353188
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)
