'พ่อขาพิการ' เลี้ยงลูก 2 คน บนแท็กซี่ วอนขอทุนเริ่มอาชีพใหม่

แสดงความคิดเห็น

'พ่อขาพิการ' เลี้ยงลูก 2 คน บนแท็กซี่ วอนขอทุนเริ่มอาชีพใหม่

'พ่อขาพิการ' เลี้ยงลูก 2 คน บนรถแท็กซี่ หลังภรรยาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต วอนขอทุนเริ่มอาชีพใหม่ ไม่อยากพาเด็กตะลอนหาเงิน เสี่ยงอุบัติเหตุ-สวพ. FM เปิดบัญชี “กองทุนเหรียญสลึง” สานฝัน “พ่อ” ผู้พิการ

เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 59 นางสาวไจตนย์ ศรีวังพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิไลเซ็นเตอร์ แอนด์ ซันส์ จำกัด ผู้ร่วมดำเนินงาน สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 59 ที่ผ่านมา นายศตวรรษ จิตรงาม อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ 100 หมู่ 2 ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ถือบัตรประจำตัวผู้พิการ ประเภท 3 (การเคลื่อนไหว) ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวผู้พิการ เลขที่ 344/20 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) โตโยต้า โคโรลา อัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร 8328 กรุงเทพมหานคร พร้อมลูกสาว เด็กหญิงสุภัทรา จิตรงาม วัย 5 ขวบ และลูกชาย เด็กชายศุภโชค แก้วใส วัย 2 ขวบ เดินทางเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากทางสถานีฯ เพื่อขอทุนเปลี่ยนอาชีพจากการขับขี่รถแท็กซี่ ไปขายก๋วยเตี๋ยว

นายศตวรรษ จิตรงาม ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ประเภท 3 เปิดเผยว่า ตนถูกตัดฝ่าเท้าข้างซ้าย เนื่องจากแผลติดเชื้อ เมื่อเดือน ก.ย. 57 หลังจากนั้นต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และโรงพยาบาลต่อเนื่อง กระทั่ง เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58 ภรรยา นางสาวติ๋ม แก้วใส อายุ 29 ปี สัญชาติลาว เกิดอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิตทันทีในจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนซ่อมสร้าง ทิศทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

นายศตวรรษ กล่าวต่ออีกว่า ภายหลัง ภรรยาเสียชีวิตประมาณ 1 เดือน ตัดสินใจหาเช่ารถแท็กซี่ออกมาขับขี่หารายได้เพื่อเลี้ยงดูลูก ปัจจุบัน พักอาศัยอยู่ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยย้ายมาจากที่พักเดิมได้ประมาณ 4-5 เดือน ในทุกวันจะออกขับรถแท็กซี่ ประมาณ 07.00-07.30 น. โดยจะกลับเข้าบ้านประมาณ 23.00-24.00 น. แล้วแต่ถ้าเป็นคืนวันศุกร์จะกลับเข้าบ้านประมาณ 01.00 น. ขณะขับรถ ลูกสาว และลูกชายจะนั่งไปบนรถด้วย ตนและลูกใช้ชีวิตกินนอนอยู่บนรถไปไหนด้วยกัน หลังภรรยาเสียชีวิตมาโดยตลอด ผู้โดยสารบางคนเข้าใจเมื่อรู้สาเหตุที่ตนต้องพาลูกสาวและลูกชาย นั่งรถไปด้วยตลอดเวลา บางคนเห็นเด็กอยู่หน้ารถก็จะไม่เรียกใช้บริการ ซึ่งก็เข้าใจในสถานการณ์ดังกล่าว

“อยากขอความช่วยเหลือ ขอทุนก้อนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนอาชีพจากการขับรถแท็กซี่ไปขายก๋วยเตี๋ยว อาชีพที่เคยทำเมื่อสมัยที่ภรรยามีชีวิต ลูกจะได้ไม่ต้องไปตะลอน เสี่ยงอุบัติเหตุตอนอยู่บนรถ เพราะขาที่ผ่าตัดมาเวลาเหยียบคลัชท์ยังเจ็บ ขณะเดียวกันจะได้ดูแลลูกได้ดีกว่าเดิม ถึงเวลาเลิกขาย เด็กๆ ก็จะได้พักผ่อนไม่ต้องไปลำบากกับตน" นายศตวรรษ กล่าว

ด้าน นางสาวไจตนย์ กล่าวว่า สถานีวิทยุ สวพ.FM 91 เห็นถึงความพยายามในการต่อสู้ชีวิต หลังภรรยาเสียชีวิตของ นายศตวรรษ ต้องพาลูก 2 คน นั่งรถไปด้วยขณะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว และเล็งเห็นถึงความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อที่มีต่อลูก จึงมอบทุนตั้งต้น 30,000 บาท เพื่อช่วยสานฝัน สร้างอาชีพใหม่ให้กับ นายศตวรรษ ขณะเดียวกัน ได้ทำการเปิดบัญชี กองทุนเหรียญสลึง เพื่อช่วยเหลือสมทบทุนการศึกษาให้กับ เด็กหญิงสุภัทรา (น้องแตงกวา) วัย 5 ขวบ และลูกชาย เด็กชายศุภโชค (น้องปูเป้) วัย 2 ขวบ ผ่านบัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 064-235291-0 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุรวงศ์ สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคอุปกรณ์ สำหรับเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1644 (โทรฟรี)

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/594958

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 23 มี.ค.59
วันที่โพสต์: 25/03/2559 เวลา 12:56:31 ดูภาพสไลด์โชว์ 'พ่อขาพิการ' เลี้ยงลูก 2 คน บนแท็กซี่ วอนขอทุนเริ่มอาชีพใหม่

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

'พ่อขาพิการ' เลี้ยงลูก 2 คน บนแท็กซี่ วอนขอทุนเริ่มอาชีพใหม่ 'พ่อขาพิการ' เลี้ยงลูก 2 คน บนรถแท็กซี่ หลังภรรยาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิต วอนขอทุนเริ่มอาชีพใหม่ ไม่อยากพาเด็กตะลอนหาเงิน เสี่ยงอุบัติเหตุ-สวพ. FM เปิดบัญชี “กองทุนเหรียญสลึง” สานฝัน “พ่อ” ผู้พิการ เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 59 นางสาวไจตนย์ ศรีวังพล รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิไลเซ็นเตอร์ แอนด์ ซันส์ จำกัด ผู้ร่วมดำเนินงาน สถานีวิทยุพิทักษ์สันติราษฎร์ สวพ.FM 91 คลื่นเพื่อข่าวสารความปลอดภัยและจราจร กองตำรวจสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 59 ที่ผ่านมา นายศตวรรษ จิตรงาม อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ตามบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ 100 หมู่ 2 ต.สามง่ามท่าโบสถ์ อำเภอหันคา จังหวัดชัยนาท ถือบัตรประจำตัวผู้พิการ ประเภท 3 (การเคลื่อนไหว) ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวผู้พิการ เลขที่ 344/20 หมู่ 6 ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี อาชีพขับรถรับจ้างสาธารณะ (แท็กซี่) โตโยต้า โคโรลา อัลติส สีชมพู หมายเลขทะเบียน ทร 8328 กรุงเทพมหานคร พร้อมลูกสาว เด็กหญิงสุภัทรา จิตรงาม วัย 5 ขวบ และลูกชาย เด็กชายศุภโชค แก้วใส วัย 2 ขวบ เดินทางเข้ามาร้องขอความช่วยเหลือจากทางสถานีฯ เพื่อขอทุนเปลี่ยนอาชีพจากการขับขี่รถแท็กซี่ ไปขายก๋วยเตี๋ยว นายศตวรรษ จิตรงาม ผู้พิการทางการเคลื่อนไหว ประเภท 3 เปิดเผยว่า ตนถูกตัดฝ่าเท้าข้างซ้าย เนื่องจากแผลติดเชื้อ เมื่อเดือน ก.ย. 57 หลังจากนั้นต้องนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน และโรงพยาบาลต่อเนื่อง กระทั่ง เมื่อวันที่ 17 ส.ค. 58 ภรรยา นางสาวติ๋ม แก้วใส อายุ 29 ปี สัญชาติลาว เกิดอุบัติเหตุถูกรถชนเสียชีวิตทันทีในจุดเกิดเหตุ บริเวณถนนซ่อมสร้าง ทิศทางมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯ ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี นายศตวรรษ กล่าวต่ออีกว่า ภายหลัง ภรรยาเสียชีวิตประมาณ 1 เดือน ตัดสินใจหาเช่ารถแท็กซี่ออกมาขับขี่หารายได้เพื่อเลี้ยงดูลูก ปัจจุบัน พักอาศัยอยู่ ต.บางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยย้ายมาจากที่พักเดิมได้ประมาณ 4-5 เดือน ในทุกวันจะออกขับรถแท็กซี่ ประมาณ 07.00-07.30 น. โดยจะกลับเข้าบ้านประมาณ 23.00-24.00 น. แล้วแต่ถ้าเป็นคืนวันศุกร์จะกลับเข้าบ้านประมาณ 01.00 น. ขณะขับรถ ลูกสาว และลูกชายจะนั่งไปบนรถด้วย ตนและลูกใช้ชีวิตกินนอนอยู่บนรถไปไหนด้วยกัน หลังภรรยาเสียชีวิตมาโดยตลอด ผู้โดยสารบางคนเข้าใจเมื่อรู้สาเหตุที่ตนต้องพาลูกสาวและลูกชาย นั่งรถไปด้วยตลอดเวลา บางคนเห็นเด็กอยู่หน้ารถก็จะไม่เรียกใช้บริการ ซึ่งก็เข้าใจในสถานการณ์ดังกล่าว “อยากขอความช่วยเหลือ ขอทุนก้อนหนึ่งเพื่อเปลี่ยนอาชีพจากการขับรถแท็กซี่ไปขายก๋วยเตี๋ยว อาชีพที่เคยทำเมื่อสมัยที่ภรรยามีชีวิต ลูกจะได้ไม่ต้องไปตะลอน เสี่ยงอุบัติเหตุตอนอยู่บนรถ เพราะขาที่ผ่าตัดมาเวลาเหยียบคลัชท์ยังเจ็บ ขณะเดียวกันจะได้ดูแลลูกได้ดีกว่าเดิม ถึงเวลาเลิกขาย เด็กๆ ก็จะได้พักผ่อนไม่ต้องไปลำบากกับตน" นายศตวรรษ กล่าว ด้าน นางสาวไจตนย์ กล่าวว่า สถานีวิทยุ สวพ.FM 91 เห็นถึงความพยายามในการต่อสู้ชีวิต หลังภรรยาเสียชีวิตของ นายศตวรรษ ต้องพาลูก 2 คน นั่งรถไปด้วยขณะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว และเล็งเห็นถึงความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อที่มีต่อลูก จึงมอบทุนตั้งต้น 30,000 บาท เพื่อช่วยสานฝัน สร้างอาชีพใหม่ให้กับ นายศตวรรษ ขณะเดียวกัน ได้ทำการเปิดบัญชี กองทุนเหรียญสลึง เพื่อช่วยเหลือสมทบทุนการศึกษาให้กับ เด็กหญิงสุภัทรา (น้องแตงกวา) วัย 5 ขวบ และลูกชาย เด็กชายศุภโชค (น้องปูเป้) วัย 2 ขวบ ผ่านบัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 064-235291-0 ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสุรวงศ์ สำหรับผู้ที่ต้องการบริจาคอุปกรณ์ สำหรับเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว สอบถามเพิ่มเติมได้ที่หมายเลข 1644 (โทรฟรี) ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/594958

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...