สุดทน! ชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย โวยถูกแกล้งจนเมียติดคุก

แสดงความคิดเห็น

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแบบเคนยก เข้าช่วยเหลือชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย

เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 10 ต.ค.56 ร.ต.ท.นิทัศน์ อภิวงศ์งาม พงส. สภ.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าหน้าที่ รปภ.ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ (หน้าศาลากลางเชียงใหม่) ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก ว่ามีชายแก่พิการคนหนึ่งพกอาวุธปืนปีนโครงเหล็กป้ายเฉลิมพระเกียรติขนาดใหญ่ ของ อบจ.เชียงใหม่ ที่นำมาติดไว้ริมถนนด้านหน้า พร้อมกับโวยวายจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปสอบสวน เมื่อไปถึงพบนายเพิ่มพูลชัย สันติธนารักษ์ อายุ 67 ปี (พิการขาซ้ายลีบต้องใช้ไม้เท้ายันเดิน) อยู่บ้านเลขที่ 2/24 ซอยวัดหนองป่าครั่ง ถนนเจริญเมือง ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางตำรวจจึงประสานไปยังเทศบาลนครเชียงใหม่ และรถพยาบาลจาก รพ.นครพิงค์ เข้ามาเตรียมพร้อม โดย จนท.บรรเทาสาธารณภัยได้นำเบาะลมขนาดใหญ่มากางไว้ด้านล่าง และพยายามเจรจากับ นายเพิ่มพูลชัย นานกว่า 1 ชม. และทำท่าล้วงเอาอาวุธปืนออกมาจากกระเป๋ากางเกง เพื่อจะยิงตัวตาย

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและแพทย์สนามคอยอยู่ให้ความช่วยเหลือในสถานที่เกิดเหตุ ทาง เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ประสานรถกระเช้าไฟฟ้า นำ ร.ต.อ.สมชาย อมรบุตร รอง สวป. สภ.เมือง เชียงใหม่ ขึ้นไปเจรจากับนายเพิ่มพูลชัยร่วมกว่า 20 นาที จนยอมให้กระเช้าของเจ้าหน้าที่เข้าใกล้ และตำรวจได้ควบคุมตัว และยึดเอาอาวุธปืนลูกโม่ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 พร้อมกับกระสุนปืนใส่ถุงพลาสติดไว้ในกระเป๋ากางเกงจำนวน 19 นัด พร้อมปลอกกระสุน 2 ปลอก และเกลี้ยกล่อมจนยอมขึ้นกระเช้านำลงมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 08.20 น.

เมื่อลงมาถึงพื้น นายเพิ่มพูลชัย ได้ร้องไห้โวยวายว่าถูกคู่กรณีกลั่นแกล้งจนทำให้ภรรยาคือ นางพิมพ์พาภรณ์ สันติธนารักษ์ อายุ 53 ปี ต้องถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ สั่งจำคุกขังแทนค่าปรับ วันละ 200 บาท ในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เป็นเงินทั้งสิน 433,000บาท (สี่แสนสามหมื่นสามพันบาท) โดยศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 ต.ค.56 ที่ผ่านมา หลังจากที่ ภรรยาต้องถูกจำคุก ทำให้ตนเกิดความเครียด ประกอบกับต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานชาย อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 (ลูกของลูกสาวที่นำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงดู) จึงเกิดความเครียดอยากจะฆ่าตัวตายและอยากจะเรียกร้องขอความยุติธรรม จึงพาหลานชายซ้อนรถ จยย.มาจอดริมรั้ว แล้วปีนขึ้นไปบนป้าย จนมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

ในที่เกิดเหตุชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย โวยถูกแกล้งจนเมียติดคุก นาง อารีรัตน์ เทียมทอง ผอ.ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัว นายเพิ่มพูลชัย ไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องรับรองของเรือนจำ โดยนายเพิ่มพูลชัย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่าอยู่ที่บ้านกับภรรยา เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีข้อพิพาทกับเจ้าหน้าที่ปั๊มน้ำมันหลังบ้าน เนื่องจาก มีรถยนต์มาเติมแก๊ส และน้ำมัน จอดเข้าคิว ส่งเสียงดังและมีควันไอเสียเข้ามารบกวน จึงไปแจ้งให้กับทางอำเภอเมือง และมีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐศาลปกครองที่ไม่สามารถแก้ปัญหาการรวบกวน สิทธิ์ของตนได้ ต่อมากลับถูกคู่กรณี กลั่นแกล้ง แจ้งกลับว่าตนกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร คือต่อเติมห้องครัวหลังบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตนก็ทำไว้นานแล้ว ภรรยาตนจึงเข้ามอบตัวต่อสู้คดีตามข้อกล่าวหาที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนศาลมีคำพิพากษาว่า ภรรยาของตนกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อาคาร จึงสั่งปรับเป็นเงินทั้งสิน 433,000 บาท (สี่แสนสามหมื่นสามพันบาท) แต่ตนไม่มีเงินมาเสียค่าปรับให้ภรรยา ศาลจึงสั่งขังภรรยาแทนค่าปรับวันละ 200 บาท จนเกิดความเครียดขึ้นที่ต้องมารับภาระเลี้ยงดูตัวเองขาพิการและหลานชายอีกคน จึงก่อเหตุขึ้น

ในที่เกิดเหตุชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย โวยถูกแกล้งจนเมียติดคุก ด้าน นางอารีรัตน์ พร้อมกับ พงส.สภ.ช้างเผือก ยืนยันว่า คดีของ นายเพิ่มพูลชัย ยังสามารถอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน พร้อมกับจะประสานให้ทางฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมายของสำนักงานอัยการจังหวัด เชียงใหม่ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในด้านข้อกฎหมายในระหว่างการยื่นขออุทธรณ์ต่อศาล ทำให้ นายเพิ่มพูลชัยเริ่มสงบสติอารมณ์ขึ้น พร้อมกันนั้นทาง ผอ.ทัณฑสถาน ได้ประสานจิตแพทย์มาเยียวยาช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป ส่วนอาวุธปืนเป็นปืนมีทะเบียน ตำรวจได้ตรวจยึดเอาไว้แล้ว

ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/region/375264

(ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ต.ค.56)

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ต.ค.56
วันที่โพสต์: 11/10/2556 เวลา 04:40:56 ดูภาพสไลด์โชว์ สุดทน! ชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย โวยถูกแกล้งจนเมียติดคุก

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยขึ้นกระเช้าลอยฟ้าแบบเคนยก เข้าช่วยเหลือชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย เมื่อเวลา 06.45 น. วันที่ 10 ต.ค.56 ร.ต.ท.นิทัศน์ อภิวงศ์งาม พงส. สภ.ช้างเผือก อ.เมือง เชียงใหม่ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าหน้าที่ รปภ.ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ (หน้าศาลากลางเชียงใหม่) ถนนโชตนา ต.ช้างเผือก ว่ามีชายแก่พิการคนหนึ่งพกอาวุธปืนปีนโครงเหล็กป้ายเฉลิมพระเกียรติขนาดใหญ่ ของ อบจ.เชียงใหม่ ที่นำมาติดไว้ริมถนนด้านหน้า พร้อมกับโวยวายจะกระโดดลงมาฆ่าตัวตาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปสอบสวน เมื่อไปถึงพบนายเพิ่มพูลชัย สันติธนารักษ์ อายุ 67 ปี (พิการขาซ้ายลีบต้องใช้ไม้เท้ายันเดิน) อยู่บ้านเลขที่ 2/24 ซอยวัดหนองป่าครั่ง ถนนเจริญเมือง ต.วัดเกตุ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางตำรวจจึงประสานไปยังเทศบาลนครเชียงใหม่ และรถพยาบาลจาก รพ.นครพิงค์ เข้ามาเตรียมพร้อม โดย จนท.บรรเทาสาธารณภัยได้นำเบาะลมขนาดใหญ่มากางไว้ด้านล่าง และพยายามเจรจากับ นายเพิ่มพูลชัย นานกว่า 1 ชม. และทำท่าล้วงเอาอาวุธปืนออกมาจากกระเป๋ากางเกง เพื่อจะยิงตัวตาย เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยและแพทย์สนามคอยอยู่ให้ความช่วยเหลือในสถานที่เกิดเหตุ ทาง เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยได้ประสานรถกระเช้าไฟฟ้า นำ ร.ต.อ.สมชาย อมรบุตร รอง สวป. สภ.เมือง เชียงใหม่ ขึ้นไปเจรจากับนายเพิ่มพูลชัยร่วมกว่า 20 นาที จนยอมให้กระเช้าของเจ้าหน้าที่เข้าใกล้ และตำรวจได้ควบคุมตัว และยึดเอาอาวุธปืนลูกโม่ยี่ห้อสมิธแอนด์เวสสัน ขนาด .38 พร้อมกับกระสุนปืนใส่ถุงพลาสติดไว้ในกระเป๋ากางเกงจำนวน 19 นัด พร้อมปลอกกระสุน 2 ปลอก และเกลี้ยกล่อมจนยอมขึ้นกระเช้านำลงมาได้อย่างปลอดภัยเมื่อเวลา 08.20 น. เมื่อลงมาถึงพื้น นายเพิ่มพูลชัย ได้ร้องไห้โวยวายว่าถูกคู่กรณีกลั่นแกล้งจนทำให้ภรรยาคือ นางพิมพ์พาภรณ์ สันติธนารักษ์ อายุ 53 ปี ต้องถูกศาลจังหวัดเชียงใหม่ สั่งจำคุกขังแทนค่าปรับ วันละ 200 บาท ในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร เป็นเงินทั้งสิน 433,000บาท (สี่แสนสามหมื่นสามพันบาท) โดยศาลมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 ต.ค.56 ที่ผ่านมา หลังจากที่ ภรรยาต้องถูกจำคุก ทำให้ตนเกิดความเครียด ประกอบกับต้องรับภาระเลี้ยงดูหลานชาย อายุ 7 ขวบ เรียนอยู่ชั้น ป.1 (ลูกของลูกสาวที่นำมาทิ้งไว้ให้เลี้ยงดู) จึงเกิดความเครียดอยากจะฆ่าตัวตายและอยากจะเรียกร้องขอความยุติธรรม จึงพาหลานชายซ้อนรถ จยย.มาจอดริมรั้ว แล้วปีนขึ้นไปบนป้าย จนมีเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ในที่เกิดเหตุชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย โวยถูกแกล้งจนเมียติดคุก นาง อารีรัตน์ เทียมทอง ผอ.ทัณฑสถานหญิงเชียงใหม่ ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัว นายเพิ่มพูลชัย ไปสงบสติอารมณ์ที่ห้องรับรองของเรือนจำ โดยนายเพิ่มพูลชัย เล่าว่า ตนมีอาชีพรับซื้อของเก่าอยู่ที่บ้านกับภรรยา เมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา ได้มีข้อพิพาทกับเจ้าหน้าที่ปั๊มน้ำมันหลังบ้าน เนื่องจาก มีรถยนต์มาเติมแก๊ส และน้ำมัน จอดเข้าคิว ส่งเสียงดังและมีควันไอเสียเข้ามารบกวน จึงไปแจ้งให้กับทางอำเภอเมือง และมีการฟ้องร้องเจ้าหน้าที่รัฐศาลปกครองที่ไม่สามารถแก้ปัญหาการรวบกวน สิทธิ์ของตนได้ ต่อมากลับถูกคู่กรณี กลั่นแกล้ง แจ้งกลับว่าตนกระทำผิด พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร คือต่อเติมห้องครัวหลังบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งตนก็ทำไว้นานแล้ว ภรรยาตนจึงเข้ามอบตัวต่อสู้คดีตามข้อกล่าวหาที่ สภ.แม่ปิง อ.เมือง เชียงใหม่ และพนักงานสอบสวนได้สรุปสำนวนส่งให้อัยการสั่งฟ้องต่อศาลจังหวัดเชียงใหม่ จนศาลมีคำพิพากษาว่า ภรรยาของตนกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.อาคาร จึงสั่งปรับเป็นเงินทั้งสิน 433,000 บาท (สี่แสนสามหมื่นสามพันบาท) แต่ตนไม่มีเงินมาเสียค่าปรับให้ภรรยา ศาลจึงสั่งขังภรรยาแทนค่าปรับวันละ 200 บาท จนเกิดความเครียดขึ้นที่ต้องมารับภาระเลี้ยงดูตัวเองขาพิการและหลานชายอีกคน จึงก่อเหตุขึ้น ในที่เกิดเหตุชายพิการขู่ฆ่าตัวตาย โวยถูกแกล้งจนเมียติดคุก ด้าน นางอารีรัตน์ พร้อมกับ พงส.สภ.ช้างเผือก ยืนยันว่า คดีของ นายเพิ่มพูลชัย ยังสามารถอุทธรณ์คำพิพากษาของศาลได้ภายในระยะเวลา 1 เดือน พร้อมกับจะประสานให้ทางฝ่ายช่วยเหลือทางกฎหมายของสำนักงานอัยการจังหวัด เชียงใหม่ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในด้านข้อกฎหมายในระหว่างการยื่นขออุทธรณ์ต่อศาล ทำให้ นายเพิ่มพูลชัยเริ่มสงบสติอารมณ์ขึ้น พร้อมกันนั้นทาง ผอ.ทัณฑสถาน ได้ประสานจิตแพทย์มาเยียวยาช่วยเหลือในเบื้องต้นต่อไป ส่วนอาวุธปืนเป็นปืนมีทะเบียน ตำรวจได้ตรวจยึดเอาไว้แล้ว ขอบคุณ... http://m.thairath.co.th/content/region/375264 (ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 10 ต.ค.56)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...