รักแท้มีอยู่จริง!! หนุ่มหล่อพบรักสาวพิการแขนขาขาด แต่งงานชื่นมื่นวันนี้

แสดงความคิดเห็น

นายพรภิรมย์ บัวสงค์ หรือ ต้น ว่าที่เจ้าบ่าวเดินจับมือน.ส.อ้อย โพธิ์ทอง หรือตุ๊กตา ว่าที่เจ้าสาว

ชุมพร – หนุ่มหล่อยกขันหมากข้ามจังหวัดสู่ขอสาวพิการแขนขาขาดมาแต่กำเนิด หลังเพื่อนแนะนำให้รู้จักทางโทรศัพท์ คบหาดูใจกัน 8 ปีเต็ม เหมือนบุพเพสันนิวาส ร่อนการ์ดเชิญแต่งงานกว่า 600 ใบเตรียมจัดงานใหญ่โตที่บ้านเจ้าสาวในจังหวัดชุมพร

ข่าวหนุ่มรับจ้างกรีดยาง ยกขันหมากสู่ขอแต่งงานกับสาวพิการแขนขาขาด รายนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 ส.ค.60 หลังจากมีเสียงชื่นชมกันหนาหูว่าเป็นบุพเพสันนิวาสของเจ้าสาวผู้พิการ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินไปที่บ้านเลขที่ 10/1 บ้านเขาหน้าหัก หมู่ที่ 1 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อ้อย โพธิ์ทอง หรือตุ๊กตา อายุ 38 ปี ว่าที่เจ้าสาวที่พิการมาแต่กำเนิด ขาขวาขาดใต้หัวเข่าลงมา ส่วนขาซ้ายอ่อนแรง และแขนขวาขาดตั้งแต่เหนือข้อศอกขึ้นไป และพบนายพรภิรมย์ บัวสงค์ หรือ ต้น อายุ 23 ปี ว่าที่เจ้าบ่าว อยู่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 1 ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มาช่วยตรียมจัดงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่บ้านเจ้าสาวในวันนี้ (3ส.ค.)

นายต้นและนางสาวตุ๊กตา พิการร่างกายแต่กำเนิดใส่ชุดแต่งงาน

น.ส.อ้อย โพธิ์ทอง ว่าที่เจ้าสาวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับครอบครัวของเธอพ่อชื่อนายพินิจ โพธิ์ทอง อายุ 60 ปี แม่ชื่อนางสะอื่น พานทอง (นามสกุลเขียนถูกแล้ว) อายุ 59 ปี มีอาชีพทำสวนปาล์ม เธอเป็นลูกสาวคนโต มีน้องสาว และน้องชาย ต่างมีครอบครัวไปหมดแล้ว เธอพิการมาแต่กำเนิด เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากนั้นก็ไปเรียนต่อด้านคอมพิวเตอร์ และการบัญชี ที่ศูนย์คนพิการ ที่ห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเรียนจบมาอาจารย์ที่ศูนย์คนพิการปากเกล็ด ก็ฝากเข้าทำงานเป็นแคชเชียร์ ที่โรงแรมชมพูอินน์ อ.เมือง จ.นครปฐม ตั้งแต่ปี 56

ผู้สื่อข่าวถามว่าที่เจ้าสาวว่ารู้จักกับฝ่ายชายได้อย่างไร นายพรภิรมย์ หรือต้น บัวสงค์ ว่าที่เจ้าบ่าว ขอตอบแทนว่า เพื่อนของ น.ส.อ้อย ให้เบอร์โทรศัพท์กับตนตั้งแต่ปี 52 ตนจึงโทรศัพท์คุยกันเรื่อยมาโดยที่ไม่รู้เลยว่า ว่าที่เจ้าสาวเป็นคนพิการขาด้วนแขนด้วน โดยเริ่มแรกตนก็ส่งรูปถ่ายแบบเต็มตัวไปให้ฝ่ายหญิงดูและฝ่ายหญิงก็ส่งรูปครึ่งท่อนมาให้ตนดูก็ไม่ได้คิดอะไร พูดคุยกันทางโทรศัพท์เรื่อยมา จนกระทั่งนาน 3 ปี ได้เดินทางไปเจอกันจึงรู้ว่าหญิงสาวที่ตนคุยอยู่เป็นหญิงพิการ ไม่รู้ว่าจะเป็นด้วยบุพเพสันนิวาส หรือเนื้อคู่กันมาแต่ชาติก่อน จิตใจตนที่ได้เจอครั้งแรกกลับไม่คิดอะไรเลยกลับยิ่งรักและสงสารว่าที่เจ้าสาวมาโดยตลอด

“ตัวผมเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง อยู่ที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ่อแม่ก็เปิดร้านขายของชำอยู่ในหมู่บ้านที่ ต.ไชยราช ฐานะครอบครัวก็ปานกลางไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส่วนครอบครัวฝ่าย น.ส.อ้อย ก็มีฐานะปานกลางอาชีพทำสวนปาล์ม เราคบกันมา 8 ปีเต็ม กระทั่งน.ส.อ้อย ได้บอกกับตนว่าถ้ารักกันจริงก็ให้พ่อแม่ไปสู่ขอ ตนจึงบอกว่าขอเก็บเงินก่อนได้ 5 หมื่นวันไหนก็จะพาพ่อแม่ไปสู่ขอจนสามารถเก็บเงินได้ตามที่พูดไว้”

นายพรภิรมย์ เปิดเผยต่อว่า ต่อมาเมื่อเดือน เมษายน 60 ที่ผ่านมา ตนก็พาพ่อและแม่เดินทางไปสู่ขอ น.ส.อ้อย ตามประเพณี โดยพ่อแม่ของ น.ส.อ้อย เรียกสินสอดทองหมั้น เป็นเงินสด 2 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท และกำหนดพิธีแต่งานกันในวันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค. 60 เวลา 10.00 น. ที่บ้านเจ้าสาว โดยพิธีแห่ขันหมากจะเริ่มเวลา 8 โมง 9 นาที เสร็จพิธีก็จะเป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะไทยสำเร็จซึ่งทั้งตนเองและว่าที่เจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญแขกไปแล้วจำนวน 620 ใบ จัดโต๊ะในงานเลี้ยงไว้ 130 โต๊ะ ส่วนของชำร่วยที่แจกในงานเป็นแก้วน้ำ

นายพรภิรมย์ บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า หลังเสร็จพิธีแต่งงานตนก็จะอยู่ที่บ้านเจ้าสาว 3 คืน หลังจากนั้นก็จะพาเจ้าสาวไปอยู่กับพ่อแม่ที่ อ.บางสะพานน้อย ช่วยพ่อแม่ที่ร้านขายของชำ โดยตนและเจ้าสาววาดอนาคตเอาไว้ว่าจะมีลูกทันทีเพียง1คนแต่สำหรับตนอยากได้ลูกผู้ชาย

ด้านนางสะอื้น พานทอง แม่ของว่าที่เจ้าสาว เปิดเผยว่า ดีใจไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะลูกสาวพิการมาแต่กำเนิด แต่เห็นฝ่ายชายว่าที่ลูกเขยเป็นคนจริงจัง และรักลูกสาวของนางจริง ก็สบายใจ ว่าเขาคงจะเลี้ยงดูลูกสาวได้ สำหรับการ์ดเชิญ ตนเองได้เชิญ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิก อบต. นายก อบต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย.

ขอบคุณ... https://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000078844 (ขนาดไฟล์: 166)

ที่มา: manager.co.thออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 3 ส.ค.60
วันที่โพสต์: 3/08/2560 เวลา 10:38:23 ดูภาพสไลด์โชว์ รักแท้มีอยู่จริง!! หนุ่มหล่อพบรักสาวพิการแขนขาขาด แต่งงานชื่นมื่นวันนี้

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

นายพรภิรมย์ บัวสงค์ หรือ ต้น ว่าที่เจ้าบ่าวเดินจับมือน.ส.อ้อย โพธิ์ทอง หรือตุ๊กตา ว่าที่เจ้าสาว ชุมพร – หนุ่มหล่อยกขันหมากข้ามจังหวัดสู่ขอสาวพิการแขนขาขาดมาแต่กำเนิด หลังเพื่อนแนะนำให้รู้จักทางโทรศัพท์ คบหาดูใจกัน 8 ปีเต็ม เหมือนบุพเพสันนิวาส ร่อนการ์ดเชิญแต่งงานกว่า 600 ใบเตรียมจัดงานใหญ่โตที่บ้านเจ้าสาวในจังหวัดชุมพร ข่าวหนุ่มรับจ้างกรีดยาง ยกขันหมากสู่ขอแต่งงานกับสาวพิการแขนขาขาด รายนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 2 ส.ค.60 หลังจากมีเสียงชื่นชมกันหนาหูว่าเป็นบุพเพสันนิวาสของเจ้าสาวผู้พิการ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินไปที่บ้านเลขที่ 10/1 บ้านเขาหน้าหัก หมู่ที่ 1 ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.อ้อย โพธิ์ทอง หรือตุ๊กตา อายุ 38 ปี ว่าที่เจ้าสาวที่พิการมาแต่กำเนิด ขาขวาขาดใต้หัวเข่าลงมา ส่วนขาซ้ายอ่อนแรง และแขนขวาขาดตั้งแต่เหนือข้อศอกขึ้นไป และพบนายพรภิรมย์ บัวสงค์ หรือ ต้น อายุ 23 ปี ว่าที่เจ้าบ่าว อยู่บ้านเลขที่ 25/2 หมู่ 1 ต.ไชยราช อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ที่มาช่วยตรียมจัดงานแต่งงานที่จะมีขึ้นที่บ้านเจ้าสาวในวันนี้ (3ส.ค.) นายต้นและนางสาวตุ๊กตา พิการร่างกายแต่กำเนิดใส่ชุดแต่งงาน น.ส.อ้อย โพธิ์ทอง ว่าที่เจ้าสาวเปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า สำหรับครอบครัวของเธอพ่อชื่อนายพินิจ โพธิ์ทอง อายุ 60 ปี แม่ชื่อนางสะอื่น พานทอง (นามสกุลเขียนถูกแล้ว) อายุ 59 ปี มีอาชีพทำสวนปาล์ม เธอเป็นลูกสาวคนโต มีน้องสาว และน้องชาย ต่างมีครอบครัวไปหมดแล้ว เธอพิการมาแต่กำเนิด เรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร หลังจากนั้นก็ไปเรียนต่อด้านคอมพิวเตอร์ และการบัญชี ที่ศูนย์คนพิการ ที่ห้าแยกปากเกร็ด จ.นนทบุรี หลังเรียนจบมาอาจารย์ที่ศูนย์คนพิการปากเกล็ด ก็ฝากเข้าทำงานเป็นแคชเชียร์ ที่โรงแรมชมพูอินน์ อ.เมือง จ.นครปฐม ตั้งแต่ปี 56 ผู้สื่อข่าวถามว่าที่เจ้าสาวว่ารู้จักกับฝ่ายชายได้อย่างไร นายพรภิรมย์ หรือต้น บัวสงค์ ว่าที่เจ้าบ่าว ขอตอบแทนว่า เพื่อนของ น.ส.อ้อย ให้เบอร์โทรศัพท์กับตนตั้งแต่ปี 52 ตนจึงโทรศัพท์คุยกันเรื่อยมาโดยที่ไม่รู้เลยว่า ว่าที่เจ้าสาวเป็นคนพิการขาด้วนแขนด้วน โดยเริ่มแรกตนก็ส่งรูปถ่ายแบบเต็มตัวไปให้ฝ่ายหญิงดูและฝ่ายหญิงก็ส่งรูปครึ่งท่อนมาให้ตนดูก็ไม่ได้คิดอะไร พูดคุยกันทางโทรศัพท์เรื่อยมา จนกระทั่งนาน 3 ปี ได้เดินทางไปเจอกันจึงรู้ว่าหญิงสาวที่ตนคุยอยู่เป็นหญิงพิการ ไม่รู้ว่าจะเป็นด้วยบุพเพสันนิวาส หรือเนื้อคู่กันมาแต่ชาติก่อน จิตใจตนที่ได้เจอครั้งแรกกลับไม่คิดอะไรเลยกลับยิ่งรักและสงสารว่าที่เจ้าสาวมาโดยตลอด “ตัวผมเองมีอาชีพรับจ้างกรีดยาง อยู่ที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ่อแม่ก็เปิดร้านขายของชำอยู่ในหมู่บ้านที่ ต.ไชยราช ฐานะครอบครัวก็ปานกลางไม่ได้ร่ำรวยอะไร ส่วนครอบครัวฝ่าย น.ส.อ้อย ก็มีฐานะปานกลางอาชีพทำสวนปาล์ม เราคบกันมา 8 ปีเต็ม กระทั่งน.ส.อ้อย ได้บอกกับตนว่าถ้ารักกันจริงก็ให้พ่อแม่ไปสู่ขอ ตนจึงบอกว่าขอเก็บเงินก่อนได้ 5 หมื่นวันไหนก็จะพาพ่อแม่ไปสู่ขอจนสามารถเก็บเงินได้ตามที่พูดไว้” นายพรภิรมย์ เปิดเผยต่อว่า ต่อมาเมื่อเดือน เมษายน 60 ที่ผ่านมา ตนก็พาพ่อและแม่เดินทางไปสู่ขอ น.ส.อ้อย ตามประเพณี โดยพ่อแม่ของ น.ส.อ้อย เรียกสินสอดทองหมั้น เป็นเงินสด 2 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำ หนัก 2 บาท และกำหนดพิธีแต่งานกันในวันพฤหัสบดีที่ 3 ส.ค. 60 เวลา 10.00 น. ที่บ้านเจ้าสาว โดยพิธีแห่ขันหมากจะเริ่มเวลา 8 โมง 9 นาที เสร็จพิธีก็จะเป็นงานเลี้ยงแบบโต๊ะไทยสำเร็จซึ่งทั้งตนเองและว่าที่เจ้าสาวได้แจกการ์ดเชิญแขกไปแล้วจำนวน 620 ใบ จัดโต๊ะในงานเลี้ยงไว้ 130 โต๊ะ ส่วนของชำร่วยที่แจกในงานเป็นแก้วน้ำ นายพรภิรมย์ บอกกับผู้สื่อข่าวอีกว่า หลังเสร็จพิธีแต่งงานตนก็จะอยู่ที่บ้านเจ้าสาว 3 คืน หลังจากนั้นก็จะพาเจ้าสาวไปอยู่กับพ่อแม่ที่ อ.บางสะพานน้อย ช่วยพ่อแม่ที่ร้านขายของชำ โดยตนและเจ้าสาววาดอนาคตเอาไว้ว่าจะมีลูกทันทีเพียง1คนแต่สำหรับตนอยากได้ลูกผู้ชาย ด้านนางสะอื้น พานทอง แม่ของว่าที่เจ้าสาว เปิดเผยว่า ดีใจไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เพราะลูกสาวพิการมาแต่กำเนิด แต่เห็นฝ่ายชายว่าที่ลูกเขยเป็นคนจริงจัง และรักลูกสาวของนางจริง ก็สบายใจ ว่าเขาคงจะเลี้ยงดูลูกสาวได้ สำหรับการ์ดเชิญ ตนเองได้เชิญ ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน สมาชิก อบต. นายก อบต. รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สลุย ให้มาร่วมเป็นสักขีพยานในครั้งนี้ด้วย. ขอบคุณ... https://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9600000078844

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...