ห่วงโรคระบาดดื้อยา แนะนำรับภัยพิบัติรุนแรง

แสดงความคิดเห็น

สื่อประชาสัมพันธ์แนะนำรับภัยพิบัติ

โครงการ ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก (WHO-RTG) แผนงานการจัดการทางด้านภัยพิบัติ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของบุคลากรทางการแพทย์หลายฝ่าย โดยมีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก จัดสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ เรื่อง "ความท้าทายของระบบบริการการแพทย์ไทยในการจัดการภัยพิบัติ"

ดร.พิจิต ต รัตตกุล ผอ.บริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย เตือนว่า ในอนาคตภัยพิบัติจะเปลี่ยนไป โดยจะมีความถี่มากขึ้น รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นขั้นตอนการรับมือภัยพิบัติแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอแล้ว จากสถิติของภัยพิบัติทั่วๆ ไป พบว่ามีผู้เสียชีวิตในขณะเกิดภัยพิบัติประมาณ 2 ใน 3 ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตภายหลังเกิดภัยพิบัติสูงถึงร้อยละ 30

"ภัย พิบัติที่ไทยกำลังจะเผชิญ คือ ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนอย่างมาก เช่น ภัยจากภาวะแห้งแล้ง ก่อให้เกิดโรคระบาดที่ดื้อยา โรคระบาดที่มากับน้ำท่วมขังยาวนาน หรือในเขตเมืองก็เกิดปรากฏการณ์โดมแห่งความร้อน จากกิจกรรมที่ระบายความร้อนหรือมลพิษ เช่น แอร์คอนดิชั่น ไอเสียรถยนต์ เมืองก็จะร้อนมาก" ดร.พิจิตต กล่าวสรุป

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. เสริมว่า ประเทศไทยยังขาดระบบการจัดการภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมในหลายระดับ ทั้งระดับความร่วมมือระหว่างนานาชาติ ระดับประเทศไปจนถึงระดับชุมชน

คู่มือรับภัยพิบัติ ขณะ ที่สภากาชาดไทยนำเสนอว่า ประเทศไทยไม่อาจหลีกหนีเหตุการณ์น้ำท่วมได้ เนื่องจากอยู่ในโซนน้ำท่วม กรุงเทพฯ ระดับพื้นดินสูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 1 เมตรเท่านั้น น้ำแข็งจากขั้วโลกก็ละลายมากขึ้นทุกปี เพราะฉะนั้นควรเตรียมเรือไว้สำหรับหนีภัย และเรียนรู้วิธีการทำน้ำให้สะอาด เช่น แกว่งสารส้มหรือนำมาต้ม หรือต้องใช้ตัวช่วยที่เรียกว่า คลอรีนแท็บเล็ต ซึ่งเป็นยาเม็ดฆ่าเชื้อที่ควรซื้อติดบ้านไว้ทุกบ้าน

การเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ สภากาชาดไทยเตรียมครัวเคลื่อนที่ 5 ชุด แต่ละชุดสามารถผลิตอาหารได้ประมาณ 3,500-5,000 ชุด/วัน, แฟมิลี่ เต็นท์ สำหรับเป็นที่พักชั่วคราวให้ผู้ประสบภัย เตรียมไว้ 200 กว่าหลัง โดย 1 เต็นท์จะอาศัยอยู่ได้ 4 คน มีพื้นที่ 16 ตารางเมตร และหน่วยผลิตน้ำดื่มฉุกเฉิน รถสื่อสารเคลื่อนที่ รวมไปถึงทีมแพทย์ฉุกเฉิน

สพฉ.ยัง เตรียมเผยแพร่สื่อความรู้ "รู้แล้วรอด" เช่น "คู่มือรับมือภัยพิบัติ (ฉบับพกพา)" เป็นต้น ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.niems.go.th หรือ Facebook/สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ

ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1pXRXdORE13TURjMU5nPT0= (ขนาดไฟล์: 167)

ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ค.56

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ค.56
วันที่โพสต์: 30/07/2556 เวลา 04:41:39 ดูภาพสไลด์โชว์ ห่วงโรคระบาดดื้อยา แนะนำรับภัยพิบัติรุนแรง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

สื่อประชาสัมพันธ์แนะนำรับภัยพิบัติ โครงการ ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก (WHO-RTG) แผนงานการจัดการทางด้านภัยพิบัติ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของบุคลากรทางการแพทย์หลายฝ่าย โดยมีสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เป็นผู้รับผิดชอบหลัก จัดสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับการรับมือภัยพิบัติ เรื่อง "ความท้าทายของระบบบริการการแพทย์ไทยในการจัดการภัยพิบัติ" ดร.พิจิต ต รัตตกุล ผอ.บริหารศูนย์เตรียมความพร้อมป้องกันภัยพิบัติแห่งเอเชีย เตือนว่า ในอนาคตภัยพิบัติจะเปลี่ยนไป โดยจะมีความถี่มากขึ้น รุนแรงมากขึ้น ดังนั้นขั้นตอนการรับมือภัยพิบัติแบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพอแล้ว จากสถิติของภัยพิบัติทั่วๆ ไป พบว่ามีผู้เสียชีวิตในขณะเกิดภัยพิบัติประมาณ 2 ใน 3 ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตภายหลังเกิดภัยพิบัติสูงถึงร้อยละ 30 "ภัย พิบัติที่ไทยกำลังจะเผชิญ คือ ภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงรุนแรง ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องยาวนาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนอย่างมาก เช่น ภัยจากภาวะแห้งแล้ง ก่อให้เกิดโรคระบาดที่ดื้อยา โรคระบาดที่มากับน้ำท่วมขังยาวนาน หรือในเขตเมืองก็เกิดปรากฏการณ์โดมแห่งความร้อน จากกิจกรรมที่ระบายความร้อนหรือมลพิษ เช่น แอร์คอนดิชั่น ไอเสียรถยนต์ เมืองก็จะร้อนมาก" ดร.พิจิตต กล่าวสรุป นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. เสริมว่า ประเทศไทยยังขาดระบบการจัดการภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีการเตรียมพร้อมในหลายระดับ ทั้งระดับความร่วมมือระหว่างนานาชาติ ระดับประเทศไปจนถึงระดับชุมชน คู่มือรับภัยพิบัติขณะ ที่สภากาชาดไทยนำเสนอว่า ประเทศไทยไม่อาจหลีกหนีเหตุการณ์น้ำท่วมได้ เนื่องจากอยู่ในโซนน้ำท่วม กรุงเทพฯ ระดับพื้นดินสูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 1 เมตรเท่านั้น น้ำแข็งจากขั้วโลกก็ละลายมากขึ้นทุกปี เพราะฉะนั้นควรเตรียมเรือไว้สำหรับหนีภัย และเรียนรู้วิธีการทำน้ำให้สะอาด เช่น แกว่งสารส้มหรือนำมาต้ม หรือต้องใช้ตัวช่วยที่เรียกว่า คลอรีนแท็บเล็ต ซึ่งเป็นยาเม็ดฆ่าเชื้อที่ควรซื้อติดบ้านไว้ทุกบ้าน การเตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ สภากาชาดไทยเตรียมครัวเคลื่อนที่ 5 ชุด แต่ละชุดสามารถผลิตอาหารได้ประมาณ 3,500-5,000 ชุด/วัน, แฟมิลี่ เต็นท์ สำหรับเป็นที่พักชั่วคราวให้ผู้ประสบภัย เตรียมไว้ 200 กว่าหลัง โดย 1 เต็นท์จะอาศัยอยู่ได้ 4 คน มีพื้นที่ 16 ตารางเมตร และหน่วยผลิตน้ำดื่มฉุกเฉิน รถสื่อสารเคลื่อนที่ รวมไปถึงทีมแพทย์ฉุกเฉิน สพฉ.ยัง เตรียมเผยแพร่สื่อความรู้ "รู้แล้วรอด" เช่น "คู่มือรับมือภัยพิบัติ (ฉบับพกพา)" เป็นต้น ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.niems.go.th หรือ Facebook/สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ขอบคุณ http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROb1pXRXdORE13TURjMU5nPT0= ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 30 ก.ค.56

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...