ครม.เห็นชอบแก้ กม.ดึงอาชีพอิสระเข้าประกันสังคม-รับบำนาญชราภาพ
ทำเนียบฯ 25 มิ.ย.-ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างหลักการพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ผลประโยชน์ทดแทนของบุคคล เพื่อต้องการดูแลแรงงานนอกระบบ ในกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มเกษตกร ผู้ขับรถรับจ้าง ค้าขาย หาบเร่ แผงลอย ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15- 60 ปีขึ้นไป สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกประกันสังคมตามมาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ประกันสังคม
ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้แรงงานนอกระบบได้รับสิทธิเงินบำนาญชราภาพ ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ประกันตน จึงแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ด้วยการปรับปรุงทางเลือกที่ 3 ให้แรงงานนอกระบบได้รับสิทธิประโยชน์จากเงินบำนาญชราภาพ โดยการสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 200 บาท โดยผู้ประกันตนและรัฐบาลจ่ายสมทบเข้ากองทุนฝ่ายละ 100 บาท เพื่อเพิ่มเติมจากทางเลือกที่ 1 โดยจ่ายเข้ากองทุน 100 บาท รัฐบาลจ่าย 30 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท เพื่อรับประโยชน์กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และตาย ทางเลือกที่ 2 จ่ายสมทบ 150 บาท รัฐบาลสมทบ 150 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท เพิ่มจากทางเลือกที่ 1 โดยให้มีเงินบำเหน็จชราภาพ แต่ทางเลือกที่ 3 ให้เป็นเงินบำนาญชราภาพ โดยอนุมัติให้จัดสรรงบประมาณปี 56 จำนวน 165 ล้านบาท รองรับกรณีฉุกเฉิน และให้กระทรวงการคลังหารือกับกระทรวงแรงงานเพิ่มเติมว่าแนวทางดังกล่าวซ้ำ ซ้อนกับกฎหมายกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หรือไม่
ขอบคุณ … http://www.mcot.net/site/content?id=51c9513a150ba0cf2e000136#.Ucm4sjcs2yg (ขนาดไฟล์: 175)
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ทำเนียบฯ 25 มิ.ย.-ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติร่างหลักการพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ผลประโยชน์ทดแทนของบุคคล เพื่อต้องการดูแลแรงงานนอกระบบ ในกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มเกษตกร ผู้ขับรถรับจ้าง ค้าขาย หาบเร่ แผงลอย ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 15- 60 ปีขึ้นไป สามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกประกันสังคมตามมาตรา 40 ของ พ.ร.บ.ประกันสังคม ทั้งนี้ เพื่อต้องการให้แรงงานนอกระบบได้รับสิทธิเงินบำนาญชราภาพ ไม่ให้เกิดความเหลื่อมล้ำระหว่างผู้ประกันตน จึงแก้ไขกฎหมายเพิ่มเติม ด้วยการปรับปรุงทางเลือกที่ 3 ให้แรงงานนอกระบบได้รับสิทธิประโยชน์จากเงินบำนาญชราภาพ โดยการสมทบเข้ากองทุนเดือนละ 200 บาท โดยผู้ประกันตนและรัฐบาลจ่ายสมทบเข้ากองทุนฝ่ายละ 100 บาท เพื่อเพิ่มเติมจากทางเลือกที่ 1 โดยจ่ายเข้ากองทุน 100 บาท รัฐบาลจ่าย 30 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 70 บาท เพื่อรับประโยชน์กรณีเจ็บป่วย ทุพพลภาพ และตาย ทางเลือกที่ 2 จ่ายสมทบ 150 บาท รัฐบาลสมทบ 150 บาท ผู้ประกันตนจ่าย 100 บาท เพิ่มจากทางเลือกที่ 1 โดยให้มีเงินบำเหน็จชราภาพ แต่ทางเลือกที่ 3 ให้เป็นเงินบำนาญชราภาพ โดยอนุมัติให้จัดสรรงบประมาณปี 56 จำนวน 165 ล้านบาท รองรับกรณีฉุกเฉิน และให้กระทรวงการคลังหารือกับกระทรวงแรงงานเพิ่มเติมว่าแนวทางดังกล่าวซ้ำ ซ้อนกับกฎหมายกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หรือไม่ ขอบคุณ … http://www.mcot.net/site/content?id=51c9513a150ba0cf2e000136#.Ucm4sjcs2yg
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)