SME มีแวว : เพิ่มท็อปปิ้ง'รองเท้าแตะ'...เก๋-แซ่บ เลือกได้...ไอเดียสุดเจิดจาก 'โช-อิ-เซะ'

แสดงความคิดเห็น

รวมภาพ 'รองเท้าแตะ' หลายหลายสีสันต์

แน่ล่ะว่า...รองเท้าที่ใส่สบายที่สุดมันก็ต้อง 'รองเท้าแตะ' แต่คงจะดีไม่น้อย หากเราสามารถเลือกส่วนประกอบต่างๆ อย่างสีพื้นรองเท้า สีหู ไปจนถึงท็อปปิ้งสำหรับตกแต่งได้... SME มีแวว จัดให้...

รู้จัก 'โช-อิ-เซะ'

โช-อิ-เซะ' ร้านรองเท้าแตะ มีจุดขายตรงที่ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์ชิ้นส่วนต่างๆ ของรองเท้าให้ออกมาเป็นรองเท้า 1 คู่ได้อย่างอิสระ ตั้งแต่ 1. พื้นรองเท้า (มีพื้น 2 แบบ คือ แบบโฟม และแบบพื้นยาง พร้อมสีสันสดใสให้เลือกอีกกว่า 8 เฉดสี ) 2. หูรองเท้า (เลือกได้ 8 เฉดสี) และ 3.ท็อปปิ้ง (แอคเซสซอรี่เก๋ๆ สำหรับตกแต่งรองเท้า)...เมื่อเลือกแล้ว นั่งรอประกอบรองเท้าไม่เกิน 2 นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย!!

อยากทำอะไรที่แตกต่าง

ปริญญา ปทุมแสง กับ อัญวีณ์ อิสระชัยนันท์ 2 หนุ่มสาวเจ้าของร้าน 'โช-อิ-เซะ' เผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า ร้านนี้เปิดมาได้ประมาณ 6 เดือน โดยมีจุดเริ่มมาจาก ตัวของ อัญวีณ์ ที่ก่อนหน้านี้เธอทำงานเป็นนักวิจัยสังคม อยู่ที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ต่อมาได้ลาออกเพื่อเดินทางไปเรียนเพิ่มเติม ณ ประเทศอังกฤษอยู่นานประมาณ 1 ปี ระหว่างนั้นเธอก็ขบคิดไปด้วยว่า แท้จริงแล้วตัวเธอต้องการทำอะไรกันแน่ ซึ่งคำตอบก็คือ...เธอนั้นไม่ชอบทำงานแบบนั่งเก้าอี้อยู่กับที่ แต่อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง ทั้งนี้ เธอก็คิดต่อไปว่า จะต้องเป็นธุรกิจอะไรสักอย่างที่เธอชอบ และอยากจะทำมันจริงๆ

"ช่วงที่อยู่อังกฤษสภาพแวดล้อม สังคมที่นั่นถือว่าเป็นชนวนจุดประกายอย่างหนึ่งให้เราเกิดไอเดียอยากทำอะไร ที่มันแตกต่าง ด้วยสังเกตว่าคนที่นั่นเขาค่อนข้างมีความคิดที่อิสระ ขณะเดียวกันทุกวันนี้สังคมไทย เด็กรุ่นใหม่ต้องยอมรับว่าเขาเองก็มีอิสระในการตัดสินใจ กล้าคิดกล้าทำกันมากขึ้น มันเลยได้ข้อสรุปว่าเราจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่มันแตกต่าง คิดไปคิดมาก็มาสรุปที่ว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับรองเท้าแตะ เนื่องจากว่า เราเป็นคนที่โดนรองเท้ากัดง่ายมาก ใส่รองเท้าอะไรก็เจอปัญหานี้ตลอด มันเลยทำให้เราชอบใส่รองเท้าแตะมากเป็นพิเศษ เพราะรองเท้าแตะเป็นรองเท้าที่ใส่สบายที่สุด อีกทั้งพื้นฐานทางบ้านก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับส่วนประกอบรองเท้าอยู่แล้วด้วย ทำให้เรารู้ว่าแหล่งวัตถุดิบนั้นมีอยู่ที่ไหนบ้าง ประกอบกับไอเดียตอนนั้นคิดว่า ตลาดรองเท้าบ้านเรายังไม่มีที่ไหนสามารถนำรองเท้าแตะมามิกซ์แบบให้ลูกค้า สามารถเลือกส่วนประกอบรองเท้าเช่น พื้น หูหนีบ โดยมีสีสันที่หลากหลายมาประกอบรวมกันเป็น 1 คู่ได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้เราตัดสินใจเปิดร้านรองเท้าแตะขึ้นมาอย่างจริงๆ จังๆ ค่ะ"

ดังนั้น จุดต่างที่สำคัญของ 'โช-อิ-เซะ' จึงอยู่ที่ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์สีสันทุกส่วนประกอบของรองเท้าได้อย่าง อิสระ โดยเจ้าของร้าน ตั้งใจไว้ว่า เป้าหมายของร้านน่าจะเป็น กลุ่มวัยรุ่น ที่อยากได้อะไรที่ไม่จำเจ

ที่มาของชื่อ โช-อิ-เซะ CHO-I-CE

ชื่อ ร้าน โช-อิ-เซะ หรือ CHO-I-CE มาจากคำว่า CHOICE ที่แปลว่า เลือกได้ ...ทว่าเหตุผลที่นำมาแยกคำให้อ่านออกเสียงแล้วคล้ายภาษาญี่ปุ่นนั้น ทางเจ้าของร้านเขาอธิบายว่า เนื่องจากการตกแต่งร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นจึงอยากให้ชื่อร้านเป็นไปในทิศทาง เดียวกัน จึงเป็นที่มาของนามว่า โช-อิ-เซะ หรือ CHO-I-CE นั่นเอง

กลุ่มเป้าหมายมีอยู่ทุกวัย

"ร้าน 'โช-อิ-เซะ' เปิดมาได้ประมาณ 6 เดือน โดยครั้งแรกเราตั้งใจไว้ว่าจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ต้องการความแปลก แหวกแนว ทว่าพอเอาเข้าจริง ปรากฏว่าลูกค้ากลับไม่ได้มีแค่วัยรุ่น แต่รวมไปถึงกลุ่มวัยทำงาน ผู้สูงอายุ กระทั่งชาวต่างชาติล้วนให้ความสนใจ ทำให้เราได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว สินค้าของเรามันสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ทุกกลุ่มค่ะ"

แตกไลน์แตะพื้นยาง

ใน ช่วงเปิดตัวนั้น ร้าน 'โช-อิ-เซะ' เริ่มขายจากรองเท้าพื้นโฟมก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มพัฒนาเพิ่มไลน์สินค้าด้วยรองเท้า พื้นยางเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการรองเท้าแตะที่ให้ความ ทนทานยิ่งขึ้นด้วย

เจ้าของร้านสาวเล่าว่า "รองเท้าโฟมน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใส่เดินภายในบ้าน ในออฟฟิศ หรือห้องน้ำแต่ถ้านำไปใส่เดินที่อื่นมากๆ อาจมีปัญหาเรื่องพื้นรองเท้ายุบตัวเร็วกว่าปกติ ดังนั้น เราจึงอยากพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเราก็อยากขยายตลาดให้กว้างยิ่งขึ้นด้วย จึงแตกไลน์รองเท้าพื้นยางเข้ามา เพื่อให้สามารถใส่เดินเล่น นอกสถานที่ที่มันสมบุกสมบันได้สบายๆ อย่างที่ผ่านมา บางคนใส่ไปขึ้นเขาคิชฌกูฎมาแล้วก็มี คือเราพยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดค่ะ"

ดีไซน์ใส่แล้วนิ้วไม่ตก

ปริญญา กล่าวเพิ่มเติมด้วย ว่า "พื้นโฟมที่เราดีไซน์มา ถ้าใส่ปุ๊บเนี่ย จะรู้สึกได้เลยว่านุ่มและสบายกว่ายี่ห้ออื่น อีกทั้งน้ำหนักเบามาก ส่วนรองเท้าพื้นยาง จะนุ่ม และทนทานกว่าพื้นโฟม ทั้งนี้เป็นเพราะเราเลือกวัสดุเกรดพิเศษ สั่งโรงงานผลิตมาให้ร้านเราโดยเฉพาะ ฉะนั้น ความนุ่มใส่สบายจึงไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นรองเท้า เราได้ดีไซน์ขึ้นมาใหม่ เพราะจากประสบการณ์เวลาใส่รองเท้าแตะ นิ้วก้อยมักตกจากพื้นรองเท้า เพราะคนไทยเราหน้าเท้ากว้าง ดังนั้นผมจึงเน้นให้พื้นรองเท้ากว้างตามขนาดหน้าเท้าจริง จึงทำให้ใส่รองเท้าได้พอดี นิ้วไม่ตก แล้วสามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชายครับ"

หนึ่งเดียวในไทย

ก่อน จะขายนั้น รองเท้าได้ผ่านการทดลองใส่จริงมาแล้วว่าต้องได้มาตรฐาน ใส่ไม่เจ็บ ไม่ลื่น พื้นต้องนุ่ม ใส่สบาย ไม่กัดเท้า ส่วนจุดดึงดูดอื่นๆ อย่างการเสริมด้วยท็อปปิ้งเลือกได้นั้น เจ้าของร้านบอกว่า

"รองเท้าแตะที่สามารถเลือกชิ้นส่วนประกอบได้เองทุกชิ้น เท่าที่รู้ยังไม่เคยเห็นที่ไหนในประเทศไทยนะ"

ที่สำคัญรองเท้าร้านนี้ยังมีจุดดึงดูดตรงสีสันสะดุดตา อุดมไปด้วยท็อปปิ้งตกแต่งหลากหลาย ทั้งเพชร, ดาว, มุก และท็อปปิ้งจากตุ๊กตาไม้ โดยไฮไลต์อยู่ที่ผลิตขึ้นใหม่ชิ้นต่อชิ้น เรียกว่าเป็นท็อปปิ้งแฮนด์เมด มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความชอบจุใจ พร้อมกันนี้ในส่วนของการติดตกแต่งเขาทำอย่างมืออาชีพ จึงไม่ต้องกังวลว่าเมื่อติดไปแล้วหากโดนน้ำหรืออะไรอาจทำให้ท็อปปิ้งที่ อุตส่าห์เลือกมากระเด็นหายไป...ไม่มีทาง! เพราะเขามีเทคนิคพิเศษหากเป็นตุ๊กตาไม้อาจใช้ปืนกาว (กาวชนิดพิเศษ) ติด แต่ถ้าเป็นเพชรจะใช้วิธีตอกฝังลงไปในหูรองเท้าคู่นั้นเลย

เด่นอย่างนี้ มีไว้สักคู่เหอะ!

จุด เด่น ของรองเท้าร้านนี้ คือ เป็นรองเท้าแตะที่สามารถเลือกส่วนประกอบแต่ละส่วนได้ตามใจปรารถนา และดีไซน์ใส่ได้ทั้งชาย-หญิง นิ้วไม่ตกจากพื้นรองเท้า และสามารถตกแต่งเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามต้องการ สีสันของรองเท้าจะให้สีสดใส ใส่แล้วไม่กัด ทำความสะอาดง่าย โดนน้ำได้ท็อปปิ้งไม่หลุดร่อน คุณภาพทนทาน

สนนราคา รองเท้าแตะพื้นโฟม 119 บาท/คู่ (ไม่รวมท็อปปิ้ง) และรองเท้าพื้นยาง 149 บาท/คู่ (ไม่รวมท็อปปิ้ง) ส่วนราคาท็อปปิ้ง ตุ๊กตาไม้ คู่ละ 29 บาท หากเป็นท็อปปิ้งสังเคราะห์ เช่น เพชร ดาว มุก ฯลฯ คู่ละ 19 บาท

ปัจจุบัน นอกจากขายหน้าร้านแล้ว ยังส่งออกประจำไปประเทศโคลัมเบีย ส่วนลูกค้าที่มาซื้อเหมาไปเองก็มีบ้างเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น

ล่า สุดได้แตกไลน์ เพิ่มรองเท้าสีทูโทน และรองเท้าแตะแต่งด้วยไหมพรม เข้ามาเป็นทางเลือกเก๋ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งตอนนี้กำลังวางแผนจ่อเปิดแฟรนไชส์แน่นอน หากใครอยากสร้างธุรกิจอนาคตไกลลองเข้ามาอัพเดทข้อมูลการลงทุนได้ที่ร้าน 'โช-อิ-เซะ' ชั้น 2 ห้างยูเนี่ยนมอลล์ โทร.081-101-3352 หรือ ขอบคุณ http://www.facebook.com/CHO.I.CE.FANPAGE

ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/eco/332363

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 20 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 20/04/2556 เวลา 03:59:27 ดูภาพสไลด์โชว์ SME มีแวว : เพิ่มท็อปปิ้ง'รองเท้าแตะ'...เก๋-แซ่บ เลือกได้...ไอเดียสุดเจิดจาก 'โช-อิ-เซะ'

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

รวมภาพ \'รองเท้าแตะ\' หลายหลายสีสันต์ แน่ล่ะว่า...รองเท้าที่ใส่สบายที่สุดมันก็ต้อง 'รองเท้าแตะ' แต่คงจะดีไม่น้อย หากเราสามารถเลือกส่วนประกอบต่างๆ อย่างสีพื้นรองเท้า สีหู ไปจนถึงท็อปปิ้งสำหรับตกแต่งได้... SME มีแวว จัดให้... รู้จัก 'โช-อิ-เซะ' โช-อิ-เซะ' ร้านรองเท้าแตะ มีจุดขายตรงที่ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์ชิ้นส่วนต่างๆ ของรองเท้าให้ออกมาเป็นรองเท้า 1 คู่ได้อย่างอิสระ ตั้งแต่ 1. พื้นรองเท้า (มีพื้น 2 แบบ คือ แบบโฟม และแบบพื้นยาง พร้อมสีสันสดใสให้เลือกอีกกว่า 8 เฉดสี ) 2. หูรองเท้า (เลือกได้ 8 เฉดสี) และ 3.ท็อปปิ้ง (แอคเซสซอรี่เก๋ๆ สำหรับตกแต่งรองเท้า)...เมื่อเลือกแล้ว นั่งรอประกอบรองเท้าไม่เกิน 2 นาทีทุกอย่างก็เรียบร้อย!! อยากทำอะไรที่แตกต่าง ปริญญา ปทุมแสง กับ อัญวีณ์ อิสระชัยนันท์ 2 หนุ่มสาวเจ้าของร้าน 'โช-อิ-เซะ' เผยกับไทยรัฐออนไลน์ว่า ร้านนี้เปิดมาได้ประมาณ 6 เดือน โดยมีจุดเริ่มมาจาก ตัวของ อัญวีณ์ ที่ก่อนหน้านี้เธอทำงานเป็นนักวิจัยสังคม อยู่ที่จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย ต่อมาได้ลาออกเพื่อเดินทางไปเรียนเพิ่มเติม ณ ประเทศอังกฤษอยู่นานประมาณ 1 ปี ระหว่างนั้นเธอก็ขบคิดไปด้วยว่า แท้จริงแล้วตัวเธอต้องการทำอะไรกันแน่ ซึ่งคำตอบก็คือ...เธอนั้นไม่ชอบทำงานแบบนั่งเก้าอี้อยู่กับที่ แต่อยากมีธุรกิจเป็นของตนเอง ทั้งนี้ เธอก็คิดต่อไปว่า จะต้องเป็นธุรกิจอะไรสักอย่างที่เธอชอบ และอยากจะทำมันจริงๆ "ช่วงที่อยู่อังกฤษสภาพแวดล้อม สังคมที่นั่นถือว่าเป็นชนวนจุดประกายอย่างหนึ่งให้เราเกิดไอเดียอยากทำอะไร ที่มันแตกต่าง ด้วยสังเกตว่าคนที่นั่นเขาค่อนข้างมีความคิดที่อิสระ ขณะเดียวกันทุกวันนี้สังคมไทย เด็กรุ่นใหม่ต้องยอมรับว่าเขาเองก็มีอิสระในการตัดสินใจ กล้าคิดกล้าทำกันมากขึ้น มันเลยได้ข้อสรุปว่าเราจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่มันแตกต่าง คิดไปคิดมาก็มาสรุปที่ว่าจะทำธุรกิจเกี่ยวกับรองเท้าแตะ เนื่องจากว่า เราเป็นคนที่โดนรองเท้ากัดง่ายมาก ใส่รองเท้าอะไรก็เจอปัญหานี้ตลอด มันเลยทำให้เราชอบใส่รองเท้าแตะมากเป็นพิเศษ เพราะรองเท้าแตะเป็นรองเท้าที่ใส่สบายที่สุด อีกทั้งพื้นฐานทางบ้านก็ทำธุรกิจเกี่ยวกับส่วนประกอบรองเท้าอยู่แล้วด้วย ทำให้เรารู้ว่าแหล่งวัตถุดิบนั้นมีอยู่ที่ไหนบ้าง ประกอบกับไอเดียตอนนั้นคิดว่า ตลาดรองเท้าบ้านเรายังไม่มีที่ไหนสามารถนำรองเท้าแตะมามิกซ์แบบให้ลูกค้า สามารถเลือกส่วนประกอบรองเท้าเช่น พื้น หูหนีบ โดยมีสีสันที่หลากหลายมาประกอบรวมกันเป็น 1 คู่ได้ ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้เราตัดสินใจเปิดร้านรองเท้าแตะขึ้นมาอย่างจริงๆ จังๆ ค่ะ" ดังนั้น จุดต่างที่สำคัญของ 'โช-อิ-เซะ' จึงอยู่ที่ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์สีสันทุกส่วนประกอบของรองเท้าได้อย่าง อิสระ โดยเจ้าของร้าน ตั้งใจไว้ว่า เป้าหมายของร้านน่าจะเป็น กลุ่มวัยรุ่น ที่อยากได้อะไรที่ไม่จำเจ ที่มาของชื่อ โช-อิ-เซะ CHO-I-CE ชื่อ ร้าน โช-อิ-เซะ หรือ CHO-I-CE มาจากคำว่า CHOICE ที่แปลว่า เลือกได้ ...ทว่าเหตุผลที่นำมาแยกคำให้อ่านออกเสียงแล้วคล้ายภาษาญี่ปุ่นนั้น ทางเจ้าของร้านเขาอธิบายว่า เนื่องจากการตกแต่งร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่นจึงอยากให้ชื่อร้านเป็นไปในทิศทาง เดียวกัน จึงเป็นที่มาของนามว่า โช-อิ-เซะ หรือ CHO-I-CE นั่นเอง กลุ่มเป้าหมายมีอยู่ทุกวัย "ร้าน 'โช-อิ-เซะ' เปิดมาได้ประมาณ 6 เดือน โดยครั้งแรกเราตั้งใจไว้ว่าจะเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าวัยรุ่นที่ต้องการความแปลก แหวกแนว ทว่าพอเอาเข้าจริง ปรากฏว่าลูกค้ากลับไม่ได้มีแค่วัยรุ่น แต่รวมไปถึงกลุ่มวัยทำงาน ผู้สูงอายุ กระทั่งชาวต่างชาติล้วนให้ความสนใจ ทำให้เราได้รู้ว่าจริงๆ แล้ว สินค้าของเรามันสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้ทุกกลุ่มค่ะ" แตกไลน์แตะพื้นยาง ใน ช่วงเปิดตัวนั้น ร้าน 'โช-อิ-เซะ' เริ่มขายจากรองเท้าพื้นโฟมก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มพัฒนาเพิ่มไลน์สินค้าด้วยรองเท้า พื้นยางเข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการรองเท้าแตะที่ให้ความ ทนทานยิ่งขึ้นด้วย เจ้าของร้านสาวเล่าว่า "รองเท้าโฟมน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับใส่เดินภายในบ้าน ในออฟฟิศ หรือห้องน้ำแต่ถ้านำไปใส่เดินที่อื่นมากๆ อาจมีปัญหาเรื่องพื้นรองเท้ายุบตัวเร็วกว่าปกติ ดังนั้น เราจึงอยากพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเราก็อยากขยายตลาดให้กว้างยิ่งขึ้นด้วย จึงแตกไลน์รองเท้าพื้นยางเข้ามา เพื่อให้สามารถใส่เดินเล่น นอกสถานที่ที่มันสมบุกสมบันได้สบายๆ อย่างที่ผ่านมา บางคนใส่ไปขึ้นเขาคิชฌกูฎมาแล้วก็มี คือเราพยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้มากที่สุดค่ะ" ดีไซน์ใส่แล้วนิ้วไม่ตก ปริญญา กล่าวเพิ่มเติมด้วย ว่า "พื้นโฟมที่เราดีไซน์มา ถ้าใส่ปุ๊บเนี่ย จะรู้สึกได้เลยว่านุ่มและสบายกว่ายี่ห้ออื่น อีกทั้งน้ำหนักเบามาก ส่วนรองเท้าพื้นยาง จะนุ่ม และทนทานกว่าพื้นโฟม ทั้งนี้เป็นเพราะเราเลือกวัสดุเกรดพิเศษ สั่งโรงงานผลิตมาให้ร้านเราโดยเฉพาะ ฉะนั้น ความนุ่มใส่สบายจึงไม่เหมือนที่ไหนแน่นอน นอกจากนี้ ในส่วนของพื้นรองเท้า เราได้ดีไซน์ขึ้นมาใหม่ เพราะจากประสบการณ์เวลาใส่รองเท้าแตะ นิ้วก้อยมักตกจากพื้นรองเท้า เพราะคนไทยเราหน้าเท้ากว้าง ดังนั้นผมจึงเน้นให้พื้นรองเท้ากว้างตามขนาดหน้าเท้าจริง จึงทำให้ใส่รองเท้าได้พอดี นิ้วไม่ตก แล้วสามารถใส่ได้ทั้งผู้หญิง และผู้ชายครับ" หนึ่งเดียวในไทย ก่อน จะขายนั้น รองเท้าได้ผ่านการทดลองใส่จริงมาแล้วว่าต้องได้มาตรฐาน ใส่ไม่เจ็บ ไม่ลื่น พื้นต้องนุ่ม ใส่สบาย ไม่กัดเท้า ส่วนจุดดึงดูดอื่นๆ อย่างการเสริมด้วยท็อปปิ้งเลือกได้นั้น เจ้าของร้านบอกว่า "รองเท้าแตะที่สามารถเลือกชิ้นส่วนประกอบได้เองทุกชิ้น เท่าที่รู้ยังไม่เคยเห็นที่ไหนในประเทศไทยนะ" ที่สำคัญรองเท้าร้านนี้ยังมีจุดดึงดูดตรงสีสันสะดุดตา อุดมไปด้วยท็อปปิ้งตกแต่งหลากหลาย ทั้งเพชร, ดาว, มุก และท็อปปิ้งจากตุ๊กตาไม้ โดยไฮไลต์อยู่ที่ผลิตขึ้นใหม่ชิ้นต่อชิ้น เรียกว่าเป็นท็อปปิ้งแฮนด์เมด มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความชอบจุใจ พร้อมกันนี้ในส่วนของการติดตกแต่งเขาทำอย่างมืออาชีพ จึงไม่ต้องกังวลว่าเมื่อติดไปแล้วหากโดนน้ำหรืออะไรอาจทำให้ท็อปปิ้งที่ อุตส่าห์เลือกมากระเด็นหายไป...ไม่มีทาง! เพราะเขามีเทคนิคพิเศษหากเป็นตุ๊กตาไม้อาจใช้ปืนกาว (กาวชนิดพิเศษ) ติด แต่ถ้าเป็นเพชรจะใช้วิธีตอกฝังลงไปในหูรองเท้าคู่นั้นเลย เด่นอย่างนี้ มีไว้สักคู่เหอะ! จุด เด่น ของรองเท้าร้านนี้ คือ เป็นรองเท้าแตะที่สามารถเลือกส่วนประกอบแต่ละส่วนได้ตามใจปรารถนา และดีไซน์ใส่ได้ทั้งชาย-หญิง นิ้วไม่ตกจากพื้นรองเท้า และสามารถตกแต่งเพิ่มท็อปปิ้งได้ตามต้องการ สีสันของรองเท้าจะให้สีสดใส ใส่แล้วไม่กัด ทำความสะอาดง่าย โดนน้ำได้ท็อปปิ้งไม่หลุดร่อน คุณภาพทนทาน สนนราคา รองเท้าแตะพื้นโฟม 119 บาท/คู่ (ไม่รวมท็อปปิ้ง) และรองเท้าพื้นยาง 149 บาท/คู่ (ไม่รวมท็อปปิ้ง) ส่วนราคาท็อปปิ้ง ตุ๊กตาไม้ คู่ละ 29 บาท หากเป็นท็อปปิ้งสังเคราะห์ เช่น เพชร ดาว มุก ฯลฯ คู่ละ 19 บาท ปัจจุบัน นอกจากขายหน้าร้านแล้ว ยังส่งออกประจำไปประเทศโคลัมเบีย ส่วนลูกค้าที่มาซื้อเหมาไปเองก็มีบ้างเช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เป็นต้น ล่า สุดได้แตกไลน์ เพิ่มรองเท้าสีทูโทน และรองเท้าแตะแต่งด้วยไหมพรม เข้ามาเป็นทางเลือกเก๋ๆ ให้กับลูกค้า ซึ่งตอนนี้กำลังวางแผนจ่อเปิดแฟรนไชส์แน่นอน หากใครอยากสร้างธุรกิจอนาคตไกลลองเข้ามาอัพเดทข้อมูลการลงทุนได้ที่ร้าน 'โช-อิ-เซะ' ชั้น 2 ห้างยูเนี่ยนมอลล์ โทร.081-101-3352 หรือ ขอบคุณ http://www.facebook.com/CHO.I.CE.FANPAGE ขอบคุณ http://www.thairath.co.th/content/eco/332363

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...