เสื้อยืดของคนขี้แพ้

แสดงความคิดเห็น

I snap Eureka 15 เม.ย. : จากจุดเริ่มต้นของ“คนเป็นภูมิแพ้” กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดธุรกิจ "เสื้อยืด"ที่มีจุดเด่นแตกต่างจากยี่ห้ออื่น

ทรงศักดิ์ มงคลทอง- วุ้น เจ้าของร้าน WIND TOWN เล่าว่า จากปกติทำงานกำกับภาพยนตร์มักใส่เสื้อทีเชิ้ตไม่มีลาย กางเกงคาร์โก้ (Cargo) ที่มีสารพัดช่องเพราะกางเกงชนิดนี้มีกระเป๋าไว้ใส่ของมากมาย แทบจะทั่วกางเกงรอง เท้าผ้าใบ ไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับผ้า แต่ว่ามีเสื้อบางตัว เวลาใส่แล้ว เขาจะรู้สึกร้อนและคันตัวมากจนต้องเปลี่ยน ต่อมาถึงรู้ว่า ตนเองแพ้ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) จากนั้นจึงสนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับผ้าและพบว่า ผ้าคอตตอน 100 % เหมาะกับตนเอง

: ปัญหาสร้างแบรนด์

เกิดความคิดที่จะเปิดร้านขายเสื้อทีเชิ้ต ในรูปแบบที่ตัวเองชอบออกมา โดยพัฒนามาจากปัญหาที่แพ้ผ้าโพลีเอสเตอร์ มาเป็นทีเชิ้ต ไม่มีปกคอตตอน 100 % ที่มีส่วนผสมจากเส้นใยธรรมชาติ ถ่ายเทอากาศได้ดีเมื่อเทียบกับชนิดที่ผสมใยสังเคราะห์จึงไม่ระคายเคืองมา เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าภายใต้แบรนด์WIND TOWN ให้เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ว่าเปรียบเสื้อเสมือนสายลมใส่แล้วเย็นสบาย

“ผมคิดว่า เสื้อทีเชิ้ตสไตล์นี้สามารถใส่ได้ทุกที่ ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือหนาว เลยคิดถึงคำว่า สายลม (WIND) สะท้อนคาแรกเตอร์ของเสื้อ”

แนวคิดของร้านจะเน้นเบสิกทีเชิ้ต (Basic T-shirt) ซึ่งเป็นเสื้อยืดที่ผ้าเนื้อนิ่ม ใส่สบาย มีทั้งคอกลม คอวี แขนสั้น แขนยาวแบบต่อแขนออกมาตอบโจทย์คนตัวเล็ก ถึงคนตัวใหญ่สุด จุดขายของ WIND TOWN คือ เสื้อผ้าเบสิกที่มีคุณภาพ ที่มีให้เลือกหลากหลายสี “ไม่มี” ลวดลายใดๆ มาดึงดูดสายตาเหมือนยี่ห้ออื่น ซึ่งดูสวนทางกับความต้องการในตลาด จนหลายคนตั้งคำถามว่า จะขายได้หรือ

ทรงศักดิ์ กลับมองว่า น่าจะเป็น "โอกาส"ในการสร้างความต่างให้กับแบรนด์ แทนที่จะต้องออกแบบลวดลายบ่อยๆ สู้เอาเวลานั้นไปใส่ใจเรื่องคุณภาพของผ้ากับโรงงานที่สั่งทอเป็นพิเศษเพื่อ ให้คนใส่สัมผัสได้ถึง

เนื้อผ้าที่นุ่มนวล และเบา จึงเชื่อว่า ยังมีช่องว่า ตลาดสำหรับคนที่ชอบใส่ทีเชิ้ตที่ไม่มีลวดลายอยู่เหมือนกับเขา หลังจากเปิดร้านมาประมาณ 6 เดือน ผลตอบรับจากกลุ่มเป้าหมาย เกินความคาดหมาย มีลูกค้าเดินเข้ามาซื้อจำนวนมากจนผลิตแทบไม่ทัน

“จำได้ว่าเปิดร้านวันแรก ตื่นเต้นมาก เพราะในตลาดจตุจักรเต็มไปด้วย เสื้อลาย เสื้อสกรีน ไม่รู้ว่าจะมีลูกค้าสักกี่คนที่ชอบเสื้ออย่างที่เราชอบ แต่พอสัปดาห์ที่สองร้านเราเริ่มมีลูกค้าประจำเข้ามาทั้งชาวต่างชาติ และคนไทย สัดส่วน 60 : 40”

: ขายได้ถ้าแตกต่าง

ชายหนุ่ม บอกว่า ส่วนใหญ่เมื่อลูกค้าได้สัมผัสเนื้อผ้ากว่า 50 %จะชอบ กลุ่มลูกค้าช่วงเช้าถึงบ่าย 3 โมงจะเป็นคนต่างประเทศ หลังจากบ่าย 3 โมงจะเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่เข้ามาเที่ยวสวนจตุจักร ถ้า

เป็นลูกค้าฝั่งยุโรป คำแรกที่ถามก็คือ คอตตอน100% หรือเปล่า พอเราบอกว่า ใช่ เขาก็ซื้อเลย แสดงให้เห็นว่า คนฝั่งยุโรป ใส่ใจกับวัสดุที่นำมาผลิตเป็นธรรมชาติมาก

"ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ บางคนซื้อไปสะสม เริ่มจากคอกลมสะสมครบทุกสี แล้วหันไปเล่นคอวีให้ครบทุกสีต่อ สีสันส่วนใหญ่จะเป็นออกตุ่นๆ ผมคิดว่า มันเป็นความคลาสสิกที่ไม่ต้องดีไซน์อะไรมากมาย”

สำหรับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์หลักจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน และเด็กมหาวิทยาลัยที่มีคาแรกเตอร์สไตล์ "มินิมอล" เรียบง่ายดูดี จากประสบการณ์ของพ่อค้ามือใหม่ ก็คือ การบริหารจัดการสต็อก เป็นเรื่องใหญ่สำหรับการทำธุรกิจเสื้อผ้า แต่เขาสามารถผ่านมันได้ เมื่อเริ่มมีลูกค้าประจำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสีขาว รองลงมาคือ สีเขียวชาเขียว สีอิฐ ขั้นต่ำตกเดือนละ 1,000 ตัว และด้วยความเรียบง่ายของทีเชิ้ตมีผลให้เขาสามารถบริการจัดการสต็อกได้ง่าย ขึ้นด้วย และ ข้อดีการทำเสื้อไม่มีลาย คือไม่ต้องเสียเวลาออกแบบลวดลาย หรือเลียนแบบ

ทรงศักดิ์ มองว่า อนาคตของแบรนด์ WIND TOWN จะไปสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็น คนปั่นจักรยาน ชมรมของคนขับขี่สองล้อเครื่องหรือไบค์เกอร์ เนื่องจากเป็นคอตตอน 100 % สวมใส่สบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะตัว

ตอบโจทย์รสนิยมความชอบสไตล์มินิมอล ของคนกลุ่มนี้ที่ใส่ใจเลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง

“ทุกวันนี้ แค่ผมเห็นคนใส่เสื้อแบรนด์ผมก็ดีใจแล้ว เวลาเดินตามหลังเขาจะเห็นจุด 3 จุดที่ป้ายด้านหลัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับช่างเย็บผ้าก็ตาม

ขอบคุณ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130415/500478/เสื้อยืดของคนขี้แพ้.html (ขนาดไฟล์: 167)

ที่มา: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 15 เม.ย.56
วันที่โพสต์: 15/04/2556 เวลา 03:27:26

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

I snap Eureka 15 เม.ย. : จากจุดเริ่มต้นของ“คนเป็นภูมิแพ้” กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดธุรกิจ "เสื้อยืด"ที่มีจุดเด่นแตกต่างจากยี่ห้ออื่น ทรงศักดิ์ มงคลทอง- วุ้น เจ้าของร้าน WIND TOWN เล่าว่า จากปกติทำงานกำกับภาพยนตร์มักใส่เสื้อทีเชิ้ตไม่มีลาย กางเกงคาร์โก้ (Cargo) ที่มีสารพัดช่องเพราะกางเกงชนิดนี้มีกระเป๋าไว้ใส่ของมากมาย แทบจะทั่วกางเกงรอง เท้าผ้าใบ ไม่รู้รายละเอียดอะไรเกี่ยวกับผ้า แต่ว่ามีเสื้อบางตัว เวลาใส่แล้ว เขาจะรู้สึกร้อนและคันตัวมากจนต้องเปลี่ยน ต่อมาถึงรู้ว่า ตนเองแพ้ผ้าโพลีเอสเตอร์ (Polyester) จากนั้นจึงสนใจหาข้อมูลเกี่ยวกับผ้าและพบว่า ผ้าคอตตอน 100 % เหมาะกับตนเอง : ปัญหาสร้างแบรนด์ เกิดความคิดที่จะเปิดร้านขายเสื้อทีเชิ้ต ในรูปแบบที่ตัวเองชอบออกมา โดยพัฒนามาจากปัญหาที่แพ้ผ้าโพลีเอสเตอร์ มาเป็นทีเชิ้ต ไม่มีปกคอตตอน 100 % ที่มีส่วนผสมจากเส้นใยธรรมชาติ ถ่ายเทอากาศได้ดีเมื่อเทียบกับชนิดที่ผสมใยสังเคราะห์จึงไม่ระคายเคืองมา เป็นทางเลือกให้กับลูกค้าภายใต้แบรนด์WIND TOWN ให้เหตุผลที่ใช้ชื่อนี้ว่าเปรียบเสื้อเสมือนสายลมใส่แล้วเย็นสบาย “ผมคิดว่า เสื้อทีเชิ้ตสไตล์นี้สามารถใส่ได้ทุกที่ ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือหนาว เลยคิดถึงคำว่า สายลม (WIND) สะท้อนคาแรกเตอร์ของเสื้อ” แนวคิดของร้านจะเน้นเบสิกทีเชิ้ต (Basic T-shirt) ซึ่งเป็นเสื้อยืดที่ผ้าเนื้อนิ่ม ใส่สบาย มีทั้งคอกลม คอวี แขนสั้น แขนยาวแบบต่อแขนออกมาตอบโจทย์คนตัวเล็ก ถึงคนตัวใหญ่สุด จุดขายของ WIND TOWN คือ เสื้อผ้าเบสิกที่มีคุณภาพ ที่มีให้เลือกหลากหลายสี “ไม่มี” ลวดลายใดๆ มาดึงดูดสายตาเหมือนยี่ห้ออื่น ซึ่งดูสวนทางกับความต้องการในตลาด จนหลายคนตั้งคำถามว่า จะขายได้หรือ ทรงศักดิ์ กลับมองว่า น่าจะเป็น "โอกาส"ในการสร้างความต่างให้กับแบรนด์ แทนที่จะต้องออกแบบลวดลายบ่อยๆ สู้เอาเวลานั้นไปใส่ใจเรื่องคุณภาพของผ้ากับโรงงานที่สั่งทอเป็นพิเศษเพื่อ ให้คนใส่สัมผัสได้ถึง เนื้อผ้าที่นุ่มนวล และเบา จึงเชื่อว่า ยังมีช่องว่า ตลาดสำหรับคนที่ชอบใส่ทีเชิ้ตที่ไม่มีลวดลายอยู่เหมือนกับเขา หลังจากเปิดร้านมาประมาณ 6 เดือน ผลตอบรับจากกลุ่มเป้าหมาย เกินความคาดหมาย มีลูกค้าเดินเข้ามาซื้อจำนวนมากจนผลิตแทบไม่ทัน “จำได้ว่าเปิดร้านวันแรก ตื่นเต้นมาก เพราะในตลาดจตุจักรเต็มไปด้วย เสื้อลาย เสื้อสกรีน ไม่รู้ว่าจะมีลูกค้าสักกี่คนที่ชอบเสื้ออย่างที่เราชอบ แต่พอสัปดาห์ที่สองร้านเราเริ่มมีลูกค้าประจำเข้ามาทั้งชาวต่างชาติ และคนไทย สัดส่วน 60 : 40” : ขายได้ถ้าแตกต่าง ชายหนุ่ม บอกว่า ส่วนใหญ่เมื่อลูกค้าได้สัมผัสเนื้อผ้ากว่า 50 %จะชอบ กลุ่มลูกค้าช่วงเช้าถึงบ่าย 3 โมงจะเป็นคนต่างประเทศ หลังจากบ่าย 3 โมงจะเป็นกลุ่มลูกค้าคนไทย ที่เข้ามาเที่ยวสวนจตุจักร ถ้า เป็นลูกค้าฝั่งยุโรป คำแรกที่ถามก็คือ คอตตอน100% หรือเปล่า พอเราบอกว่า ใช่ เขาก็ซื้อเลย แสดงให้เห็นว่า คนฝั่งยุโรป ใส่ใจกับวัสดุที่นำมาผลิตเป็นธรรมชาติมาก "ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำ บางคนซื้อไปสะสม เริ่มจากคอกลมสะสมครบทุกสี แล้วหันไปเล่นคอวีให้ครบทุกสีต่อ สีสันส่วนใหญ่จะเป็นออกตุ่นๆ ผมคิดว่า มันเป็นความคลาสสิกที่ไม่ต้องดีไซน์อะไรมากมาย” สำหรับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์หลักจะเป็นกลุ่มคนวัยทำงาน และเด็กมหาวิทยาลัยที่มีคาแรกเตอร์สไตล์ "มินิมอล" เรียบง่ายดูดี จากประสบการณ์ของพ่อค้ามือใหม่ ก็คือ การบริหารจัดการสต็อก เป็นเรื่องใหญ่สำหรับการทำธุรกิจเสื้อผ้า แต่เขาสามารถผ่านมันได้ เมื่อเริ่มมีลูกค้าประจำเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นสีขาว รองลงมาคือ สีเขียวชาเขียว สีอิฐ ขั้นต่ำตกเดือนละ 1,000 ตัว และด้วยความเรียบง่ายของทีเชิ้ตมีผลให้เขาสามารถบริการจัดการสต็อกได้ง่าย ขึ้นด้วย และ ข้อดีการทำเสื้อไม่มีลาย คือไม่ต้องเสียเวลาออกแบบลวดลาย หรือเลียนแบบ ทรงศักดิ์ มองว่า อนาคตของแบรนด์ WIND TOWN จะไปสู่กลุ่มลูกค้าที่เป็น คนปั่นจักรยาน ชมรมของคนขับขี่สองล้อเครื่องหรือไบค์เกอร์ เนื่องจากเป็นคอตตอน 100 % สวมใส่สบาย ไม่เหนียวเหนอะหนะตัว ตอบโจทย์รสนิยมความชอบสไตล์มินิมอล ของคนกลุ่มนี้ที่ใส่ใจเลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง “ทุกวันนี้ แค่ผมเห็นคนใส่เสื้อแบรนด์ผมก็ดีใจแล้ว เวลาเดินตามหลังเขาจะเห็นจุด 3 จุดที่ป้ายด้านหลัง แม้ว่าจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากสำหรับช่างเย็บผ้าก็ตาม ขอบคุณ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20130415/500478/เสื้อยืดของคนขี้แพ้.html

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...