'ปุ๋ยไส้เดือนสืบสวน'อาชีพเสริมสารวัตร

แสดงความคิดเห็น

ใช้ยามว่างผลิต 'ปุ๋ยไส้เดือนสืบสวน' อาชีพเสริมสารวัตร ภ.จว.สุโขทัย : โดย ... พิเชษฐ เนตรบุตร

บางครั้งสังคมมักจะมองภาพลักษณ์ของตำรวจในแง่ลบ เพราะมีตำรวจบางคนมักจะหารายได้พิเศษที่นอกลู่นอกทางของวิชาชีพ แต่สำหรับ "พ.ต.ท.สุนาด เนียมเกาะเพ็ชร" สารวัตรกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย (สว.สส.ภ.จว.สุโขทัย) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "สารวัตรไส้เดือน" เขาจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการเล่นกีฬา และเพาะไส้เดือนแอฟริกัน เพื่อผลิต "ปุ๋ยหมักชีวภาพ" ภายใต้แบรนด์ "ปุ๋ยไส้เดือนสืบสวน” เป็นอาชีพเสริมจนสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นอย่างดี

พ.ต.ท.สุนาด บอกว่า ก่อนย้ายไปประจำที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย เคยรับราชตำรวจในตำแหน่งรอง สว.สส ที่ สน.นิมิตใหม่ กรุงเทพฯ พอมีเวลาว่างจะพาครอบครอบครัวเล่นกีฬาเทนนิส เพราะทั้งครอบครัวชอบกีฬาประเภทนี้มากโดยลูกสาวเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และระหว่างที่ไปซ้อมที่สนามเทนนิสมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ ใช้เวลาช่วงที่พักซ้อมเทนนิสกับครอบครัวและลูกสาว เห็นทางมหาวิทยาลัยเกษตรฯเปิดการอบรมการเพาะเลี้ยงไส้เดือนพันธุ์แอฟริกัน ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่และมีประโยชน์ในทางเกษตรโดยเฉพาะการผลิตปุ๋ยชีวภาพ เพื่อทำเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้เริ่มรู้จักกับวงจรชีวิตไส้เดือนมากขึ้น

"ปกติผมคนชอบปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเอง และชอบปลูกผักอินทรีย์ใช้ปุ๋ยชีวภาพอยู่แล้ว จึงหาไส้เดือนแอฟริกันมาเลี้ยงเมื่อปี 2549 พอดีปี 2553 ผมไปรับตำแหน่ง สว.สส.สภ.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ผมก็เอาไส้เดือนติดตัวไปด้วย และช่วงนั้นเห็นว่าเรามีเวลาว่างจากการปฏิบัติหน้าที่ จึงปรึกษาครอบครัวว่าควรหาเวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จึงมองไปที่การเลี้ยงไส้เดือนแอฟริกัน ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่น่าสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับธรรมชาติ ประกอบกับตัวเองชอบปุ๋ยชีวภาพอยู่แล้ว การเลี้ยงไส้เดือนแอฟริกันจุดมุ่งหมายอย่างแรกคือ เพื่อจะแนะนำชาวบ้านและเป็นผู้นำชักจูงให้ชาวบ้านหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพกันให้มากที่สุด เพื่อเราไม่ต้องใช้สารเคมีกัน เพื่อทำให้สุขภาพของผู้ใช้หรือผู้ซื้อสินค้าพืชผักที่เราปลูกไปรับประทานไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงตัวเอง" พ.ต.ท.สุนาด กล่าว

ช่วงของการสู่เชิงการค้านั้น พ.ต.ท.สุนาด บอกว่า แม้จะเคยเลี้ยงมาบ้างแล้ว แต่เลี้ยงในจำนวนมากก็ลองผิดลองถูก เพราะไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกันตัวโตกินไวกินจุ ขยายพันธุ์รวดเร็ว ทำให้ได้ปุ๋ยจำนวนมาก หลังจากเลี้ยงได้ระยะหนึ่งพบว่าการเลี้ยงไส้เดือนแอฟริกันลงทุนครั้งเดียวจะได้ประโยชน์ถึง 3 ต่อ คือ 1.การขยายพันธุ์ไส้เดือนทำให้สามารถเพิ่มปริมาณไส้เดือนได้มาก 2.ได้มูลไส้เดือนหรือปุ๋ยไส้เดือนไปใส่ต้นไม้พืชผักสวนครัว และ 3.ได้เมือกของเสียหรือฉี่ไส้เดือนไปเป็นปุ๋ยน้ำ

"เรานำมูลไส้เดือนซึ่งปะปนอยู่กับมูลวัวในบ่อเลี้ยง ไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ 100% นำไปบรรจุถุงเป็นปุ๋ยขาย กก.ละ 50 บาท ขณะที่ฉี่ของไส้เดือนที่ประกอบด้วยเมือกและของเสียที่ไส้เดือนขับออกมาทางผิวหนัง ก็นำไปผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ 100% มีประโยชน์ต่อพืชทุกชนิด สามารถดูดซึมได้ดี เมื่อนำไปบรรจุขวดสามารถขายได้ในราคาขวดละ 25 บาท ส่วนตัวไส้เดือนสามารถขายได้ในราคา กก.ละ 3,000 บาทตรงนี้สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้อย่างดี" พ.ต.ท.สุนาด กล่าว

ส่วนขั้นตอนการเลี้ยง พ.ต.ท.สุนาด บอกว่า วัฏจักรของไส้เดือนนั้น ลูกไส้เดือนตัวหนึ่งจะโตเต็มวัยประมาณ 30-60 วันเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และทุก 7-10 วันจากนั้นจะออกไข่หรือที่เรียกว่าโคคูน โดยโคคูนของไส้เดือน 1 โคคูนจะมี 2-10 ตัว ออกโคคูนแล้วจะเป็นสีขาวและพัฒนาไปอีกประมาณ 20 วัน สีขาวจะออกเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะออกเป็นตัวเมื่อเป็นตัวจะเหมือนเส้นด้ายสีขาว และพัฒนาต่อไปอีกประมาณ 30-60 วันก็จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เป็นวัฏจักรวงจรชีวิตของไส้เดือนต่อไป โดยไส้เดือนจะมีอายุประมาณ 2-3 ปี และเมื่อตายจะเป็นปุ๋ยต่อไป

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์ 2ก.ย.55
วันที่โพสต์: 1/10/2555 เวลา 01:49:36

ชอบเรื่องนี้ไหม? ชอบ ไม่ชอบ ไม่มีความเห็น

สถิติความสนใจ

ชอบ: 3 คน (100%)

ไม่ชอบ: 0 คน (0%)

ไม่มีความเห็น: 0 คน (0%)

จำนวนคนโหวตทั้งหมด: 3 คน (100%)

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ใช้ยามว่างผลิต 'ปุ๋ยไส้เดือนสืบสวน' อาชีพเสริมสารวัตร ภ.จว.สุโขทัย : โดย ... พิเชษฐ เนตรบุตร บางครั้งสังคมมักจะมองภาพลักษณ์ของตำรวจในแง่ลบ เพราะมีตำรวจบางคนมักจะหารายได้พิเศษที่นอกลู่นอกทางของวิชาชีพ แต่สำหรับ "พ.ต.ท.สุนาด เนียมเกาะเพ็ชร" สารวัตรกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย (สว.สส.ภ.จว.สุโขทัย) หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า "สารวัตรไส้เดือน" เขาจะใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ด้วยการเล่นกีฬา และเพาะไส้เดือนแอฟริกัน เพื่อผลิต "ปุ๋ยหมักชีวภาพ" ภายใต้แบรนด์ "ปุ๋ยไส้เดือนสืบสวน” เป็นอาชีพเสริมจนสามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นอย่างดี พ.ต.ท.สุนาด บอกว่า ก่อนย้ายไปประจำที่กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุโขทัย เคยรับราชตำรวจในตำแหน่งรอง สว.สส ที่ สน.นิมิตใหม่ กรุงเทพฯ พอมีเวลาว่างจะพาครอบครอบครัวเล่นกีฬาเทนนิส เพราะทั้งครอบครัวชอบกีฬาประเภทนี้มากโดยลูกสาวเริ่มเล่นเทนนิสตั้งแต่อายุ 8 ขวบ และระหว่างที่ไปซ้อมที่สนามเทนนิสมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ ใช้เวลาช่วงที่พักซ้อมเทนนิสกับครอบครัวและลูกสาว เห็นทางมหาวิทยาลัยเกษตรฯเปิดการอบรมการเพาะเลี้ยงไส้เดือนพันธุ์แอฟริกัน ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่และมีประโยชน์ในทางเกษตรโดยเฉพาะการผลิตปุ๋ยชีวภาพ เพื่อทำเกษตรอินทรีย์ จึงทำให้เริ่มรู้จักกับวงจรชีวิตไส้เดือนมากขึ้น "ปกติผมคนชอบปลูกพืชผักสวนครัวไว้รับประทานเอง และชอบปลูกผักอินทรีย์ใช้ปุ๋ยชีวภาพอยู่แล้ว จึงหาไส้เดือนแอฟริกันมาเลี้ยงเมื่อปี 2549 พอดีปี 2553 ผมไปรับตำแหน่ง สว.สส.สภ.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย ผมก็เอาไส้เดือนติดตัวไปด้วย และช่วงนั้นเห็นว่าเรามีเวลาว่างจากการปฏิบัติหน้าที่ จึงปรึกษาครอบครัวว่าควรหาเวลาว่างให้เกิดประโยชน์ จึงมองไปที่การเลี้ยงไส้เดือนแอฟริกัน ซึ่งเป็นสัตว์เศรษฐกิจที่น่าสนใจ เพราะเป็นสิ่งที่อยู่ควบคู่กับธรรมชาติ ประกอบกับตัวเองชอบปุ๋ยชีวภาพอยู่แล้ว การเลี้ยงไส้เดือนแอฟริกันจุดมุ่งหมายอย่างแรกคือ เพื่อจะแนะนำชาวบ้านและเป็นผู้นำชักจูงให้ชาวบ้านหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพกันให้มากที่สุด เพื่อเราไม่ต้องใช้สารเคมีกัน เพื่อทำให้สุขภาพของผู้ใช้หรือผู้ซื้อสินค้าพืชผักที่เราปลูกไปรับประทานไม่มีอันตรายต่อสุขภาพ รวมถึงตัวเอง" พ.ต.ท.สุนาด กล่าว ช่วงของการสู่เชิงการค้านั้น พ.ต.ท.สุนาด บอกว่า แม้จะเคยเลี้ยงมาบ้างแล้ว แต่เลี้ยงในจำนวนมากก็ลองผิดลองถูก เพราะไส้เดือนสายพันธุ์แอฟริกันตัวโตกินไวกินจุ ขยายพันธุ์รวดเร็ว ทำให้ได้ปุ๋ยจำนวนมาก หลังจากเลี้ยงได้ระยะหนึ่งพบว่าการเลี้ยงไส้เดือนแอฟริกันลงทุนครั้งเดียวจะได้ประโยชน์ถึง 3 ต่อ คือ 1.การขยายพันธุ์ไส้เดือนทำให้สามารถเพิ่มปริมาณไส้เดือนได้มาก 2.ได้มูลไส้เดือนหรือปุ๋ยไส้เดือนไปใส่ต้นไม้พืชผักสวนครัว และ 3.ได้เมือกของเสียหรือฉี่ไส้เดือนไปเป็นปุ๋ยน้ำ "เรานำมูลไส้เดือนซึ่งปะปนอยู่กับมูลวัวในบ่อเลี้ยง ไปผลิตเป็นปุ๋ยอินทรีย์ 100% นำไปบรรจุถุงเป็นปุ๋ยขาย กก.ละ 50 บาท ขณะที่ฉี่ของไส้เดือนที่ประกอบด้วยเมือกและของเสียที่ไส้เดือนขับออกมาทางผิวหนัง ก็นำไปผลิตเป็นน้ำหมักชีวภาพ 100% มีประโยชน์ต่อพืชทุกชนิด สามารถดูดซึมได้ดี เมื่อนำไปบรรจุขวดสามารถขายได้ในราคาขวดละ 25 บาท ส่วนตัวไส้เดือนสามารถขายได้ในราคา กก.ละ 3,000 บาทตรงนี้สร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้อย่างดี" พ.ต.ท.สุนาด กล่าว ส่วนขั้นตอนการเลี้ยง พ.ต.ท.สุนาด บอกว่า วัฏจักรของไส้เดือนนั้น ลูกไส้เดือนตัวหนึ่งจะโตเต็มวัยประมาณ 30-60 วันเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ และทุก 7-10 วันจากนั้นจะออกไข่หรือที่เรียกว่าโคคูน โดยโคคูนของไส้เดือน 1 โคคูนจะมี 2-10 ตัว ออกโคคูนแล้วจะเป็นสีขาวและพัฒนาไปอีกประมาณ 20 วัน สีขาวจะออกเป็นสีน้ำตาลเข้มและจะออกเป็นตัวเมื่อเป็นตัวจะเหมือนเส้นด้ายสีขาว และพัฒนาต่อไปอีกประมาณ 30-60 วันก็จะเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ เป็นวัฏจักรวงจรชีวิตของไส้เดือนต่อไป โดยไส้เดือนจะมีอายุประมาณ 2-3 ปี

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...