จังหวัดตรังเปิดโรงงานผลิตหมอนยางพารา
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง เป็นประธานในพิธีเปิดโรงงานแปรรูปยางพารา ภายใต้โครงการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ยางพาราของสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด หมู่ที่ 8 ตำบลหนองปรือ อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
นายณัฐพงษ์ บริพันธ์ ประธานกรรมการสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด เปิดเผยถึงความเป็นมาของโครงการดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากสหกรณ์ฯ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 ของจังหวัดตรัง จากโครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราในสถาบันเกษตรกร โดยให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดตรังเป็นหน่วยงานรับผิดชอบดำเนินการ จำนวน 12,350,000 บาท เพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์สำหรับใช้ในโรงงานผลิตหมอนยางพาราและที่นอนยางพารา
ทั้งนี้ สหกรณ์ได้รับซื้อน้ำยางพาราจากสมาชิกมาแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์หมอนยางพารา และสามารถช่วยแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำได้อีกทางหนึ่ง ส่งผลต่อการสร้างความเข้มแข็งให้กับสมาชิกสหกรณ์ และสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด ได้มีโอกาสพัฒนาความก้าวหน้าทางธุรกิจอุตสาหกรรมยาง และเรียนรู้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ยางพาราให้เป็นสินค้า ในรูปแบบต่าง ๆ ตามที่ตลาดต้องการมาอย่างต่อเนื่อง
ทางด้านนายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง กล่าวว่า งบพัฒนาจังหวัดในปีงบประมาณ 2560 ได้ตั้งไว้สำหรับการส่งเสริมธุรกิจของสหกรณ์ส่วนหนึ่ง ซึ่งขณะนี้ได้ผ่านการชี้แจงงบประมาณเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการดำเนินธุรกิจแปรรูปยางพาราของสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด โดยเฉพาะในเรื่องการแปรรูปน้ำยางให้เป็นหมอนและที่นอนยางพารานั้น ถือเป็นหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้นโยบายคืนความสุขที่พอเพียงใน 27 วาระ คือ การพัฒนาอุตสาหกรรมการเกษตร ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันพัฒนาอุตสาหกรรมยางพารา เพื่อให้เกิดมูลค่าเพิ่ม และส่งผลต่อรายได้การกินดีอยู่ดีของเกษตรกรในจังหวัดตรัง
นอกจากนี้ทางจังหวัดตรังยังได้คัดเลือกให้สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด เข้าร่วมเป็น 1 ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การสนับสนุน การดำเนินการของบริษัท ประชารัฐ รักสามัคคีตรัง จำกัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการจดทะเบียน โดยได้ประเดิมทุนดำเนินงานไว้ที่ 3 ล้านบาท และคาดว่าจะมีการเพิ่มทุนให้เป็น 4 ล้านบาทในโอกาสต่อไป
นอกจากนี้ สหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านหนองครก จำกัด ได้ทำข้อตกลงกับทางหอการค้าจังหวัดตรัง ตามนโยบาย 1 หอการค้า 1 สหกรณ์การเกษตรไปเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าสหกรณ์ฯ จะสามารถดำเนินธุรกิจแปรรูปยางพาราเพื่อเพิ่มมูลค่าได้อย่างต่อเนื่องต่อไป และเป็นสหกรณ์ตัวอย่างที่ทำให้ผลผลิตยางพาราสามารถพัฒนาเป็นสินค้าที่เกิดประโยชน์และตรงกับความต้องการของตลาดได้
“ส่วนความคาดหวังต่อจากนี้ไปก็คือ การกำหนดราคารับซื้อยางพาราจากเกษตรกร ณ หน้าโรงงาน ซึ่งจะขอให้สหกรณ์รับซื้อยางพาราจากสมาชิกในราคาที่สูงกว่าราคาท้องตลาด กิโลกรัมละ 2 บาท เพื่อคืนกำไรให้กับชาวสวนยางจังหวัดตรัง และเป็นการดูแล พี่น้องเกษตรกรในเบื้องต้น และหากการดำเนินธุรกิจแปรรูปยางพาราได้ผลดี ก็อาจจะมี การเพิ่มราคารับซื้อน้ำยางพาราให้สูงกว่าราคาตลาดอีกกิโลกรัมละ 4-5 บาทก็เป็นได้”.
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/523141 (ขนาดไฟล์: 167)