โครงการชีววิถี เขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์
โครงการชีววิถี ณ บริเวณเขื่อนสิริกิติ์ เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาดำเนินการจัดทำเป็นศูนย์สาธิตเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ ในการขยายผลองค์ความรู้ให้แก่ชุมชน
โครงการชีววิถี ณ บริเวณเขื่อนสิริกิติ์ เป็นศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้น้อมนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาดำเนินการจัดทำเป็นศูนย์สาธิตเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ต้นแบบ ในการขยายผลองค์ความรู้ให้แก่ชุมชนรอบ ๆ เขื่อน และโรงไฟฟ้า ของ กฟผ. นำไปดำเนินการ
โดยมีเป้าหมายเพื่อร่วมรณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมปฏิบัติในการลด ละ เลิก การใช้สารเคมีในการเพาะปลูก การประมง และการเลี้ยงสัตว์โดยให้หันมาใช้สารชีวภาพทดแทน ที่สามารถลดต้นทุนการผลิต และมีผลผลิตปลอดภัยต่อสุขภาพ และเป็นการรักษาระบบนิเวศของพื้นที่
นายณรงค์ฤทธิ์ พิพัฒน์ หัวหน้ากองบำรุงรักษาโยธา เขื่อนสิริกิติ์ กฟผ. เปิดเผยว่าโครงการชีววิถีเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นอีกโครงการหนึ่งของ กฟผ. ที่ได้น้อมนำแนวพระราชดำริปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาดำเนินการเพื่อส่งเสริมความรู้แก่สังคมการดำเนินชีวิต แบบพึ่งพาตนเอง มีความเอื้ออาทรต่อกันมีความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่ง กฟผ. มีความมุ่งมั่นที่จะทดแทนคุณแผ่นดินให้เป็นรูปธรรม จึงได้ส่งเสริมให้มีการจัดทำแหล่งเรียนรู้ในรูปแบบเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ สำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้แก่สังคมในการเพาะปลูกโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ
“โครงการชีววิถีนั้นได้น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักในการดำเนินการ โดยเน้นในเรื่องของความพอเพียง และมีการ
ส่งเสริมในการทำอาชีพ และส่งเสริมการแปรรูปจากทรัพยากรที่มีใช้อยู่ในครัวเรือนของเกษตรกรมาดำเนินการ เพื่อไม่ให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลือง โดยประชาชนที่อยู่บริเวณรอบ ๆ โรงไฟฟ้าส่วนมากก็จะเป็นเกษตรกร ก็จะได้เข้ามาศึกษา อบรม และ นำเอาองค์ความรู้ที่ได้ไปปรับใช้กับงานเกษตรกรรมของตนเองต่อไป” นายณรงฤทธิ์ หัวหน้ากองบำรุงรักษาโยธา เขื่อนสิริกิติ์ กล่าว
นอกจากนี้โครงการชีววิถี กฟผ. ยังเป็นแหล่งศึกษาดูงานของคณะต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งล่าสุดทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งได้ร่วมกับคณะจิตอาสาคนปลายน้ำ และคนพื้นที่ต้นน้ำ อำเภอแม่ปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมทั้งองค์การบริหารส่วนตำบลท่าแฝก และหน่วยจัดการต้นน้ำห้วยผึ้ง ร่วมกิจกรรมปลูกป่าเฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 70 ปี และเนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559 ณ บ้านงอมมด ตำบลท่าแฝก อำเภอท่าปลา จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา
และคณะก็ได้เดินทางเข้าศึกษาดูงานในโครงการชีววิถีแห่งนี้ด้วย โดยคณะได้ชมการสาธิตการทำน้ำส้มควันไม้ การเลี้ยงไส้เดือน การเลี้ยงกบ การปลูกสบู่ดำ การปลูกข้าวโดยใช้ปุ๋ยชีวภาพ การอนุรักษ์พันธุ์กล้วยในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชตามพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
พร้อมกันนี้คณะยังได้ร่วมกิจกรรมโดยการน้อมนำพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “ปลูกไม้ 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง” เป็นแนวทางสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน ภายใต้แนวทางเสริมสร้างชีววิถีสู่ชุมชนโดยปลูกต้นไม้จำพวกไม้ใช้สอย และไม้ผลกินได้ เช่น ไม้ไผ่ มะม่วงหิมพานต์ มะขามเปรี้ยว เพิ่มเติมในพื้นที่ ซึ่งต้นไม้เหล่านี้เมื่อเติบโตแล้วนอกจากสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่แล้วก็เป็นตัวช่วยสำคัญในการอนุรักษ์ดินและน้ำ แถมสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิต ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ส่งผลให้ชุมชนอยู่ดีมีสุขอีกด้วย
และเป็นเวลากว่า 22 ปีแล้วที่ กฟผ. ได้ดำเนินโครงการปลูกป่าร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ มาตั้งแต่ปี 2537 ภายใต้โครงการปลูกป่าถาวรเฉลิมพระเกียรติจวบจนปัจจุบันได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทยแล้วกว่า 4 แสนไร่หรือมากกว่า 80 ล้านต้น โดยแบ่งเป็นป่าต้นน้ำและป่าชุมชนที่ กฟผ. ร่วมกับชุมชนปลูกและดูแลเพื่อให้ชุมชนได้พึ่งพิงผลิตผลของป่าและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนรวมถึงการรณรงค์สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ฟื้นฟูการปลูกป่าให้ประชาชนได้ตระหนักถึงคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติภายใต้แนวคิด “ปลูกที่ใจคือปลูกที่ยั่งยืน”
ขอบคุณ... http://www.dailynews.co.th/agriculture/519208 (ขนาดไฟล์: 167)