ปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่กับมหาอุปรากร'เตมีย์ใบ้'...เทียบเคียงกับออทิสติก

แสดงความคิดเห็น

ภาพหมู่เหล่านักประพันธ์

จากการแสดงมหาอุปรากรที่คณะโอเปร่าวิสต้าแห่งเมืองฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้มอบหมายให้ สมเถา สุจริตกุล วาทยากร คีตกร นักประพันธ์เพลงคลาสสิก ประพันธ์เรื่อง "อินเดีย" เนื่องจากสมาคมอินเดีย-อเมริกันเป็นผู้ให้ทุนการผลิต เตมียชาดกเป็นเรื่องที่นักประพันธ์เพลงคลาสิคชื่อดังใฝ่ฝันจะประพันธ์ ดังนั้นเมื่อมีการเสนอโครงการดังกล่าวขึ้น จึงมีการนำเนื้อหาที่มีความสมบูรณ์พร้อมจากเตมียชาดก ซึ่งแปลจากภาษาพม่า ในวารสารสมาคม Royal Asiatic พ.ศ. 2436 มาเป็นโครงเรื่องทั้งหมด นั่นคือจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดวรรณกรรมสู่การแสดงมหาอุปรากรบนเวทีอันยิ่ง ใหญ่เรื่อง "The Silent Prince" หรือ "เตมีย์ใบ้" เปิดการแสดงรอบปฐมทัศน์ที่ฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2552 การแสดงครั้งนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นำมาสู่การแสดงรอบปฐมทัศน์ในประเทศไทยในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็ด พระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ หอประชุมศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยที่มีผู้เข้าชมการแสดงเต็มทุกที่นั่ง

ก่อนนำมาสู่การกลับมาของมหาอุปรากรสุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง เนื่องในโอกาสมหามงคลฉลองปีพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพ โดยโอเปร่าสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และเครือเบทาโกร ได้ร่วมกันนำเสนอเรื่องราวของ "เตมียชาดก" จากทศชาติชาดกซึ่งกล่าวถึง 10 ชาติสุดท้ายของโพธิสัตว์ ก่อนเสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้า โดย สมเถา กล่าวว่า เทคนิคส่วนใหญ่ในการแสดงครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน ความเงียบของพระเตย์มีคือจุดสำคัญของเรื่อง จึงเน้นข้อนี้มากกว่าที่จะให้ความสำคัญในด้านความพิการอื่นๆ ของพระเตย์มี เนื่องจากเนื้อเรื่องดั่งเดิม พระเตย์มีจะต้องแกล้งเป็นใบ้ เป็นง่อย และหูหนวก แต่ในการแสดงครั้งนี้จะเน้นที่ความเงียบหรือเป็นใบ้ โดยที่โครงเรื่องดั่งเดิมยังอยู่ครบทั้งหมด

"การนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ให้คนยุคปัจจุบันฟังนั้น ผมพยายามตอบโจทย์ทั้งในแง่ของตำนาน และสัจธรรมเชิงจิตวิทยาที่แฝงอยู่ในเรื่อง ความเจ็บช้ำของจิตใจ ที่ทำให้ เตย์มีกุมาร ซึ่งอยู่ในฐานะพระราชโอรสเลือกที่จะ "เป็นใบ้" คือหัวใจสำคัญของเรื่อง ตามวัฒนธรรมของเมืองไทย ผมอยากให้เข้าใจว่า สิง่ที่เป็นนิยายในตำนานไม่ได้อยู่ไกลตัว จนเราสัมผัสไม่ได้ในชีวิตประจำวัน" สมเถากล่าว พร้อมเสริมต่อว่า เรื่องนี้สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่าพระเตย์ในเรื่องจะมีศักดิ์เป็นโอรสของกษัตริย์ แต่หากนำมาบอกเล่าในเชิงเปรียบเทียบกับพ่อแม่ที่มีลูก และมีความคาดหวังในตัวลูก เมื่อลูกไม่ได้เป็นในสิ่งที่คาดหวัง จะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร เพราะไม่ใช่ลูกไม่สำคัญ แต่เขาอาจจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในตัวเอง นอกจากนี้ยังมีนักร้องเสียงพิเศษ โดยเป็นนักร้องเสียง "โซปราโน" ชายซึ่งหายากยิ่งมารับบทนี้ พร้อมย้ำว่า การดูโอเปร่าสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องปีนบันไดดูอีกต่อไป

ด้าน ทฤษฎี ณ พัทลุง วาทยากร ชื่อดังผู้กำกับดนตรี ในการแสดงครั้งนี้กล่าวว่า มหาอุปรากรครั้งนี้ มีการเลือกสรรนักร้องโอเปร่าชั้น 1 ของโลกมา ไม่ใช่ไปจ้างนักร้องที่ไม่ได้มีชื่อเสียง แต่นำมาโฆษณาว่ามีชื่อเสียงมาจัดแสดง พร้อมทั้งมีการรวมนักร้องโอเปร่า ที่มีชื่อเสียง และมีความสามารถในเมืองไทยมาร่วมแสดงในครั้งนี้ด้วย

"สิ่งที่จะได้จากการรับชมโอเปร่าเรื่องนี้ ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาและเรี่องราวเปรียบเทียบอาการของเด็กออทิซึ่มในปัจจุบัน ที่อาจารย์สมเถานำทั้งสองเรื่องมาประพันธ์เป็นเพลงโอเปร่าได้เหมาะสมและลง ตัว ใครที่เข้าไปชมจะเข้าใจ และได้รับอะไรดีๆ อย่างแน่นอน"ทฤษฏีกล่าว มหาอุปรากรเรื่อง "The Silent Prince" หรือ "เตมีย์ใบ้" จะเปิดการแสดงระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130521/159009/ปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่กับมหาอุปรากรเตมีย์ใบ้.html#.UZwk9EqkPZ

ที่มา: คมชัดลึกออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 21 พ.ค.56
วันที่โพสต์: 22/05/2556 เวลา 03:28:43 ดูภาพสไลด์โชว์ ปรากฏการณ์ยิ่งใหญ่กับมหาอุปรากร'เตมีย์ใบ้'...เทียบเคียงกับออทิสติก

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ภาพหมู่เหล่านักประพันธ์ จากการแสดงมหาอุปรากรที่คณะโอเปร่าวิสต้าแห่งเมืองฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ได้มอบหมายให้ สมเถา สุจริตกุล วาทยากร คีตกร นักประพันธ์เพลงคลาสสิก ประพันธ์เรื่อง "อินเดีย" เนื่องจากสมาคมอินเดีย-อเมริกันเป็นผู้ให้ทุนการผลิต เตมียชาดกเป็นเรื่องที่นักประพันธ์เพลงคลาสิคชื่อดังใฝ่ฝันจะประพันธ์ ดังนั้นเมื่อมีการเสนอโครงการดังกล่าวขึ้น จึงมีการนำเนื้อหาที่มีความสมบูรณ์พร้อมจากเตมียชาดก ซึ่งแปลจากภาษาพม่า ในวารสารสมาคม Royal Asiatic พ.ศ. 2436 มาเป็นโครงเรื่องทั้งหมด นั่นคือจุดเริ่มต้นของการถ่ายทอดวรรณกรรมสู่การแสดงมหาอุปรากรบนเวทีอันยิ่ง ใหญ่เรื่อง "The Silent Prince" หรือ "เตมีย์ใบ้" เปิดการแสดงรอบปฐมทัศน์ที่ฮุสตัน มลรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2552 การแสดงครั้งนั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นำมาสู่การแสดงรอบปฐมทัศน์ในประเทศไทยในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็ด พระเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2555 ณ หอประชุมศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทยที่มีผู้เข้าชมการแสดงเต็มทุกที่นั่ง ก่อนนำมาสู่การกลับมาของมหาอุปรากรสุดยิ่งใหญ่อีกครั้ง เนื่องในโอกาสมหามงคลฉลองปีพุทธชยันตี 2,600 ปี แห่งการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับมูลนิธิมหาอุปรากรกรุงเทพ โดยโอเปร่าสยาม อินเตอร์เนชั่นแนล บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และเครือเบทาโกร ได้ร่วมกันนำเสนอเรื่องราวของ "เตมียชาดก" จากทศชาติชาดกซึ่งกล่าวถึง 10 ชาติสุดท้ายของโพธิสัตว์ ก่อนเสวยพระชาติเป็นพระพุทธเจ้า โดย สมเถา กล่าวว่า เทคนิคส่วนใหญ่ในการแสดงครั้งนี้ เป็นเรื่องที่ไม่ซับซ้อน ความเงียบของพระเตย์มีคือจุดสำคัญของเรื่อง จึงเน้นข้อนี้มากกว่าที่จะให้ความสำคัญในด้านความพิการอื่นๆ ของพระเตย์มี เนื่องจากเนื้อเรื่องดั่งเดิม พระเตย์มีจะต้องแกล้งเป็นใบ้ เป็นง่อย และหูหนวก แต่ในการแสดงครั้งนี้จะเน้นที่ความเงียบหรือเป็นใบ้ โดยที่โครงเรื่องดั่งเดิมยังอยู่ครบทั้งหมด "การนำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ให้คนยุคปัจจุบันฟังนั้น ผมพยายามตอบโจทย์ทั้งในแง่ของตำนาน และสัจธรรมเชิงจิตวิทยาที่แฝงอยู่ในเรื่อง ความเจ็บช้ำของจิตใจ ที่ทำให้ เตย์มีกุมาร ซึ่งอยู่ในฐานะพระราชโอรสเลือกที่จะ "เป็นใบ้" คือหัวใจสำคัญของเรื่อง ตามวัฒนธรรมของเมืองไทย ผมอยากให้เข้าใจว่า สิง่ที่เป็นนิยายในตำนานไม่ได้อยู่ไกลตัว จนเราสัมผัสไม่ได้ในชีวิตประจำวัน" สมเถากล่าว พร้อมเสริมต่อว่า เรื่องนี้สามารถนำมาปรับใช้ได้ในชีวิตประจำวัน ถึงแม้ว่าพระเตย์ในเรื่องจะมีศักดิ์เป็นโอรสของกษัตริย์ แต่หากนำมาบอกเล่าในเชิงเปรียบเทียบกับพ่อแม่ที่มีลูก และมีความคาดหวังในตัวลูก เมื่อลูกไม่ได้เป็นในสิ่งที่คาดหวัง จะมีวิธีการแก้ปัญหาอย่างไร เพราะไม่ใช่ลูกไม่สำคัญ แต่เขาอาจจะมีอะไรที่ยิ่งใหญ่ซ่อนอยู่ในตัวเอง นอกจากนี้ยังมีนักร้องเสียงพิเศษ โดยเป็นนักร้องเสียง "โซปราโน" ชายซึ่งหายากยิ่งมารับบทนี้ พร้อมย้ำว่า การดูโอเปร่าสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องปีนบันไดดูอีกต่อไป ด้าน ทฤษฎี ณ พัทลุง วาทยากร ชื่อดังผู้กำกับดนตรี ในการแสดงครั้งนี้กล่าวว่า มหาอุปรากรครั้งนี้ มีการเลือกสรรนักร้องโอเปร่าชั้น 1 ของโลกมา ไม่ใช่ไปจ้างนักร้องที่ไม่ได้มีชื่อเสียง แต่นำมาโฆษณาว่ามีชื่อเสียงมาจัดแสดง พร้อมทั้งมีการรวมนักร้องโอเปร่า ที่มีชื่อเสียง และมีความสามารถในเมืองไทยมาร่วมแสดงในครั้งนี้ด้วย "สิ่งที่จะได้จากการรับชมโอเปร่าเรื่องนี้ ที่เกี่ยวกับพุทธศาสนาและเรี่องราวเปรียบเทียบอาการของเด็กออทิซึ่มในปัจจุบัน ที่อาจารย์สมเถานำทั้งสองเรื่องมาประพันธ์เป็นเพลงโอเปร่าได้เหมาะสมและลง ตัว ใครที่เข้าไปชมจะเข้าใจ และได้รับอะไรดีๆ อย่างแน่นอน"ทฤษฏีกล่าว มหาอุปรากรเรื่อง "The Silent Prince" หรือ "เตมีย์ใบ้" จะเปิดการแสดงระหว่างวันที่ 8-9 มิถุนายน ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย จำหน่ายบัตรที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130521/159009/ปรากฎการณ์ยิ่งใหญ่กับมหาอุปรากรเตมีย์ใบ้.html#.UZwk9EqkPZ

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...