กตัญญูรู้คุณ รู้จักตอบแทนบุญคุณ เป็นคุณธรรมของคนดี
การรู้จักตอบแทนบุญคุณ ถือว่าเป็นคุณธรรมที่มีความสำคัญที่มีอยู่ประจำโลก คนดีทั้งหลายได้พากันประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด จึงทำให้คนในสังคมอยู่กันด้วยความสงบสุขร่มเย็น มีความรักความสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ถือว่าเป็นคุณธรรมที่เป็นเครื่องประสานจิตคล้องใจของคนในสังคมให้มีสายใยสายสัมพันธ์ในระหว่างกันและกัน และที่สำคัญการรู้จักตอบแทนบุญคุณนั้นเป็นการประกาศศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ บุคคลผู้รู้จักตอบแทนคุณนั้นถือว่าเป็นคนดี เป็นคนมีศักดิ์ศรี เป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญในสังคมทั่วไป
บุคคลผู้รู้สำนึกในบุญคุณและตอบแทนคุณนี้ ท่านเรียกว่าเป็นคนมีความกตัญญูกตเวที จัดเป็นบุคคลผู้หาได้ยากในโลกคู่กับบุพการี บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ที่ดีของคนในสังคมตั้งแต่สังคมเล็กๆ ระดับครอบครัวขยายวงกว้างออกไปตามลำดับ กล่าวคือ ในแต่ละสังคมนั้นบุคคลย่อมมีหลายสถานะด้วยกัน เช่น ในฐานะเป็นบุตรธิดา เป็นศิษย์ เป็นครู เป็นพลเมืองของประเทศชาติ เป็นสมาชิกของสังคม หรือเป็นพุทธบริษัทของพระพุทธศาสนา เป็นต้น
ดังนั้น บุคคลในสังคมจึงจำต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามฐานะที่ตนเป็น เมื่อทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนเรียบร้อยก็จะทำให้สังคมมีความสงบสุขร่มเย็น กล่าวคือ บุตรธิดารู้จักตอบแทนคุณบิดามารดา ด้วยการประพฤติตนอยู่ในโอวาทช่วยทำกิจการงานตามกำลังและความสามารถ ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ให้การช่วยเหลือท่าน เป็นหูเป็นตาแทนท่าน ทำตัวเป็นคนดี รักเกียรติรักวงศ์ตระกูล เป็นต้น
ศิษย์ผู้ที่ได้รับการประสิทธิ์ประสาทความรู้วิทยาการต่างๆ จากครูแล้ว ต้องมีความสำนึกรู้ในบุญคุณของครู คอยหาโอกาสตอบแทนคุณ เช่น ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนโดยเคารพ เอื้อเฟื้อต่อครูตามโอกาส ประชาชนพลเมืองของประเทศ ที่ได้รับการปกครองโดยชอบธรรมจากองค์พระมหากษัตริย์และรัฐบาลแล้ว ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณกันทั่วหน้า และประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดี ปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมายบ้านเมือง เมื่อบ้านเมืองมีภัยก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ
พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าต้องมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า พยายามประพฤติตนเป็นพุทธบริษัทที่ดี มั่นอยู่ในหลักพระธรรมด้วยความไม่ประมาท ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง และช่วยกันคุ้มครองพระศาสนาให้ตั้งมั่นตลอดไป สรุปว่า เมื่อบุตรธิดารู้จักตอบแทนคุณ มารดาบิดาก็ปลื้มใจ ศิษย์รู้จักตอบแทนคุณ ครูก็ปีติ ประชาชนพลเมืองรู้จักตอบแทนคุณ บ้านเมืองก็เจริญ และศาสนิกชนรู้จักตอบแทนคุณ ศาสนาก็เจริญรุ่งเรือง
บุคคลผู้รู้จักตอบแทนคุณนี้ไม่ว่าอยู่ในสภาพไหนก็ดีทั้งนั้น และเมื่อรู้จักตอบแทนคุณต่อตนเองอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะสามารถทำให้บุคคลถึงความสุข 3 ขั้น อันเป็นประโยชน์โลกนี้และโลกหน้า พร้อมยังเป็นปฏิปทาให้ถึงประโยชน์อันสูงสุดคือพระนิพพานอีกด้วย เพราะฉะนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงยกย่องกตัญญูกตเวทิตา คือการรู้จักตอบแทนคุณนี้ว่าเป็นมงคลสูงสุด
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
ขอบคุณ... https://goo.gl/QT0TX1 (ขนาดไฟล์: 0 )
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
กตัญญูรู้คุณ รู้จักตอบแทนบุญคุณ เป็นคุณธรรมของคนดี การรู้จักตอบแทนบุญคุณ ถือว่าเป็นคุณธรรมที่มีความสำคัญที่มีอยู่ประจำโลก คนดีทั้งหลายได้พากันประพฤติปฏิบัติเป็นแบบอย่างมาโดยตลอด จึงทำให้คนในสังคมอยู่กันด้วยความสงบสุขร่มเย็น มีความรักความสามัคคี ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ถือว่าเป็นคุณธรรมที่เป็นเครื่องประสานจิตคล้องใจของคนในสังคมให้มีสายใยสายสัมพันธ์ในระหว่างกันและกัน และที่สำคัญการรู้จักตอบแทนบุญคุณนั้นเป็นการประกาศศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ บุคคลผู้รู้จักตอบแทนคุณนั้นถือว่าเป็นคนดี เป็นคนมีศักดิ์ศรี เป็นที่น่ายกย่องสรรเสริญในสังคมทั่วไป บุคคลผู้รู้สำนึกในบุญคุณและตอบแทนคุณนี้ ท่านเรียกว่าเป็นคนมีความกตัญญูกตเวที จัดเป็นบุคคลผู้หาได้ยากในโลกคู่กับบุพการี บุคคลผู้ทำอุปการะก่อน ซึ่งถือเป็นความสัมพันธ์ที่ดีของคนในสังคมตั้งแต่สังคมเล็กๆ ระดับครอบครัวขยายวงกว้างออกไปตามลำดับ กล่าวคือ ในแต่ละสังคมนั้นบุคคลย่อมมีหลายสถานะด้วยกัน เช่น ในฐานะเป็นบุตรธิดา เป็นศิษย์ เป็นครู เป็นพลเมืองของประเทศชาติ เป็นสมาชิกของสังคม หรือเป็นพุทธบริษัทของพระพุทธศาสนา เป็นต้น ดังนั้น บุคคลในสังคมจึงจำต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามฐานะที่ตนเป็น เมื่อทุกคนต่างปฏิบัติหน้าที่ของตนเรียบร้อยก็จะทำให้สังคมมีความสงบสุขร่มเย็น กล่าวคือ บุตรธิดารู้จักตอบแทนคุณบิดามารดา ด้วยการประพฤติตนอยู่ในโอวาทช่วยทำกิจการงานตามกำลังและความสามารถ ทั้งภายในบ้านและนอกบ้าน ให้การช่วยเหลือท่าน เป็นหูเป็นตาแทนท่าน ทำตัวเป็นคนดี รักเกียรติรักวงศ์ตระกูล เป็นต้น ศิษย์ผู้ที่ได้รับการประสิทธิ์ประสาทความรู้วิทยาการต่างๆ จากครูแล้ว ต้องมีความสำนึกรู้ในบุญคุณของครู คอยหาโอกาสตอบแทนคุณ เช่น ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนโดยเคารพ เอื้อเฟื้อต่อครูตามโอกาส ประชาชนพลเมืองของประเทศ ที่ได้รับการปกครองโดยชอบธรรมจากองค์พระมหากษัตริย์และรัฐบาลแล้ว ต้องมีสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณกันทั่วหน้า และประพฤติตนเป็นพลเมืองที่ดี ปฏิบัติตามบทบัญญัติกฎหมายบ้านเมือง เมื่อบ้านเมืองมีภัยก็พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ พุทธบริษัททุกหมู่เหล่าต้องมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระพุทธเจ้า พยายามประพฤติตนเป็นพุทธบริษัทที่ดี มั่นอยู่ในหลักพระธรรมด้วยความไม่ประมาท ช่วยกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง และช่วยกันคุ้มครองพระศาสนาให้ตั้งมั่นตลอดไป สรุปว่า เมื่อบุตรธิดารู้จักตอบแทนคุณ มารดาบิดาก็ปลื้มใจ ศิษย์รู้จักตอบแทนคุณ ครูก็ปีติ ประชาชนพลเมืองรู้จักตอบแทนคุณ บ้านเมืองก็เจริญ และศาสนิกชนรู้จักตอบแทนคุณ ศาสนาก็เจริญรุ่งเรือง บุคคลผู้รู้จักตอบแทนคุณนี้ไม่ว่าอยู่ในสภาพไหนก็ดีทั้งนั้น และเมื่อรู้จักตอบแทนคุณต่อตนเองอย่างถูกต้องแล้ว ก็จะสามารถทำให้บุคคลถึงความสุข 3 ขั้น อันเป็นประโยชน์โลกนี้และโลกหน้า พร้อมยังเป็นปฏิปทาให้ถึงประโยชน์อันสูงสุดคือพระนิพพานอีกด้วย เพราะฉะนั้นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงยกย่องกตัญญูกตเวทิตา คือการรู้จักตอบแทนคุณนี้ว่าเป็นมงคลสูงสุด คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ.9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร ขอบคุณ... https://goo.gl/QT0TX1
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)