การทะเลาะวิวาท เป็นต้นเหตุ ก่อเกิดภัยพิบัติ
คําว่า วิวาท แปลว่า การกล่าวต่างกัน คือพูดไม่ถูกใจกัน พูดไม่ตรงกัน สาเหตุเกิดจากคนที่มีอัธยาศัยหรือมีจิตใจไม่เหมือนกัน ทำให้พูดไม่เข้าใจกัน เว้นแต่ผู้ที่ได้รับการศึกษาอบรม จนรู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว เคารพในเหตุผล มีศีลธรรมประจำใจ จึงจะพูดกันเข้าใจและถูกใจกันได้
ความวิวาท เมื่อยังไม่ลุกลามใหญ่โต อาจระงับได้ด้วยการปรับความเข้าใจกันให้ถูกต้อง เมื่อไม่สามารถจะปรับความเข้าใจกันได้ อาจลุกลามใหญ่โต เป็นเหตุให้เกิดความแตกร้าวกันยิ่งขึ้นไปไม่จบสิ้น
ความวิวาทเกิดขึ้นได้เพราะมีมูลเหตุ ไม่ใช่เกิดขึ้นเอง ถ้าทุกคนมีความประสงค์ในสิ่งเดียวกัน ต่างแก่งแย่งกันเพื่อให้ได้ในสิ่งเดียวนั้น เพราะของสิ่งเดียวไม่อาจแจกจ่ายให้หลายคนได้ เมื่อคนหนึ่งได้ อีกคนหนึ่งย่อมไม่ได้ เมื่อไม่ได้ก็เป็นเหตุให้เกิดความขัดใจในเบื้องต้น ซึ่งความขัดใจนี่แหละเป็นเหตุให้เกิดความทะเลาะวิวาท ประหัตประหาร ล้างผลาญ เบียดเบียนกัน
ความวิวาทที่เกิดขึ้นภายในครอบครัว ก็สามารถทำให้ครอบครัวนั้นไม่เป็นปกติสุข เพราะเมื่อเกิดความทะเลาะวิวาทกันขึ้นแล้ว ความเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในครอบครัวก็ไม่มี มักจะมีเรื่องให้เกิดความทะเลาะกันอยู่เนืองๆ เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนถึงแตกร้าวกันในที่สุด
ความทะเลาะวิวาทที่เกิดภายในครอบครัวยังทำให้ประสบภัยถึงเพียงนี้ ถ้ายิ่งแผ่ขยายกว้างออกไปจนถึงหมู่คณะ สมาคม และประเทศชาติแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ภัยพิบัตินั้นๆ จะมีมากสักเพียงใด
ในที่สุดก็ต้องถึงความพินาศวอดวายไปตามๆ กัน เพราะความวิวาท เป็นเหตุเริ่มต้นที่จะแยกส่วนต่างๆ ออกจากกัน แยกหมู่คณะ แยกสมาคม และประเทศชาติให้เป็นหมู่เป็นเหล่า เป็นการตัดทอนกำลังที่รวมกันเป็นปึกแผ่นให้เสียกำลังโดยลำดับ
เมื่อพิจารณาเห็นภัยที่เกิดจากการวิวาทกันแล้ว หวังจะทำให้ตนเจริญ ให้สามัคคีกลมเกลียว เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน หวังจะมีเพื่อนมาก ก็จะต้องปรับความเห็นของตนเสียใหม่ ที่เคยมีความเห็นเข้ากับตัว ก็ต้องทำความเห็นนั้น ให้เป็นความเห็นที่ร่วมกับหมู่คณะได้ โดยยึดประโยชน์และศีลธรรมเป็นหลัก
ความวิวาทจะสงบได้ ต้องพิจารณาให้เห็นโทษของความวิวาท และอานิสงส์ของความไม่วิวาท ความวิวาทก็จะสงบลง และกลับเป็นความสมัครสมานสามัคคีปรองดอง มีจิตใจชื่นบาน เป็นมิตรเป็นสหายกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
ความสามัคคี คือความพร้อมเพรียง เป็นน้ำหนึ่งใจเดียว ไม่วิวาทบาดหมาง หรือไม่แก่งแย่งกัน พร้อมเพรียงกันด้วยกำลังกาย กำลังใจ เมื่อมีความพร้อมเพรียงกันแล้ว ก็จะเป็นเหตุให้เกิดผลสมบูรณ์ดีเต็มที่ ไม่มีความบกพร่อง
ความสามัคคี มีอยู่ในหมู่สมาคมใด หมู่สมาคมนั้นย่อมดำเนินไปสู่ความเจริญ ไม่มีความเสื่อมทราม ดังนั้น ควรพิจารณาเห็นความวิวาทโดยความเป็นภัย และเห็นความไม่วิวาทเป็นความปลอดภัยแล้ว พึงสามัคคี ประนีประนอมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เพื่อความสุขสวัสดีไม่มีภัยแก่ตนและประชาชน ตลอดถึงประเทศชาติเป็นที่สุด
คอลัมน์ ธรรมะวันหยุด
บทความโดย พระเทพคุณาภรณ์ (โสภณ โสภณจิตฺโต ป.ธ. 9) เจ้าอาวาสวัดเทวราชกุญชรวรวิหาร
ขอบคุณ... https://goo.gl/LXrxyy (ขนาดไฟล์: 0 )