โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต

แสดงความคิดเห็น

โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต

โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี

อาจารย์นักวิทยาศาสตร์ไทยคนหนึ่ง อยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันหนึ่งขณะที่กำลังทดลองทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อยู่ในห้องทดลอง เกิดความผิดพลาด ระเบิดตูมขึ้นมา เพื่อนนำส่งโรงพยาบาล หมอใช้ผ้าปิดตา หมอบอกว่าต้องปิดตาเขาเจ็ดวันเจ็ดคืน ตลอดเวลานั้นเขานอนร้องไห้ เข้าใจไปแล้วว่า คงตาบอดเสียแล้ว ตาบอดตั้งแต่ยังหนุ่ม แฟนซึ่งคบหากันมา มาเยี่ยมแค่สามวัน พอหมอกระซิบว่าแฟนคุณมีแนวโน้มที่จะตาบอดนะ เปลี่ยนโทรศัพท์หนีเลย ไม่อยากมีแฟนเป็นคนตาบอด เขาก็เริ่มทุกข์มากขึ้นๆ

พอครบเจ็ดวัน หมอเดินเข้ามาบอกว่า คุณเอาผ้าปิดตาออกซิ พอเขาเอาผ้าปิดตาออก นาทีนั้น เขาได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างตามปกติอีกครั้งหนึ่ง เขามีความสุขจนน้ำตาไหลพราก พูดอะไรไม่ออก มีความสุขเหลือเกินที่ได้กลับมาเห็นอีกครั้งหนึ่ง เขาเดินไปที่หน้าต่าง และยืนมองยอดไม้เขียวขจีตรงหน้าต่าง แล้วก็อุทานออกมาว่า “ช่างเป็นยอดไม้ที่สวยงามที่สุดในโลก”

นิสิตคนหนึ่งได้ยินก็เลยถามว่า อาจารย์ครับ ยอดไม้มันก็อยู่ตรงนี้ทุกวัน ทำไมอาจารย์จึงบอกว่าเป็นยอดไม้ที่สวยงามที่สุดในโลก อาจารย์ท่านนั้นบอกว่า เธอจะรู้ว่ายอดไม้ตรงนี้มันสวยงามที่สุดในโลกก็ต่อเมื่อเธอเคยตาบอดและกลับ มามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง เธอจะรู้ว่าการได้มองเห็นตามปกติมันมีความสุขขนาดไหน

แท้ที่จริงอวัยวะ ๓๒ ประการของเราก็เป็นที่มาของความสุข เป็นดั่งธารน้ำพุแห่งความสุข ถ้าเราดูแลอวัยวะ ๓๒ ประการนี้ให้ดี ความสุขก็เกิดขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามอวัยวะเหล่านี้ผิดปกติไป เช่นหูเคยฟังแล้วได้ยินตามปกติ ถ้าไม่ได้ยินขึ้นมาก็ทุกข์ ตาเคยเห็นตามปกติ ถ้ามองไม่เห็นขึ้นมาก็ทุกข์ ปากเคยพูดได้ตามปกติ ถ้าพูดไม่ได้ก็ทุกข์ เท้าเคยเดินได้ตามปกติ ถ้าเดินไม่ได้ขึ้นมาก็ทุกข์ ตีนกับตาเคยอยู่กันมาแสนผาสุก ถ้าแตกสามัคคีก็ทุกข์

กระเป๋าแห่งความสุขอยู่ที่ไหน อยู่ตรงใจที่รู้จักพอและอยู่ตรงร่างกายที่ปกติสุขของเรา ในเนื้อในตัวของเรานี่แหละมีเหตุปัจจัยแห่งความสุขอยู่ครบถ้วน โปรดอย่าลืม ถ้าเราอยากมีความสุข อย่ามัวแต่มองออกไปนอกตัว ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเงินมากมายมหาศาลจึงจะค้นพบความสุข แท้ที่จริงตาน้ำแห่งความสุขอยู่ในใจของเรา อยู่ในร่างกายที่กว้างศอก ยาววา และหนาคืบของเรา ถ้าหาให้เป็นเราก็จะมีความสุข

หากใครไม่เชื่อ ลองป่วยหนักดูสักเจ็ดวัน เจ็ดอยู่ เจ็ดไป ต้องเติมเครื่องช่วยหายใจ แล้วเราจะรู้ว่า ร่างกายปกตินั้นมันมีความสุข มันก่อให้เกิดความสุขแค่ไหน คนที่ป่วยหนัก เขาจะรักสุขภาพของเขา เพราะเขารู้แล้วว่า สุขภาพที่ปกตินั้นแหละคือที่มาของความสุข พระพุทธองค์จึงตรัสว่า "อโรคยา ปรมาลาภา" แปลว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ หรือการมีสุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต นี่คือ วิชาแห่งความสุขวิชาที่หนึ่ง

(ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า)

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130806/165172/โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต.html (ขนาดไฟล์: 167)

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต : คันฉ่องและโคมฉาย โดยว.วชิรเมธี อาจารย์นักวิทยาศาสตร์ไทยคนหนึ่ง อยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันหนึ่งขณะที่กำลังทดลองทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์อยู่ในห้องทดลอง เกิดความผิดพลาด ระเบิดตูมขึ้นมา เพื่อนนำส่งโรงพยาบาล หมอใช้ผ้าปิดตา หมอบอกว่าต้องปิดตาเขาเจ็ดวันเจ็ดคืน ตลอดเวลานั้นเขานอนร้องไห้ เข้าใจไปแล้วว่า คงตาบอดเสียแล้ว ตาบอดตั้งแต่ยังหนุ่ม แฟนซึ่งคบหากันมา มาเยี่ยมแค่สามวัน พอหมอกระซิบว่าแฟนคุณมีแนวโน้มที่จะตาบอดนะ เปลี่ยนโทรศัพท์หนีเลย ไม่อยากมีแฟนเป็นคนตาบอด เขาก็เริ่มทุกข์มากขึ้นๆ พอครบเจ็ดวัน หมอเดินเข้ามาบอกว่า คุณเอาผ้าปิดตาออกซิ พอเขาเอาผ้าปิดตาออก นาทีนั้น เขาได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างตามปกติอีกครั้งหนึ่ง เขามีความสุขจนน้ำตาไหลพราก พูดอะไรไม่ออก มีความสุขเหลือเกินที่ได้กลับมาเห็นอีกครั้งหนึ่ง เขาเดินไปที่หน้าต่าง และยืนมองยอดไม้เขียวขจีตรงหน้าต่าง แล้วก็อุทานออกมาว่า “ช่างเป็นยอดไม้ที่สวยงามที่สุดในโลก” นิสิตคนหนึ่งได้ยินก็เลยถามว่า อาจารย์ครับ ยอดไม้มันก็อยู่ตรงนี้ทุกวัน ทำไมอาจารย์จึงบอกว่าเป็นยอดไม้ที่สวยงามที่สุดในโลก อาจารย์ท่านนั้นบอกว่า เธอจะรู้ว่ายอดไม้ตรงนี้มันสวยงามที่สุดในโลกก็ต่อเมื่อเธอเคยตาบอดและกลับ มามองเห็นอีกครั้งหนึ่ง เธอจะรู้ว่าการได้มองเห็นตามปกติมันมีความสุขขนาดไหน แท้ที่จริงอวัยวะ ๓๒ ประการของเราก็เป็นที่มาของความสุข เป็นดั่งธารน้ำพุแห่งความสุข ถ้าเราดูแลอวัยวะ ๓๒ ประการนี้ให้ดี ความสุขก็เกิดขึ้นมาแล้ว แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามอวัยวะเหล่านี้ผิดปกติไป เช่นหูเคยฟังแล้วได้ยินตามปกติ ถ้าไม่ได้ยินขึ้นมาก็ทุกข์ ตาเคยเห็นตามปกติ ถ้ามองไม่เห็นขึ้นมาก็ทุกข์ ปากเคยพูดได้ตามปกติ ถ้าพูดไม่ได้ก็ทุกข์ เท้าเคยเดินได้ตามปกติ ถ้าเดินไม่ได้ขึ้นมาก็ทุกข์ ตีนกับตาเคยอยู่กันมาแสนผาสุก ถ้าแตกสามัคคีก็ทุกข์ กระเป๋าแห่งความสุขอยู่ที่ไหน อยู่ตรงใจที่รู้จักพอและอยู่ตรงร่างกายที่ปกติสุขของเรา ในเนื้อในตัวของเรานี่แหละมีเหตุปัจจัยแห่งความสุขอยู่ครบถ้วน โปรดอย่าลืม ถ้าเราอยากมีความสุข อย่ามัวแต่มองออกไปนอกตัว ไม่จำเป็นว่าจะต้องมีเงินมากมายมหาศาลจึงจะค้นพบความสุข แท้ที่จริงตาน้ำแห่งความสุขอยู่ในใจของเรา อยู่ในร่างกายที่กว้างศอก ยาววา และหนาคืบของเรา ถ้าหาให้เป็นเราก็จะมีความสุข หากใครไม่เชื่อ ลองป่วยหนักดูสักเจ็ดวัน เจ็ดอยู่ เจ็ดไป ต้องเติมเครื่องช่วยหายใจ แล้วเราจะรู้ว่า ร่างกายปกตินั้นมันมีความสุข มันก่อให้เกิดความสุขแค่ไหน คนที่ป่วยหนัก เขาจะรักสุขภาพของเขา เพราะเขารู้แล้วว่า สุขภาพที่ปกตินั้นแหละคือที่มาของความสุข พระพุทธองค์จึงตรัสว่า "อโรคยา ปรมาลาภา" แปลว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ หรือการมีสุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต นี่คือ วิชาแห่งความสุขวิชาที่หนึ่ง (ติดตามตอนต่อไปวันพระหน้า) ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130806/165172/โลกทัศน์แห่งความสุข(๑๓)สุขภาพดีเป็นโชคดีของชีวิต.html

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...