'มีชัย' ขู่ กกต.คำท้วงขัด รธน.ต้องพ้นสภาพทันที ไม่มีรักษาการ
"มีชัย" ชี้ กกต.ยื่นศาล รธน.ตีความเองไม่ได้ ต้องรอ ก.ม.มีผลบังคับใช้ก่อน ระบุหากศาลชี้ขาดต้องพ้นสภาพทันที ไม่มีรักษาการ
เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 60 ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำลังจะยื่นฟ้องศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความกรณีเซตซีโร่ กกต.ว่า ถ้าหากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เห็นว่าการเซตซีโร่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็จะไม่มีการส่งเรื่องไปให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ และ กกต.ก็จะไม่สามารถส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองได้เช่นกัน หนทางเดียวที่ กกต.จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญได้ด้วยตัวเองนั้น ก็คือต้องรอหลังจากที่ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วย กกต. มีผลบังคับแล้ว ถ้าหากถึงเวลานั้น ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าความเห็นแย้งของ กกต.ขัดต่อเจตนารัฐธรรมนูญ ก็คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ต้องดูด้วยว่าตอนนั้นศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินกันอย่างไร จะขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแบบไหน จะตีความรายมาตราหรือไม่ หรือว่าตีความเฉพาะแค่ถ้อยคำ ถ้าหากตัดสินว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญต้องตกไปทั้งฉบับ ตนก็ขอถามว่าตอนนั้นใครจะร่างกฎหมาย ศาลรัฐธรรมนูญจะเป็นผู้ร่างเองหรือไม่
"ถ้าหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าความเห็นแย้งของ กกต.ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ก็หมายความว่า มาตราว่าด้วย กกต.ที่ทำหน้าที่อยู่เดิมนั้นขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ อาจส่งผลให้ กกต.ชุดนี้ต้องพ้นสภาพไปทันที ไม่สามารถทำหน้าที่รักษาการได้" นายมีชัย กล่าว
นายมีชัย กล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ว่า ในขณะนี้ กรธ.ได้ส่งคำทักท้วงไปยัง สนช.แล้ว โดยระบุว่ากลไกว่าด้วยการทำไพรมารีโหวตนั้น อาจจะทำให้เกิดปัญหาไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญได้ ในแง่ของการทำให้กลไกการเลือกตั้งนั้นไม่สุจริต การกำหนดให้หัวหน้าพรรคการเมืองอยู่ในบัญชีรายชื่อหมายเลข 1 ในร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองนั้น เท่ากับว่าเป็นการตัดสิทธิ์หัวหน้าพรรคการเมืองในการลงสมัครเขตเลือกตั้งได้และจะส่งผลในทางปฏิบัติมากมาย อาทิ พรรคการเมืองอาจจะไม่สามารถทำไพรมารีโหวตได้ทันเวลา ส่งผลทำให้เขาถูกตัดสิทธิ์ในการลงเลือกตั้ง
"ผมไม่ได้ขัดแย้งในเรื่องการทำไพรมารีโหวต เราเห็นด้วย แต่จะต้องมีการหารือกันกับทาง สนช. และทาง กกต.เพื่อหาทางออกในทางปฏิบัติ" นายมีชัย กล่าว