จาตุรนต์ ชี้มีโอกาสสูงเกิดรัฐประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ
จาตุรนต์ ชี้มีโอกาสสูงเกิดรัฐประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ เหตุมีอำนาจทางการเมืองมากกว่าผู้นำเหล่าทัพ ทั้งยับยั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ – ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ทางการเมือง แนะจับตาความเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตร
จากกรณีที่มีกระแสข่าวลือหนาหูว่า รัฐบาลอาจจะถูกปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจเหมือนเมื่อครั้ง 19 ก.ย. 49 นั้น วานนี้ (28 พ.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้ออกมากล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า การทำรัฐประหารในสมัยนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าการรัฐประหารโดยผู้นำกองทัพ
ก็คือการทำรัฐประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจอย่างมากในการสั่ง หรือห้ามทำอะไรก็ได้ในทางการเมือง โดยเฉพาะการชะลอแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรืออาจสั่งห้ามไม่ให้รัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
รวมไปถึงการมีอำนาจในการยุบพรรคการเมือง ถอดถอน ส.ส.-ส.ว. ทั้ง 312 คนที่ร่วมกันลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการทำปฏิวัติในลักษณะดังกล่าวจจึงมีความน่ากลัวกว่าการทำรัฐประหาร ของผู้นำเหล่าทัพหลายเท่าตัว แต่ทั้งนี้แม้เหล่าผู้นำกองทัพจะไม่มีบทบาทแต่ก็ต้องไม่ควรประมาทเพราะการทำ รัฐประหารของกลุ่มคนเหล่านั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาเช่นกัน
ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกฝ่ายจับตาการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. ด้วย เพราะการออกมายื่นข้อเสนอขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูย ราวกับรู้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตนั้น มันมีนัยยะแอบแฝงอยู่
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
จาตุรนต์ ชี้มีโอกาสสูงเกิดรัฐประหาร โดยศาลรัฐธรรมนูญ เหตุมีอำนาจทางการเมืองมากกว่าผู้นำเหล่าทัพ ทั้งยับยั้งแก้ไขรัฐธรรมนูญ – ยุบพรรค-ตัดสิทธิ์ทางการเมือง แนะจับตาความเคลื่อนไหวกลุ่มพันธมิตร จากกรณีที่มีกระแสข่าวลือหนาหูว่า รัฐบาลอาจจะถูกปฏิวัติรัฐประหารยึดอำนาจเหมือนเมื่อครั้ง 19 ก.ย. 49 นั้น วานนี้ (28 พ.ค.) นายจาตุรนต์ ฉายแสง กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ได้ออกมากล่าวถึงกระแสข่าวดังกล่าวว่า การทำรัฐประหารในสมัยนี้สิ่งที่น่าเป็นห่วงมากกว่าการรัฐประหารโดยผู้นำกองทัพ ก็คือการทำรัฐประหารโดยศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจอย่างมากในการสั่ง หรือห้ามทำอะไรก็ได้ในทางการเมือง โดยเฉพาะการชะลอแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรืออาจสั่งห้ามไม่ให้รัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ รวมไปถึงการมีอำนาจในการยุบพรรคการเมือง ถอดถอน ส.ส.-ส.ว. ทั้ง 312 คนที่ร่วมกันลงชื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการทำปฏิวัติในลักษณะดังกล่าวจจึงมีความน่ากลัวกว่าการทำรัฐประหาร ของผู้นำเหล่าทัพหลายเท่าตัว แต่ทั้งนี้แม้เหล่าผู้นำกองทัพจะไม่มีบทบาทแต่ก็ต้องไม่ควรประมาทเพราะการทำ รัฐประหารของกลุ่มคนเหล่านั้นก็สามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลาเช่นกัน ทั้งนี้ตนอยากให้ทุกฝ่ายจับตาการเคลื่อนไหวของเครือข่ายพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย หรือ พธม. ด้วย เพราะการออกมายื่นข้อเสนอขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูย ราวกับรู้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตนั้น มันมีนัยยะแอบแฝงอยู่ ขอบคุณ... http://news.mthai.com/headline-news/242794.html
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)