ชี้คำปราศรัยไร้รอยต่อของนายกฯ ส่อผิด กม.-รธน.
เดลินิวส์ออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16:33 น.
http://www.dailynews.co.th/politics/186670 (ขนาดไฟล์: 167)
"สุริยะใส"ชี้คำปราศรัยไร้รอยต่อ ของนายกฯ ส่อผิด กม.-รธน.ใช้ตำแหน่งให้คุณให้โทษผู้สมัคร จงใจให้ ปชช.เข้าใจผิด เตรียมให้ฝ่าย กม.ดูข้อเท็จจริง ยื่น กกต.2-3วันนี้
วันนี้ (24 ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงการเดิยสายหาเสียงของนายกรัฐมนตรีและ ครม.เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทยกำลังส่อว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะปราศรัยในทำนองว่า ถ้าเลือกพล.ต.อ.พงศพัศ จะใช้นโยบายรัฐบาลกับ กทม. ประสานกันแบบไร้รอยต่อ หมายความว่า รัฐบาลคิดทำอะไร สร้างอะไร ก็จะเชื่อมโยงโครงการนั้นเข้าด้วยกัน โดยไม่มีปัญหาโต้แย้งซึ่งกันและกันเลย เช่น จะได้รถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกหลายสาย จะได้รถเมล์ฟรี จะได้โครงการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสิ้น เพราะการใช้งบประมาณในโครงการใหญ่ๆ เช่นนี้ ถึงแม้ผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นบุคคลอื่นหรือพรรคอื่นมาเป็นก็ต้องทำอยู่แล้ว เพราะมีโครงการมาก่อน ลำพังแต่การใช้งบประมาณของ กทม. จะทำไม่ได้อย่างแน่นอน
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี เป็นการพูดหาเสียงให้ผู้สมัครโดย เป็นการไปแสดงตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี ดังจะเห็นได้จากคำพูดของ พิธีกรบนเวที ได้เรียกเชิญด้วยคำว่า "ฯพณฯนายกรัฐมนตรี" ซึ่งการพูดหาเสียงในฐานะนายกรัฐมนตรีก็เท่ากับเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะที่เป็น"เจ้าหน้าที่ของรัฐ”ตามความหมายในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 นอกจากนี้ในการนำเสนอนโยบายการทำงานร่วมกับผู้ว่า กทม. คนใหม่ คือผู้สมัครขิงพรรคเพื่อไทย ที่เรียกว่า การทำงานแบบไร้รอยต่อ พร้อมยกตัวอย่างโครงการรถไฟฟ้า ติดตั้งไฟส่องสว่าง รักษา 30 บาทรักษาทุกโรค เหล่านี้เมื่อประชาชนได้ฟังแล้ว ย่อมจะเข้าใจได้ว่า ถ้าเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะใช้นโยบายทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ แต่ถ้าเลือกเบอร์อื่น การทำงานก็จะมีรอยต่อคือ ไม่สามารถประสานกันได้
"คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือ การนำเสนอให้กับประชาชนในเรื่องต่างๆ คือ เรื่องขนส่งทางรางก็ดี การบริการสาธารณะต่างๆ ก็ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องจัดให้กับประชาชนตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค ด้วยวิธีการนำเสนอนโยบายทำงานแบบไร้รอยต่อ จึงเป็นการพูดเพื่อหวังผล ให้เป็นคุณช่วยเหลือพรรคพวกคือผู้สมัครที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น และยังมีผลในทางกลับกัน ก็คือเมื่อประชาชนฟังแล้วเชื่อตามที่นายกรัฐมนตรีพูด ก็จะเป็นโทษกับผู้อื่นๆ คือไม่เลือกผู้สมัครหมายเลขอื่นๆ อันเป็นการจูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อและลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย"นายสุริยะใส กล่าวและว่า ในเรื่องนี้กลุ่มกรีนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงและประมวลหลักฐานทั้งหมดถ้าพบเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะยื่นร้องต่อ กกต.ภายใน2-3 วันนี้"ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าว.
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
เดลินิวส์ออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา 16:33 น. http://www.dailynews.co.th/politics/186670 "สุริยะใส"ชี้คำปราศรัยไร้รอยต่อ ของนายกฯ ส่อผิด กม.-รธน.ใช้ตำแหน่งให้คุณให้โทษผู้สมัคร จงใจให้ ปชช.เข้าใจผิด เตรียมให้ฝ่าย กม.ดูข้อเท็จจริง ยื่น กกต.2-3วันนี้ วันนี้ (24 ก.พ.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวถึงการเดิยสายหาเสียงของนายกรัฐมนตรีและ ครม.เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคเพื่อไทยกำลังส่อว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและรัฐธรรมนูญ เพราะปราศรัยในทำนองว่า ถ้าเลือกพล.ต.อ.พงศพัศ จะใช้นโยบายรัฐบาลกับ กทม. ประสานกันแบบไร้รอยต่อ หมายความว่า รัฐบาลคิดทำอะไร สร้างอะไร ก็จะเชื่อมโยงโครงการนั้นเข้าด้วยกัน โดยไม่มีปัญหาโต้แย้งซึ่งกันและกันเลย เช่น จะได้รถไฟฟ้าเพิ่มเติมอีกหลายสาย จะได้รถเมล์ฟรี จะได้โครงการต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของรัฐบาลทั้งสิ้น เพราะการใช้งบประมาณในโครงการใหญ่ๆ เช่นนี้ ถึงแม้ผู้ว่าฯ กทม. จะเป็นบุคคลอื่นหรือพรรคอื่นมาเป็นก็ต้องทำอยู่แล้ว เพราะมีโครงการมาก่อน ลำพังแต่การใช้งบประมาณของ กทม. จะทำไม่ได้อย่างแน่นอน นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรี เป็นการพูดหาเสียงให้ผู้สมัครโดย เป็นการไปแสดงตัวในฐานะนายกรัฐมนตรี ดังจะเห็นได้จากคำพูดของ พิธีกรบนเวที ได้เรียกเชิญด้วยคำว่า "ฯพณฯนายกรัฐมนตรี" ซึ่งการพูดหาเสียงในฐานะนายกรัฐมนตรีก็เท่ากับเป็นการใช้ตำแหน่งหน้าที่ในฐานะที่เป็น"เจ้าหน้าที่ของรัฐ”ตามความหมายในพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 นอกจากนี้ในการนำเสนอนโยบายการทำงานร่วมกับผู้ว่า กทม. คนใหม่ คือผู้สมัครขิงพรรคเพื่อไทย ที่เรียกว่า การทำงานแบบไร้รอยต่อ พร้อมยกตัวอย่างโครงการรถไฟฟ้า ติดตั้งไฟส่องสว่าง รักษา 30 บาทรักษาทุกโรค เหล่านี้เมื่อประชาชนได้ฟังแล้ว ย่อมจะเข้าใจได้ว่า ถ้าเลือกผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยจะใช้นโยบายทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ แต่ถ้าเลือกเบอร์อื่น การทำงานก็จะมีรอยต่อคือ ไม่สามารถประสานกันได้ "คำปราศรัยของนายกรัฐมนตรีอาจเข้าข่ายเป็นการหลอกลวงประชาชนหรือ การนำเสนอให้กับประชาชนในเรื่องต่างๆ คือ เรื่องขนส่งทางรางก็ดี การบริการสาธารณะต่างๆ ก็ดี ล้วนแต่เป็นเรื่องที่เป็นหน้าที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล จะต้องจัดให้กับประชาชนตามรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว ดังนั้นการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ในฐานะนายกรัฐมนตรี กล่าวปราศรัยหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค ด้วยวิธีการนำเสนอนโยบายทำงานแบบไร้รอยต่อ จึงเป็นการพูดเพื่อหวังผล ให้เป็นคุณช่วยเหลือพรรคพวกคือผู้สมัครที่เป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยเท่านั้น และยังมีผลในทางกลับกัน ก็คือเมื่อประชาชนฟังแล้วเชื่อตามที่นายกรัฐมนตรีพูด ก็จะเป็นโทษกับผู้อื่นๆ คือไม่เลือกผู้สมัครหมายเลขอื่นๆ อันเป็นการจูงใจให้ประชาชนหลงเชื่อและลงคะแนนให้ผู้สมัครพรรคเพื่อไทยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย"นายสุริยะใส กล่าวและว่า ในเรื่องนี้กลุ่มกรีนกำลังให้ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อเท็จจริงและประมวลหลักฐานทั้งหมดถ้าพบเข้าข่ายผิดกฎหมายก็จะยื่นร้องต่อ กกต.ภายใน2-3 วันนี้"ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าว.
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)