ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!!
[/p]
[b]สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนพิการประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปในสังคมได้นั้น ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมในหลายด้าน ทั้งความรู้และศักยภาพการดำรงชีวิตอยู่[/b]
ดร. เปิ้ล นันทนุช สุวรรนาวุธ พิการทางการเห็น นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในช่วงวัยเด็กเธอเป็นโรคต้อกระจก ซึ่งจะต้องผ่าตัดตั้งแต่อายุเพียง 2 เดือน แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 11 ปี จากโรคต้อกระจกก็กลายเป็นโรคต้อหินแบบเฉียบพลัน ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นและกลายเป็นคนพิการทางการเห็นทันที
จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ต้องกลายเป็นคนพิการทางการเห็น ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร จากการใช้ชีวิตและเรียนในโรงเรียนปกติทั่วไป ก็ต้องเข้าสู่การเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอด ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนหนังสือที่ต่างจากคนทั่วไป ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ การเรียนอักษรเบรลล์ รวมถึงการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ทำให้สามารถเข้ากับเพื่อนได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่และวัยรุ่น ที่อาจจะมีความยากในการปรับตัวอยู่พอสมควร เพราะบนเส้นทางของคนพิการไม่ได้ง่าย แต่ถ้ามีความพยายาม และได้รับโอกาสดีๆ ก็ทำให้ประสบความสำเร็จ สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ได้เช่นกัน
ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!!
ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!!ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!!![[/p]
[b]สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนพิการประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปในสังคมได้นั้น ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมในหลายด้าน ทั้งความรู้และศักยภาพการดำรงชีวิตอยู่[/b]
ดร. เปิ้ล นันทนุช สุวรรนาวุธ พิการทางการเห็น นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในช่วงวัยเด็กเธอเป็นโรคต้อกระจก ซึ่งจะต้องผ่าตัดตั้งแต่อายุเพียง 2 เดือน แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 11 ปี จากโรคต้อกระจกก็กลายเป็นโรคต้อหินแบบเฉียบพลัน ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นและกลายเป็นคนพิการทางการเห็นทันที
จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ต้องกลายเป็นคนพิการทางการเห็น ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร จากการใช้ชีวิตและเรียนในโรงเรียนปกติทั่วไป ก็ต้องเข้าสู่การเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอด ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนหนังสือที่ต่างจากคนทั่วไป ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ การเรียนอักษรเบรลล์ รวมถึงการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ทำให้สามารถเข้ากับเพื่อนได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่และวัยรุ่น ที่อาจจะมีความยากในการปรับตัวอยู่พอสมควร เพราะบนเส้นทางของคนพิการไม่ได้ง่าย แต่ถ้ามีความพยายาม และได้รับโอกาสดีๆ ก็ทำให้ประสบความสำเร็จ สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ได้เช่นกัน
ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!!]([/p
[b
ดร. เปิ้ล นันทนุช สุวรรนาวุธ พิการทางการเห็น นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในช่วงวัยเด็กเธอเป็นโรคต้อกระจก ซึ่งจะต้องผ่าตัดตั้งแต่อายุเพียง 2 เดือน แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 11 ปี จากโรคต้อกระจกก็กลายเป็นโรคต้อหินแบบเฉียบพลัน ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นและกลายเป็นคนพิการทางการเห็นทันที
จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ต้องกลายเป็นคนพิการทางการเห็น ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร จากการใช้ชีวิตและเรียนในโรงเรียนปกติทั่วไป ก็ต้องเข้าสู่การเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอด ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนหนังสือที่ต่างจากคนทั่วไป ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ การเรียนอักษรเบรลล์ รวมถึงการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ทำให้สามารถเข้ากับเพื่อนได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่และวัยรุ่น ที่อาจจะมีความยากในการปรับตัวอยู่พอสมควร เพราะบนเส้นทางของคนพิการไม่ได้ง่าย แต่ถ้ามีความพยายาม และได้รับโอกาสดีๆ ก็ทำให้ประสบความสำเร็จ สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ได้เช่นกัน
/images/upload/2025-02-24-952-1-02.2.jpg)
ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!![/p] [b]สิ่งสำคัญที่จะทำให้คนพิการประสบความสำเร็จและเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปในสังคมได้นั้น ต้องเตรียมตัวเองให้พร้อมในหลายด้าน ทั้งความรู้และศักยภาพการดำรงชีวิตอยู่[/b] ดร. เปิ้ล นันทนุช สุวรรนาวุธ พิการทางการเห็น นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในช่วงวัยเด็กเธอเป็นโรคต้อกระจก ซึ่งจะต้องผ่าตัดตั้งแต่อายุเพียง 2 เดือน แต่ก็ยังใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่เมื่ออายุได้ประมาณ 11 ปี จากโรคต้อกระจกก็กลายเป็นโรคต้อหินแบบเฉียบพลัน ส่งผลให้สูญเสียการมองเห็นและกลายเป็นคนพิการทางการเห็นทันที จุดเปลี่ยนของชีวิตที่ต้องกลายเป็นคนพิการทางการเห็น ต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร จากการใช้ชีวิตและเรียนในโรงเรียนปกติทั่วไป ก็ต้องเข้าสู่การเรียนในโรงเรียนสอนคนตาบอด ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนหนังสือที่ต่างจากคนทั่วไป ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่ การเรียนอักษรเบรลล์ รวมถึงการปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่แต่ด้วยความเป็นเด็กก็ทำให้สามารถเข้ากับเพื่อนได้ดีมากกว่าผู้ใหญ่และวัยรุ่น ที่อาจจะมีความยากในการปรับตัวอยู่พอสมควร เพราะบนเส้นทางของคนพิการไม่ได้ง่าย แต่ถ้ามีความพยายาม และได้รับโอกาสดีๆ ก็ทำให้ประสบความสำเร็จ สามารถดำเนินชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง ได้เช่นกัน ก้าวข้ามความพิการ ปลดล็อกศักยภาพตัวเอง เรียนรู้สิ่งใหม่ เตรียมตัวให้พร้อม กับโอกาสที่เข้ามา!!