'ขอตายทีหลังน้อง'ตาวัย72ดูแลน้องพิการทางสมองวอนขอบ้านเล็กๆก็พอ

แสดงความคิดเห็น

ตาวัย 72 ปี กับน้องชายวัย 55ปีที่พิการทางสมอง

ตาวัย 72 ปี ที่ จ.ชัยนาท ต้องรับภาระดูแลน้องชายวัย 55 ปี ที่พิการทางสมอง มีความคิดความอ่านคล้ายเด็ก ต้องอาศัยอยู่ในเพิงที่มุงด้วยใบตาล ฝนตกฟ้าร้องต้องเอากะละมังมารองไว้ วอนขอผู้ใจบุญช่วยทำบ้านให้สักครั้งในชีวิตก่อนตายจาก

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนางศศลักษณ์ บุญศรีพรชัย กรรมการกาชาดจังหวัดชัยนาทว่ามีชายที่พิการทางสมอง มีความคิดความอ่านที่ไม่เหมือนคนปกติ มีลักษณะคล้ายเด็ก ไม่เติบโตตามอายุ จึงไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงตนเองได้ ต้องหวังพึ่งพี่ชายที่รับจ้างขึ้นต้นตาลได้วันละ 80- 100 บาท เท่านั้น โดยทั้งคู่อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบ้านดีหรือไม่ เพราะภายในบ้านมีแค่นั่งร้าน และเสาไม้ค้ำ ด้านนอกมุงด้วยวัสดุหลายๆ ชนิดมาผสมกัน เช่น ใบตาล แฝก สังกะสี คล้ายๆ เพิงที่ชาวบ้านเรียกว่าห้างนา แต่มิดชิดกว่านิดหน่อยเพียงเท่านั้น

กลุ่มผู้ใจบุญประจำตำบลห้วยกรด เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับครอบครัวของนายสุรัตน์ ดวงยี่หวา อายุ 55 ปีพิการทางสมอง

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพร้อมกับนางศศลักษณ์ และกลุ่มผู้ใจบุญประจำตำบลห้วยกรด ไปยังบ้านเลขที่ 7 ม.5 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับครอบครัวดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่กลางทุ่งนา ห่างไกลจากตัวเมือง และตลาด เป็นอย่างมาก

ส่วนตัวบ้านเป็นเพิงไม้ ใช้วัสดุต่างๆ มาสุมๆ ให้เป็นหลังคาสำหรับกันฝน ภายในสูงเพียงไม่ถึง 1 เมตร ทำให้ต้องก้มเข้า เดินไม่ได้ ต้องใช้การคลานเข่า เวลาจะหยิบจับอะไรในเพิงดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นของนายสุรัตน์ ดวงยี่หวา อายุ 55 ปี ผู้ป่วยทางสมองและพัฒนาการเติบโตไม่เท่าคนปกติและไม่เป็นไปตามวัย มีวุฒิภาวะคล้ายเด็ก สามารถสื่อสารได้รับฟังเข้าใจ ไม่เป็นพิษเป็นภัยไม่ทำอันตรายต่อใคร มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส ยิ้มให้กับผู้คนตลอดเวลา

“ทุกวันนี้ไม่เคยคิดจะทอดทิ้ง หรือไม่ดูแลน้องชายแต่อย่างใด รักและคิดถึงเสมอว่า น้องชายคือคนที่ตนรัก เพราะหากตนไม่รักน้องแล้วสุนัขที่ไหนจะมารัก จะมาดูแล ห่วงก็เสียแต่ว่า ความชราภาพ และสังขารของตนเองจะพรากชีวิตของตนไปก่อนน้อง แต่ก็จะขอดูแลน้องชายคนนี้จนหมดลมหายใจไปจากโลกใบนี้ หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง อยากขอให้ตนตายทีหลังน้องชาย ตนจะได้หมดห่วงเสียที”

ด้าน นายสุรัตน์ กล่าวว่า อยากมีบ้านสัก 1 หลัง เพื่ออาศัยอยู่กับพี่ชาย ถึงจะอดมื้อกินมื้อก็อยากมีบ้านที่เรียกว่าบ้านได้จริงๆ ไว้ใช้ชีวิตบั้นปลายให้สุขสบาย ไม่ต้องคอยเอากะละมังมารองน้ำเวลาฝนตก ระแวงงู ตะขาบ ไต่มากัด หากผู้มีจิตศรัทธาสนใจช่วยเหลือครอบครัวดวงยี่หวา สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ประจำตำบลห้วยกรด หมายเลขบัญชี 020072843257 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสรรคบุรี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางทุเรียน หนูวงษ์ ประธานกลุ่มผู้ใจบุญประจำตำบลห้วยกรด เบอร์โทรศัพท์หมายเลข08-1888-9148.

ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/648361

ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 27 มิ.ย.59
วันที่โพสต์: 28/06/2559 เวลา 10:00:03 ดูภาพสไลด์โชว์ 'ขอตายทีหลังน้อง'ตาวัย72ดูแลน้องพิการทางสมองวอนขอบ้านเล็กๆก็พอ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ตาวัย 72 ปี กับน้องชายวัย 55ปีที่พิการทางสมอง ตาวัย 72 ปี ที่ จ.ชัยนาท ต้องรับภาระดูแลน้องชายวัย 55 ปี ที่พิการทางสมอง มีความคิดความอ่านคล้ายเด็ก ต้องอาศัยอยู่ในเพิงที่มุงด้วยใบตาล ฝนตกฟ้าร้องต้องเอากะละมังมารองไว้ วอนขอผู้ใจบุญช่วยทำบ้านให้สักครั้งในชีวิตก่อนตายจาก เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.59 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนางศศลักษณ์ บุญศรีพรชัย กรรมการกาชาดจังหวัดชัยนาทว่ามีชายที่พิการทางสมอง มีความคิดความอ่านที่ไม่เหมือนคนปกติ มีลักษณะคล้ายเด็ก ไม่เติบโตตามอายุ จึงไม่สามารถทำงานหาเลี้ยงตนเองได้ ต้องหวังพึ่งพี่ชายที่รับจ้างขึ้นต้นตาลได้วันละ 80- 100 บาท เท่านั้น โดยทั้งคู่อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่รู้ว่าจะเรียกว่าบ้านดีหรือไม่ เพราะภายในบ้านมีแค่นั่งร้าน และเสาไม้ค้ำ ด้านนอกมุงด้วยวัสดุหลายๆ ชนิดมาผสมกัน เช่น ใบตาล แฝก สังกะสี คล้ายๆ เพิงที่ชาวบ้านเรียกว่าห้างนา แต่มิดชิดกว่านิดหน่อยเพียงเท่านั้น กลุ่มผู้ใจบุญประจำตำบลห้วยกรด เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับครอบครัวของนายสุรัตน์ ดวงยี่หวา อายุ 55 ปีพิการทางสมอง จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพร้อมกับนางศศลักษณ์ และกลุ่มผู้ใจบุญประจำตำบลห้วยกรด ไปยังบ้านเลขที่ 7 ม.5 ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท เพื่อตรวจเยี่ยมและมอบข้าวสารอาหารแห้งให้กับครอบครัวดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่กลางทุ่งนา ห่างไกลจากตัวเมือง และตลาด เป็นอย่างมาก ส่วนตัวบ้านเป็นเพิงไม้ ใช้วัสดุต่างๆ มาสุมๆ ให้เป็นหลังคาสำหรับกันฝน ภายในสูงเพียงไม่ถึง 1 เมตร ทำให้ต้องก้มเข้า เดินไม่ได้ ต้องใช้การคลานเข่า เวลาจะหยิบจับอะไรในเพิงดังกล่าว ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นของนายสุรัตน์ ดวงยี่หวา อายุ 55 ปี ผู้ป่วยทางสมองและพัฒนาการเติบโตไม่เท่าคนปกติและไม่เป็นไปตามวัย มีวุฒิภาวะคล้ายเด็ก สามารถสื่อสารได้รับฟังเข้าใจ ไม่เป็นพิษเป็นภัยไม่ทำอันตรายต่อใคร มีนิสัยร่าเริงแจ่มใส ยิ้มให้กับผู้คนตลอดเวลา “ทุกวันนี้ไม่เคยคิดจะทอดทิ้ง หรือไม่ดูแลน้องชายแต่อย่างใด รักและคิดถึงเสมอว่า น้องชายคือคนที่ตนรัก เพราะหากตนไม่รักน้องแล้วสุนัขที่ไหนจะมารัก จะมาดูแล ห่วงก็เสียแต่ว่า ความชราภาพ และสังขารของตนเองจะพรากชีวิตของตนไปก่อนน้อง แต่ก็จะขอดูแลน้องชายคนนี้จนหมดลมหายใจไปจากโลกใบนี้ หากสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีจริง อยากขอให้ตนตายทีหลังน้องชาย ตนจะได้หมดห่วงเสียที” ด้าน นายสุรัตน์ กล่าวว่า อยากมีบ้านสัก 1 หลัง เพื่ออาศัยอยู่กับพี่ชาย ถึงจะอดมื้อกินมื้อก็อยากมีบ้านที่เรียกว่าบ้านได้จริงๆ ไว้ใช้ชีวิตบั้นปลายให้สุขสบาย ไม่ต้องคอยเอากะละมังมารองน้ำเวลาฝนตก ระแวงงู ตะขาบ ไต่มากัด หากผู้มีจิตศรัทธาสนใจช่วยเหลือครอบครัวดวงยี่หวา สามารถบริจาคได้ที่ ชื่อบัญชี ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ประจำตำบลห้วยกรด หมายเลขบัญชี 020072843257 ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร สาขาสรรคบุรี หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นางทุเรียน หนูวงษ์ ประธานกลุ่มผู้ใจบุญประจำตำบลห้วยกรด เบอร์โทรศัพท์หมายเลข08-1888-9148. ขอบคุณ... http://www.thairath.co.th/content/648361

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...