‘กกท.’พร้อมช่วยเหลือนักกีฬา ‘อาเซียนพาราเกมส์’ เก็บตัวเพิ่ม
ความคืบหน้าของสถานการณ์ที่ประเทศฟิลิปปินส์ได้ทำการประกาศเลื่อนจัดการแข่งขัน “อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 10” จาก 18 – 25 มกราคม 2563 ออกไปเป็น 20 – 28 มีนาคม 2563 นั้น ทำให้ทุกประเทศสมาชิกอาเซียนเริ่มมีความวิตกกังวลว่าฟิลิปปินส์อาจจะยกเลิกจัดไปเลยเนื่องด้วยมีปัญหาเรื่องการเงินภายในประเทศ ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงจะส่งผลเสียงต่อนักกีฬาคนพิการทุกๆ ชาติเป็นอย่างมากนั้น ทำให้เวลานี้ประเทศสมาชิกเริ่มที่จะทำการหารือกันถึงทางออกว่าอาจจะหาประเทศอื่นรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันแทนฟิลิปปินส์
ในประเด็นนี้ทางด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาเเห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า ทางกกท.ในฐานะคณะเตรียมนักกีฬาเพื่อร่วมทำศึก ต้องมีการปรับเปลี่ยนเเผนการทำงานกันใหม่พอสมควร ทั้งในเรื่องของการทำเเผนเก็บตัวเเละรวมทั้งเรื่องของเบี้ยเลี้ยง โดยในเรื่องกำหนดการเก็บตัวนั้น เวลานี้นักกีฬาคนพิการไทยยังคงเดินหน้าฝึกซ้อมตามกำหนดการเดิมทุกอย่าง ส่วนกกท.ซึ่งมีหน้าที่ช่วยเหลือเเละสนับสนุน ได้ทำการซัพพอร์ตพวกเขาอย่างเต็มที่เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ซึ่งหลังมีการยืนยันปรับเลื่อนจากทางเจ้าภาพ กกท.ก็ปรับเเผนขยายระยะเวลาเก็บตัว รวมถึงเบิกจ่ายเบี้ยเลี้ยงเพิ่มเติมให้ทุกทีมกีฬา
“ตัวผมเองมีความกังวลเหมือนกัน เพราะทางฟิลิปปินส์ก็ยังไม่ได้การันตีหรือสร้างความมั่นใจให้ชาติสมาชิกต่างๆ ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์กับการทำหน้าที่ของพวกเขาในศึกอาเซียนพาราเกมส์ คือ ถ้าไม่จัดเเข่งขัน นักกีฬาของเราต้องเสียโอกาสหลายๆ อย่างแน่นอน เพราะนอกจากนักกีฬาจะไม่ได้ลงเเข่งขัน เพื่อทดสอบความพร้อมก่อนลุยควอลิฟายเเละเเข่งขันพาราลิมปิกเกมส์ 2020 เเล้ว ก็มีเรื่องของเงินรางวัล ซึ่งก็เป็นสิ่งที่นักกีฬาหลายคนคาดหวังเหมือนกันว่าจะมีเงินรางวัลจากการได้เหรียญต่างๆ” ดร.ก้องศักด กล่าว
ผู้ว่าการกกท. ยังเผยอีกว่า ถ้าเกิดฟิลิปปินส์ถอนตัวไม่จัดเเข่งขันจริงๆ ก็นับว่าเป็นเรื่องใหญ่ทีเดียว ส่วนไทยจะยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือด้วยการรับหน้าที่เป็นเจ้าภาพเเทนหรือไม่นั้น ก็คงเป็นเรื่องที่ตนนั้นตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ คงต้องทำการปรึกษาเเละหารือกันในหลายๆ ฝ่าย
“ถ้าถามว่าไทยจัดได้หรือไม่ ในมุมมองผม ก็มองว่าไทยก็มีความพร้อมในระดับที่จัดเเข่งขันได้เลย เพราะก็มีสถานที่เเละสนามเเข่งขันกีฬาต่างๆ ที่พร้อมเเละรองรับอยู่เเล้ว ไม่ว่าจะเป็นนครราชสีมา หรือ ชลบุรี ที่ต้องดูก็คือเรื่องของการจัดสรรงบประมาณ เรื่องของโปรแกรมเเละช่วงเวลาเเข่งขัน ว่าไปชนหรือไปติดกับอะไรหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นพาราลิมปิก หรือกีฬาเเห่งชาติ” ดร.ก้องศักด กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: thebangkokinsight.com/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 22 ม.ค.63
วันที่โพสต์: 23/01/2563 เวลา 11:19:04 
