ลุงพิการขาขาด อยู่ที่ตาบอด ต้องปีนกำแพงสูง 4 เมตรเข้า-ออกบ้านมา 10 ปี

ลุงพิการขาขาด อยู่ที่ตาบอด ต้องปีนกำแพงสูง 4 เมตรเข้า-ออกบ้านมา 10 ปี

น่าเวทนา ลุงพิการขาขาด อยู่ที่ตาบอด ต้องปีนกำแพงสูง 4 เมตรเข้า-ออกบ้านมา 10 ปี เผยสภาพบ้านทรุดโทรม อยู่ลำพัง สท.เห็นยังอึ้ง เพิ่งรู้ในนี้มีคนอยู่ด้วย

วันที่ 27 ก.ย.65 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก สท.วินัย นาคนิวงค์ และ สท.เหนียม สุทธิยา สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสระบุรีว่า พบลุงพิการขาด นั่งรถสามล้อโยก เข้าไปในโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองสระบุรี จากนั้นต้องปีนข้ามกำแพงที่สูงถึง 4 เมตร เพื่อที่จะเข้าไปในบ้านของตัวเอง ที่ล้อมรอบด้วยกำแพงสูง เป็นที่น่าเวทนาและสงสาร เกรงว่าจะพลัดตกลงมา

ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ไปตรวจสอบ บริเวณโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองสระบุรี หมู่ 4 ซอยเกาะเย็น ต.ปากข้าวสาร อ.เมือง จ.สระบุรี พบ นายสิริชัย วรรณคำ อายุ 66 ปี กำลังนั่งบนรถสามล้อโยก เพื่อที่จะเข้าไปภายในบ้าน จึงได้สอบถาม และขอดูการเข้าบ้านด้วยการปีนข้ามกำแพงสูง 4 เมตร ในขณะที่มีไม้ค้ำทั้ง 2 ข้าง

จากนั้น นายสิริชัย ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังบ้าน โดยการโยกรถเข้ามาจอดตรงป่ากล้วยภายในโรงฆ่าสัตว์ หลังจากนั้นลงเดินโดยใช้ไม้ค้ำพาไปยังกำแพงที่มีบันไดพาด แล้วใช้ไม้เท้าค้ำยันไปที่บันได ก่อนจะโยกตัวขึ้นไปทีละขั้นๆ จนถึงขอบกำแพง จากนั้นก็ได้ก็ลงด้วยการใช้เท้าเหยียบและถัดก้นลงมาทีขั้น ส่วนที่บ้านนั้นสภาพเป็นพื้นไม้กระดานยกสูง ทรุดโทรม หลังคามุงด้วยสังกะสีที่ผุพัง ไม่มีฝาบ้าน โดยมีเพียงกำแพงปูนล้อมรอบตัวบ้าน ไม่มีทางเข้าออก ข้าวของเครื่องใช้ มีเพียงหม้อข้าวเล็กๆ ถ้วยชาม และหม้อที่ดำเป็นตอตะโก ห้องน้ำก็โล่งโปร่งไม่มีการกั้นปิดมิดชิด

นายสิริชัย เล่าว่า สาเหตุที่ตนพิการขาดเนื่องจากเมื่อ 20 ปีก่อน ตนประสบอุบัติเหตุ ต้องตัดขาซ้ายทิ้ง จากนั้นภรรยาไปมีสามีใหม่ สำหรับพื้นที่บ้านก็เป็นที่เศษจากการเวนคืนพื้นที่ทหาร ซึ่งเป็นพื้นที่ตาบอด ไม่มีทางเข้าออก เมื่อ 10 กว่าปีก่อนสามารถเข้าออกได้ทุกทาง จากนั้นเจ้าของที่ได้ก่อกำแพง ตนจึงได้อาศัยออกทางโรงฆ่าสัตว์ ซึ่งแต่ก่อนเปิดช่องทางให้เข้าออกได้ แต่ต่อมาช่องทางถูกปิด จึงต้องทำบันได ขึ้น-ลงกำแพงเอง โดย 1-2 ปีเปลี่ยนทีเนื่องจากไม้ผุ

ลุงพิการขาขาด อยู่ที่ตาบอด ต้องปีนกำแพงสูง 4 เมตรเข้า-ออกบ้านมา 10 ปี

โดยได้ปีนขึ้น-ลงกำแพงเข้าบ้านมาเป็นเวลาร่วม 10 ปีแล้ว เกรงว่าวันใดวันหนึ่งเกิดพลาดอาจพลัดตกลงมาเสียชีวิตได้ เนื่องจากไม่มีใครเห็นตน ส่วนลูกมี 1 คน ตอนนี้แยกไปมีครอบครัวแล้ว ก็จะมาหาบ้าง เดือน-สองเดือนครั้ง ซึ่งแต่เมื่อจะติดต่อกันทางโทรศัพท์ แต่ตอนนี้โทรศัพท์ใช้ไม่ได้เนื่องจากตกน้ำ ขณะออกไปปักเบ็ดหาปลามาเลี้ยงชีพ ตอนนี้อยากได้บ้านใหม่ เพราะผุพังมากแล้ว ไม่มีฝาบ้าน เวลาฝนตกลงมาก็สาดเข้าใส่ ตนต้องทนอยู่มาตลอด

ส่วนทางเข้า-ออกตนก็อยากได้ ก็ไม่รู้จะไปร้องกับใคร และทำอย่างไร คือตอนที่สร้างโรงฆ่าสัตว์ใหม่ๆ ตนก็ไปร้องขอทางสัตว์แพทย์ ก็เปิดให้ใช้อยู่สักพัก ต่อมามี ผอ.ของเทศบาลมาสั่งให้ปิดทาง ทำให้ตนไม่มีทางเข้าออกบ้าน เคยขอไปหลายครั้งแล้วก็ยังไม่มีการอนุมัติใดๆ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตพื้นที่ของ อบต.ปากข้าวสาร จากนั้น นายสิริชัย ได้ยกมือขึ้นพนมมือไหว้ โดยวิงวอนผ่านสื่อไปถึงนายก อบต.ว่า อยากขอทางเข้าออกให้หน่อย ไม่อยากปีนกำแพงแล้ว

ด้าน สท.วินัย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ตนและ สท.เหนียม ได้เข้ายังโรงฆ่าสัตว์เทศบาลเมืองสระบุรี เพื่อมาตรวจเยี่ยมในเรื่องของน้ำท่วม จากนั้นได้พบกับลุงสิริชัย โดยเห็นว่าโยกรถเข้ามาในโรงฆ่าสัตว์ จึงสอบถามว่าจะไปไหน ลุงสิริชัย บอกว่ามีบ้านอยู่ในนี้ ซึ่งตนก็มองดูแล้วว่าไม่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในนี้เลย โดย ลุงสิริชัย บอกว่าบ้านอยู่ข้างกำแพง แต่ต้องปีนข้ามเข้าไป ตนเห็นแล้วรู้สึกหดหู่มาก ว่ามีผู้สูงอายุ และพิการขาขาดต้องมาปีนข้ามกำแพงสูง 4 เมตรนานกว่า 10 ปี จึงเกิดความสงสารได้ปรึกษากันว่าจะหาวิธี และทางไหนช่วยลุงได้

ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_7288330

ที่มา: khaosod.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 28 ก.ย.65
วันที่โพสต์: 28/09/2565 เวลา 10:56:05 ดูภาพสไลด์โชว์ ลุงพิการขาขาด อยู่ที่ตาบอด ต้องปีนกำแพงสูง 4 เมตรเข้า-ออกบ้านมา 10 ปี