เฒ่าหูหนวกตาบอดเก็บขยะ เลี้ยงเมียพิการ-ไร้บัตรปชช.

เฒ่าหูหนวกตาบอดเก็บขยะ เลี้ยงเมียพิการ-ไร้บัตรปชช.

สัดาห์นี้เปิดชีวิตคู่รักวัยชรา ตาเฒ่าอายุ 70 ปีดิ้นรนสู้ลำบาก แม้หูหนวก-ตาซ้ายบอด เร่ถีบสามล้อเก็บขยะ-ของเก่าขาย เลี้ยงยายเฒ่าเมียพิการเดินไม่ได้กว่า 10 ปี ซ้ำไร้บ้านขออาศัยปลูกกระท่อมริมทุ่งนาบนที่ดินชาวบ้าน

ในทุกวัน “คุณตาวิชา จันทร์หอม” วัย 70 ปี ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ ถีบสามล้อคั่นเก่าเพื่อไปวัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร หรือชื่อที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดใหญ่” จ.พิษณุโลก เมื่อได้ข้าวก้นบาตรมาก็จะรีบกลับบ้านนำไปให้ยายเฒ่าคู่ชีวิตที่ร่างกายพิการ ไม่สามารถลุกเดินไปไหนมาไหนได้มากว่า 10 ปีแล้ว

เพราะชีวิตนี้มีกันอยู่แค่ 2 คน ชายชราหัวใจนักสู้ผู้นี้จึงดิ้นรนทำทุกทางหวังให้สองชีวิตอยู่รอดผ่านวันนี้ไปให้ได้ ซึ่งทั้งหมดที่ลงแรงลงมือทำไปก็เพื่อค่อยเลี้ยงดูภรรยา “คุณยายศรีนวล” วัย 70 ปีจนกว่าชาตินี้ชีวิตจะจากกันไป

คุณตาวิชา หรือ ชาวบ้านมักจะเรียกว่า “คุณตาใจ” เมื่อวัยชรามาเยือนหูทั้ง 2 ข้างก็หนวก ไม่ค่อยได้ยิน กิจวัตรประจำวันอย่างหนึ่งที่เป็นรายได้หลัก หลังกลับจากวัดในทุก ๆ เช้าก็คือ...ตระเวนถีบสามล้อคันเก่าไปตามถนนหนทาง หวังออกหาเก็บขวดและของเก่าเพื่อนำไปขายเป็นรายได้เลี้ยงชีพ

อดีตของคุณตาเดิมทีเป็นชาวสุรินทร์ ได้พบรักกับ “คุณยายศรีนวล” หญิงสาวชาวนครสวรรค์ จึงตกลงใช้ชีวิตร่วมกันมา กระทั่งระหกระเหินย้ายมาอยู่ที่จ.พิษณุโลก แต่ก็ไร้ลูกไร้หลานสืบสกุล อาศัยทำงานรับจ้างทำมาหากินอยู่กันสองตายายในกระท่อมหลังเล็กเรื่อยมา

โดยกระท่อมที่เรียกว่า “บ้าน” จะถูกย้ายไปตามความเมตตาของชาวบ้านผู้ใจบุญที่แบ่งที่ดินให้ปลูกกระท่อมอยู่อาศัย โดยปัจจุบันย้ายมาอยู่ที่เลียบคลองไข่เน่า หลังวัดมะขามเตี้ย จ.พิษณุโลก ซึ่งกระท่อมหลังนี้เป็นที่หลับที่นอนและใช้หลบแดดหลบฝน แม้หลังคาจะมีรูรั่วเต็มไปหมดก็ตาม ซ้ำไม่มีเลขที่ ไม่มีไฟฟ้า หรือแม้แต่น้ำใช้ ชาวบ้านละแวกนี้มักเห็นภาพจนชินตาของคุณยายศรีนวล ที่พิการขาเล็กรีบเดินไม่ได้ มือซ้ายพิการขยับไม่ได้ แต่พยามใช้ก้นถัดไปข้างหน้า เพื่อออกไปปลดทุกข์ทั้งถ่ายหนักถ่ายเบาในป่าข้าง ๆ กระท่อม

ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 10 ปีก่อน คุณยายได้ประสบอุบัติเหตุถูกคนชนจนต้องตกอยู่ในสภาพคนพิการเช่นนี้ นานวันเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมี ซ้ำร้ายคุณยายยังไร้บัตรประชาชน จะร้องขอเยียวยาจากหน่วยราชการก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งสติเลอะเลือนไม่ค่อยปกติดีนัก นึกอยากจะคิดจะพูดอะไรได้ก็แสดงออกมา เป็นบั่นปลายชีวิตที่แสนเศร้ายิ่งนัก

ทำให้ภาระทั้งหมดตกที่คุณตาเป็นผู้รับผิดชอบ ก็อาศัยเรี่ยวแรงที่ยังพอมีเก็บขวดตามถังขยะ และตระเวนออกหาตามถนนหนทาง หรือบางครั้งชาวบ้านผู้จิตเมตตาเห็นสงสารก็จะเก็บขวดไว้ให้ หวังช่วยเหลือได้บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ยังมีอุปสรรคในเรื่องการสื่อสารที่ค่อนข้างลำบาก เพราะอาการหูหนวกไม่ได้ยินเสียงทั่วไป หากจะคุยต้องตะโกนดัง ๆ ถึงจะคุยกับคุณตาได้รู้เรื่อง โชคร้ายยังเดินเข้ามาต่อเนื่อง “ดวงตาข้างซ้าย” ที่นับวันเลือนรางทีละนิด ๆ วันนี้ได้บอดซ้ำหนักเข้าไปอีก

ในแต่ละสัปดาห์คุณตาจะเก็บของเก่าด้วยการขนใส่สามล้อ แล้วถีบไปขายที่ร้านวงษ์พานิชย์ แม้จะผ่านร้านอื่น ๆ คุณตาก็ไม่แวะขายให้ เพราะคุ้นเคยกับ “พี่สุภาพ” (ผู้ชายสวมแว่น) เจ้าของร้านรับซื้อของเก่าในละแวกนั้น โดยพี่สุภาพ เล่าให้ฟังว่า รู้จักคุณตาใจมาได้ระยะหนึ่ง 5-6 ปี แกจะเก็บของเก่ามาขาย มีรายได้สัปดาห์ละ 200-400 บาท แล้วแต่ว่าจะหาได้ ซึ่งสาเหตุที่แกไม่ขายให้เจ้าอื่นก็เพราะว่า...ปกติอย่างลังกระดาษรับซื้อกิโลละ 3บาท ต้องเอาไปขายต่อกิโลละ 4 บาท ก็รับซื้อของคุณตา 4 บาทไม่บวกกำไร เพราะบ่อยครั้งที่ตนคิดสงสารจึงหยิบยื่นน้ำใจมอบข้าวสารอาหารให้ แต่ความจริงชีวิตของตายายน่าสงสารมาก ๆ เพราะทั้งคู่ก็แก่ชรามากแล้ว ถ้าเป็นตนอายุ มากถึงวัย 70 ปีจะมีเรี่ยวแรงขนาดนี้หรือไม่

อย่างไรก็ตาม เรื่องการช่วยเหลือของหน่วยราชการ ในทุก ๆ เดือนคุณตาจะได้รับเบี้ยยังชีพประจำตัวผู้สูงอายุเดือนละ 700 บาท และสำหรับผู้ใจบุญที่อยากช่วยเหลือสามารถส่งข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม เครื่องนอน พัดลม ไปให้คุณตากับคุณยายได้ที่ร้านรับซื้อของเก่า เพราะกระท่อมริมทุ่งนาที่อาศัยไม่มีเลขที่ตั้ง หรือใครที่มีวัสดุของเก่า เช่น ขวดแก้ว พลาสติก ทองแดง เหล็ก อลูมีเนียม สามารถส่งมอบให้คุณตานำไปขาย ตามที่อยู่ร้านวงษ์พานิชย์ เลขที่ 124 /15 หมู่ที่ 6 ต.หัวรอ อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000

ขอบคุณ... https://www.dailynews.co.th/article/703834

ที่มา: เดลินิวส์ออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 14 เม.ย.62
วันที่โพสต์: 18/04/2562 เวลา 10:24:37 ดูภาพสไลด์โชว์ เฒ่าหูหนวกตาบอดเก็บขยะ เลี้ยงเมียพิการ-ไร้บัตรปชช.