ชายพิการ เจ้าของอู่ ร้องถูกพ่อลูกรุมยำ แค่ไม่ยอมขายกาวทาปะเก็นให้ บอก 'มึงรู้จักกูน้อยไป'

ชายพิการใส่ขาเทียม เจ้าของอู่ซ่อมจยย. ร้องถูกพ่อลูกรุมยำ แค่ไม่ยอมขาย กาวทาปะเก็น ให้เพราะต้องเตรียมไว้ทำรถให้ลูกค้า บอก ‘มึงรู้จักกูน้อยไป’ หวั่นไม่ปลอดภัย

กรณีที่มีผู้เสียหายร้องเรียนกับ ข่าวสดออนไลน์ ว่า เป็นผู้พิการถูกชายรายหนึ่งทำร้ายร่างกายจนสาหัส หลังปฏิเสธขายของให้ในยามวิกาล เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 พ.ย ที่ผ่านมาที่อู่แห่งหนึ่งใน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

ความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 พ.ย.68 นายวุฒิ (สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี ผู้เสียหาย เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” เล่าว่า ตนเปิดอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์มาหลายปีแล้ว ปกติช่วงค่ำหากไม่มีลูกค้าก็จะเริ่มเก็บของปิดร้าน บางวันจะมีรุ่นพี่รุ่นน้องที่ไว้ใจมานั่งเล่นและช่วยดูร้านให้

คืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น. ตนขึ้นไปนอนบนบ้าน โดยมีน้องชายอยู่เฝ้าหน้าร้าน กระทั่งเวลาประมาณ 23.30 น. มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาขอซื้อกาวทาปะเก็น แต่น้องชายของตนแจ้งว่า ไม่ได้ขาย เพราะของดังกล่าวเตรียมไว้ใช้สำหรับประกอบรถลูกค้า อีกทั้งเจ้าของร้านไม่อยู่ จึงไม่กล้าขายให้

แต่ชายคนดังกล่าวกลับไม่พอใจ ยืนกรานจะขอซื้อให้ได้ จากนั้นไปรื้อค้นของบนชั้นวางภายในร้าน และสั่งให้น้องชายเรียกตนลงมา เมื่อตนลงมาพบก็พูดกับชายคนนั้นว่า “ตอนนี้ร้านปิดแล้ว ไม่ได้ขายของแล้ว อีกอย่างมาปลุกกันในยามวิกาล มันไม่เหมาะสม”

แต่ชายคนดังกล่าวกลับโวยวายด่าทอ และพูดจาข่มขู่เสียงดังว่า “มึงรู้จักกูน้อยไป เดี๋ยวมึงเจอกูแน่ ขนาดพ่อมึงยังต้องไหว้กู” ก่อนจะขี่รถออกไปจากร้านด้วยท่าทีไม่พอใจ

ต่อมาในวันที่ 8 พ.ย. ชายคนเดิมขี่รถวนเวียนผ่านหน้าร้านหลายรอบ แต่ไม่เห็นตนอยู่จึงขี่ออกไป ทำให้ตนคิดว่าคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น จึงเปิดร้านตามปกติ แม้ในใจยังรู้สึกกังวล เพราะภรรยากำลังตั้งครรภ์ และตนเป็นผู้พิการใส่ขาเทียมข้างหนึ่ง ไม่อยากมีเรื่องหรือใช้กำลังกับใคร

กระทั่งวันที่ 9 พ.ย. เวลาช่วงเย็น ตนกำลังทำอาหารอยู่ที่บ้าน เห็นว่าน้ำใช้ทำอาหารหมด จึงเดินออกไปซื้อของบริเวณตลาดใกล้ร้าน ระหว่างนั้นก็เห็นชายคนเดิมขี่มอเตอร์ไซค์วนกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มีลูกชายของเขานั่งมาด้วย จากนั้นชายคนดังกล่าวเดินตรงเข้ามาชกต่อยตนทันที โดยไม่พูดอะไร

ตนไม่ได้สู้ เพราะรู้ว่าตัวเองสู้ไม่ได้ เพราะอยู่ในสภาพขาขาดข้างหนึ่ง ต้องใส่ขาเทียม อีกทั้งเคยประสบอุบัติเหตุจนกรามหักแล้วระหว่างถูกทำร้าย ลูกชายของผู้ก่อเหตุ ก็เข้ามาชกซ้ำที่กลางหน้าอีกครั้ง ตรงกรามที่เคยหัก ทำให้กรามของตนบวมหนัก

หลังเหตุการณ์ ตนไปแจ้งความและลงบันทึกประจำวันไว้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้กำลังรอการติดต่อมาเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งไม่เข้าใจว่า ทำไมเรื่องเพียงแค่ไม่ขาย “กาวทาปะเก็น” ถึงต้องบานปลายรุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย ทั้งที่ตนไม่เคยมีปัญหาหรือรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อนเลย

จากการสอบถามคนในพื้นที่ พบว่าผู้ก่อเหตุมีพฤติกรรมก้าวร้าว และอาจมีเส้นสายกับทางตำรวจ ถึงกล้าที่จะทำร้ายตน อย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เหมือนมั่นใจว่า ไม่มีใครทำอะไรได้

ทั้งนี้ ตนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงไม่กล้าจะเปิดร้าน และไม่กล้าออกไปไหน เพราะกลัวโดนทำร้ายร่างกายอีก ถ้าผู้ก่อเหตุกลับมาทำร้ายอีกคราวนี้ อาจไม่รอดทั้งคนในร้าน พี่น้อง และเพื่อนบ้าน ทุกคนรอบข้างต่างก็หวาดระแวงกันหมด จึงอยากให้ตำรวจเร่งดำเนินการให้ถึงที่สุด

ขอบคุณ... https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_10015056

ที่มา: khaosod.co.th/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 12 พ.ย. 68
วันที่โพสต์: 12/11/2568 เวลา 15:02:36