โครงการ “สู้ไม่ถอย” แก้ปัญหาการจ้างงานผู้พิการ

สภาอุตสาหกรรมสมุทรสาครจับมือคนพิการ ผุดโครงการ “สู้ไม่ถอย” แก้ปัญหาการจ้างงานผู้พิการ

เนื่องด้วยพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550 ได้กำหนดให้หน่วยงานของรัฐ และนายจ้างหรือเจ้าของสถานประกอบการต้องรับคนพิการเข้าทำงานตามมาตรา 33 ในอัตราส่วนลูกจ้างที่ไม่ใช่คนพิการหนึ่งร้อยคนต่อคนพิการหนึ่งคน เศษของหนึ่งร้อยคนถ้าเกินห้าสิบคนต้องรับคนพิการเพิ่มอีกหนึ่งคนบ หรือส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการตามมาตรา 34 หรือเลือกดำเนินการตามมาตรา 35 โดยการให้สัมปทาน จัดสถานที่จำหน่ายสินค้าหรือบริการ จัดจ้างเหมาช่วงงาน ฝึกงาน หรือให้การช่วยเหลืออื่นใดแก่คนพิการหรือผู้ดูแลคนพิการ

จากพระราชบัญญัติดังกล่าวทำให้สถานประกอบการในจังหวัดสมุทรสาครประสบปัญหาขาดแคลนคนพิการเข้าทำงาน แม้ว่าจะมีการประชาสัมพันธ์การรับสมัครคนพิการเข้าทำงานตามช่องทางต่างๆ แต่ก็ยังไม่เพียงพอกับอัตราส่วนที่มีระเบียบกำหนดไว้ เนื่องจากคนพิการกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นคนพิการประเภทนอนติดเตียง และอีกส่วนหนึ่งก็ประสบปัญหาความยากลำบากในการเดินทางมาทำงาน จึงทำให้สถานประกอบการแต่ละแห่งมีคนพิการเข้าทำงานไม่ครบตามอัตราส่วนที่กำหนดไว้

จากปัญหาดังกล่าว นายอภิชิต ประสพรัตน์ ประธานสภาอุตสาหกรรมสมุทรสาคร จึงได้ จัดทำโครงการ “สู้ไม่ถอย” ซึ่งเป็นความร่วมมือของผู้ประกอบการและผู้พิการในจังหวัดที่จะช่วยเหลือผู้พิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นโดยสอดคล้องกับหลักกฎหมายตามมาตรา 35 ของ พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ.2550

โครงการ”สู้ไม่ถอย”จะเป็นการให้สัมปทานสินค้าซึ่งมีมูลค่าตามราคาค่าจ้างที่ผู้พิการได้รับตามกฎหมายกำหนด เพื่อให้ผู้พิการหรือผู้ดูแลนำสินค้านั้นๆไปจำหน่ายเพื่อให้เกิดประโยชน์โดยตรงกับผู้พิการและครอบครัว โดยทางสถานประกอบการจะให้การช่วยเหลือในทุกด้านเพื่อให้ผู้พิการสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มกับสินค้านั้นๆได้

นายอภิชิต เปิดเผยว่า โครงการ “สู้ไม่ถอย” มีที่มาจากปัญหาในการจ้างงานคนพิการตามกฎหมาย ซึ่งสภาพความเป็นจริงนั้นสถานประกอบการไม่ได้สามารถหาคนพิการเข้ามาทำงานได้ แม้ว่าจะมีการไปตั้งบูทรับสมัครงานคนพิการของสภาอุตสาหกรรมสมุทรสาคร ในวันคนพิการสากลที่ผ่านมาซึ่งมีคนพิการเข้าร่วมงานกว่า 500 คน แต่มีคนพิการเข้ามาสมัครงานเพียงแค่ 2 คน ซึ่งคนพิการที่มาสมัครงานนั้นไม่สามารถทำงานได้เนื่องจากมีโรคประจำตัวและมีปัญหาในการเดินทาง หลังจากนั้นจึงมองหาวิธีการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยได้มีการพูดคุยกับ นายฐานิทธ์ อิสโม ประธานสภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งได้รับข้อเสนอว่าผู้ประกอบการจะให้สัมปทานเป็นสินค้ามาขายได้ไหม และจากการพูดคุยในวันนั้นจึงกลายมาเป็นโครงการ “สู้ไม่ถอย”

นายอภิชิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ถ้าเรามองว่าคนพิการเป็นผู้ด้อยโอกาสเราก็จะนึกถึงอาชีพไม่กี่อย่างที่คนพิการสามารถทำได้ ฉะนั้นในวันนี้เราต้องยกระดับคนพิการเหล่านี้ให้มีศักดิ์ศรีทัดเทียมกับคนที่เป็นปกติทั่วไป ด้วยการหาสินค้าที่เป็นของผู้ประกอบการให้คนพิการเอาไปขาย ซึ่งจะเป็นการบรรลุวัตถุประสงค์ของทั้งสองฝ่ายคือ ผู้ประกอบการสามารถจ้างงานคนพิการได้ด้วยการให้สัมปทานสินค้า รวมทั้งคนพิการเองก็จะมีความรู้สึกว่าตนเองมีศักดิ์ศรีในสังคมและสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง

ในอนาคตโครงการนี้ต้องมีการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU อย่างแน่นอน โดยตอนนี้เป็นการนำร่องของกลุ่มผู้ประกอบการ ซึ่งขณะนี้มี 20 บริษัทที่มีความเห็นตรงกันว่าอยากเข้าร่วมโครงการนี้เพราะต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม

ด้านนายฐานิทธ์ เผยว่า สินค้าทุกชนิดที่ทางบริษัทขายได้ผู้พิการก็สามารถขายได้ ทั้งนี้ผู้พิการมีตัวแทนและเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศที่สามารถนำสินค้าไปขายได้โดยไม่ทำให้เกิดผลกระทบกับสินค้าและชื่อเสียงของบริษัท ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องมีบัตรที่รับรองโดยสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และสภาคนพิการทุกประเภทจังหวัดสมุทรสาคร

ขอบคุณ... http://www.naewna.com/local/71628

ที่มา: แนวหน้า/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย
วันที่โพสต์: 10/10/2556 เวลา 08:49:12