เปิดคู่มือ "รู้แล้วรอด" สอนเด็กรับมือภัยพิบัติ

แสดงความคิดเห็น

โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด"

"รู้แล้วรอด อยากให้เธอได้รู้แล้วรอด รู้แล้วรอด...อยากให้เธอได้รู้"

ท่อนฮุกของเพลง "รู้แล้วรอด" เน้นย้ำถึงความหมายของเพลง ที่แต่งขึ้นเพื่อนำมาประกอบการสื่อสารสาระให้ความรู้กลุ่ม เป้าหมาย อย่างเด็กและเยาวชนได้ตื่นตัวและหันมาสนใจเรื่องภัยพิบัติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทำให้ภัยพิบัติแต่ละครั้ง มีความรุนแรงมากขึ้นทุกที การเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างความรู้ให้กับเด็กๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด" ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานแห่งชาติ (สพฐ.) และองค์การอนามัยโลก ร่วมกันจัดทำโครงการเผยแพร่ความรู้และปลูก จิตสำนึกที่ดีต่อส่วนรวมแก่เยาวชนไทยในด้านการรับมือกับภัยพิบัติโดยง่าย

จัดทำเป็นชุดความรู้ประกอบด้วย แผ่นพับคู่มือจิตอาสา แผ่นพับคู่มือกระเป๋ายังชีพ หนังสือคู่มือรับภัยพิบัติ (ฉบับพกพา) เกมกระดาน เกมการ์ด และเกมตัวต่อ เพื่อออกเดินทางไปจัดนิทรรศการเคลื่อนที่ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ในโรงเรียนนำร่องทั่วประเทศ

ตั้งแต่เกิดสึนามิ เมื่อปี 2547 คนไทยได้เรียนรู้ว่าภัยธรรมชาติเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และทำให้อยู่อย่างปลอดภัยเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว

นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. ชี้ให้เห็นว่า จากความเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศ ทำให้แต่ละพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์สึนามิ และอีกหลายๆ เหตุการณ์เห็นได้ชัดว่า คนไทยยังไม่พร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ แม้หน่วยงานรัฐจะเตรียมความพร้อม เช่น สายด่วน 1669 หรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ฉะนั้นจึงต้องฝังความรู้เหล่านี้ลงไปในระดับชุมชน เป้าหมายคือทำให้เด็กไทยมี ความรู้ว่าภัยอะไรบ้างที่สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศไทยและจะรับมืออย่างไร

โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด" "หากยกตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นประเทศที่เตรียมความพร้อมให้กับประชากรได้รับมือกับภัยพิบัติได้ดี ก็ใช้วิธีแทรกความรู้เข้าไปในบทเรียน ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุเด็กๆ จะรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรและไม่ตื่นตกใจ เช่น แผ่นดินไหว ทุกคนก็หมอบต่ำกับพื้น หรืออยู่ใต้โต๊ะทันที ซึ่งถือว่าดูแลตัวเองได้ และเมื่อโต เด็กเหล่านี้ก็จะมีหัวใจจิตอาสาที่ออกทำงานช่วยเหลือคนอื่นได้" นพ.อนุชากล่าว

ชุดความรู้ "รู้แล้วรอด" มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน เนื้อหาจึงผ่านกระบวนการคิดให้เกิดการสื่อสารด้วยความสร้างสรรค์ เป็นเรื่องสนุกที่แฝงด้วยสาระความรู้

วิภาวี คุณาวิชยานนท์ ผู้จัดการโครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด" อธิบายถึงการจัดทำชุดความรู้นี้ว่า ทีม D4D หรือ Design for Disaster คือ การรวมตัวของคนอาสาเพื่อนำสิ่งที่ถนัด คือ งานออกแบบมาใช้เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากช่วงน้ำท่วมใหญ่ ก่อนที่จะทำงานมาเรื่อยๆ โดยมีหน่วยงานภาครัฐสนับสนุน เพื่อออกแบบคู่มือรับมือภัยพิบัติที่สอดแทรกความบันเทิงลงไป เพื่อสร้างความตระหนักและการเผยแพร่ความรู้เตรียมรับมือกับภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ

โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด" รูปแบบของชุดความรู้ จะเป็นการเตรียมความพร้อม เน้นทั้งช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเกิดภัยพิบัติ โดย ยึดหลักการศึกษาผสมผสานควบคู่ไปกับความบันเทิง (EDUTAINMENT = Education + Entertainment) สอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวัน ผ่านสื่อสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ เช่น ในงานออกแบบชุดความรู้ "รู้แล้วรอด" ออกแบบ "ครอบครัวรู้รอด" ที่ประกอบด้วยตัวละครแทนคนในสังคมทุกช่วงวัย โดยจะมีตัวละคร 8 ตัว ตั้งแต่ผู้ใหญ่ เด็กเล็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และสัตว์เลี้ยง รวมถึงตัวละครในจินตนาการ ชื่อ "พลังแห่งความดีงาม" ซึ่งลงมาจากบนฟ้าเพื่อช่วยเหลือผู้คน

เนื้อเรื่องจะดำเนินโดยใช้ตัวละครที่มีและแทรกสอดด้วยตัวละครพลังแห่งความดีในทุกๆ เหตุการณ์ ซึ่งตัวละครเหล่านี้จะทำเป็นมาสคอต และออกเดินทางไปพร้อมกับนิทรรศการเคลื่อนที่บนรถบัส ที่ตกแต่งเพื่อสร้างความสนใจกับเด็กๆ

"ชุดความรู้ที่สร้างขึ้นนี้ เพื่อให้สื่อสารได้ง่ายๆ กับเด็ก โดยเกมแต่ละเกมจะแทรกเนื้อหาสาระการเรียนรู้ไว้ เพราะเรื่องของความปลอดภัย ปลูกฝังเรื่องของจิตสำนึกที่ดีไปพร้อมๆ กัน เพราะนอกจากช่วยเหลือตัวเองได้ ก็จะช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย" คุณวิภาวีอธิบาย

โครงการในครั้งนี้เป็นโครงการนำร่องซึ่งชุดความรู้ที่นำไปเผยแพร่ในแต่ละภูมิภาค จะเน้นในเรื่องที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ภาคใต้มีความเสี่ยงเรื่องสึนามิ พายุ น้ำป่า เป็นต้น แต่ทุกภูมิภาคจะได้รับความรู้ในการดูแลความปลอดภัยขั้นพื้นฐานไปด้วย เช่น การใช้รถใช้ถนน เป็นต้น

นายแสงไทย มีสุนทร ผอ.สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สพฐ. เพิ่มเติมว่า ชุดความรู้ดังกล่าวจะถูกนำไปพัฒนาต่อ ยอดขยายผล โดยจะมีการสรุปโครงการและปรับปรุงแก้ไข ก่อนนำไปพัฒนาและขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมต่อไป และอาจจะนำไปบรรจุในหลักสูตรการศึกษาเพื่อให้เกิดเป็นความรู้พื้นฐานของเด็กในอนาคตต่อไป

ความรู้เหล่านี้ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นและจะสร้างให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเอง ลดการพึ่งพาคนอื่น ซึ่งการช่วยเหลือตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญมากในยามวิกฤตเพราะจะช่วยลดความสูญเสียลงได้ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องมีไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวเอง

ขอบคุณ http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1386237656

(ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ธ.ค.56)

ที่มา: ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ธ.ค.56
วันที่โพสต์: 6/12/2556 เวลา 02:26:18 ดูภาพสไลด์โชว์  เปิดคู่มือ "รู้แล้วรอด" สอนเด็กรับมือภัยพิบัติ

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ \"รู้แล้วรอด\" "รู้แล้วรอด อยากให้เธอได้รู้แล้วรอด รู้แล้วรอด...อยากให้เธอได้รู้" ท่อนฮุกของเพลง "รู้แล้วรอด" เน้นย้ำถึงความหมายของเพลง ที่แต่งขึ้นเพื่อนำมาประกอบการสื่อสารสาระให้ความรู้กลุ่ม เป้าหมาย อย่างเด็กและเยาวชนได้ตื่นตัวและหันมาสนใจเรื่องภัยพิบัติที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ทำให้ภัยพิบัติแต่ละครั้ง มีความรุนแรงมากขึ้นทุกที การเตรียมความพร้อมด้วยการสร้างความรู้ให้กับเด็กๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญ โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด" ภายใต้โครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยกับองค์การอนามัยโลก ซึ่งสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานแห่งชาติ (สพฐ.) และองค์การอนามัยโลก ร่วมกันจัดทำโครงการเผยแพร่ความรู้และปลูก จิตสำนึกที่ดีต่อส่วนรวมแก่เยาวชนไทยในด้านการรับมือกับภัยพิบัติโดยง่าย จัดทำเป็นชุดความรู้ประกอบด้วย แผ่นพับคู่มือจิตอาสา แผ่นพับคู่มือกระเป๋ายังชีพ หนังสือคู่มือรับภัยพิบัติ (ฉบับพกพา) เกมกระดาน เกมการ์ด และเกมตัวต่อ เพื่อออกเดินทางไปจัดนิทรรศการเคลื่อนที่ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. ในโรงเรียนนำร่องทั่วประเทศ ตั้งแต่เกิดสึนามิ เมื่อปี 2547 คนไทยได้เรียนรู้ว่าภัยธรรมชาติเป็นเรื่องยิ่งใหญ่และทำให้อยู่อย่างปลอดภัยเหมือนเดิมไม่ได้ เพราะสภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไปแล้ว นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร เลขาธิการ สพฉ. ชี้ให้เห็นว่า จากความเปลี่ยนแปลงของลมฟ้าอากาศ ทำให้แต่ละพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดภัยธรรมชาติรุนแรงมากขึ้น ซึ่งจากเหตุการณ์สึนามิ และอีกหลายๆ เหตุการณ์เห็นได้ชัดว่า คนไทยยังไม่พร้อมรับมือกับภัยธรรมชาติในรูปแบบต่างๆ แม้หน่วยงานรัฐจะเตรียมความพร้อม เช่น สายด่วน 1669 หรือศูนย์บรรเทาสาธารณภัย แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ฉะนั้นจึงต้องฝังความรู้เหล่านี้ลงไปในระดับชุมชน เป้าหมายคือทำให้เด็กไทยมี ความรู้ว่าภัยอะไรบ้างที่สามารถเกิดขึ้นได้ในประเทศไทยและจะรับมืออย่างไร โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ \"รู้แล้วรอด\""หากยกตัวอย่างจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งถือเป็นประเทศที่เตรียมความพร้อมให้กับประชากรได้รับมือกับภัยพิบัติได้ดี ก็ใช้วิธีแทรกความรู้เข้าไปในบทเรียน ในชีวิตประจำวัน ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุเด็กๆ จะรู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรและไม่ตื่นตกใจ เช่น แผ่นดินไหว ทุกคนก็หมอบต่ำกับพื้น หรืออยู่ใต้โต๊ะทันที ซึ่งถือว่าดูแลตัวเองได้ และเมื่อโต เด็กเหล่านี้ก็จะมีหัวใจจิตอาสาที่ออกทำงานช่วยเหลือคนอื่นได้" นพ.อนุชากล่าว ชุดความรู้ "รู้แล้วรอด" มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชน เนื้อหาจึงผ่านกระบวนการคิดให้เกิดการสื่อสารด้วยความสร้างสรรค์ เป็นเรื่องสนุกที่แฝงด้วยสาระความรู้ วิภาวี คุณาวิชยานนท์ ผู้จัดการโครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ "รู้แล้วรอด" อธิบายถึงการจัดทำชุดความรู้นี้ว่า ทีม D4D หรือ Design for Disaster คือ การรวมตัวของคนอาสาเพื่อนำสิ่งที่ถนัด คือ งานออกแบบมาใช้เพื่อรับมือกับภัยพิบัติ โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากช่วงน้ำท่วมใหญ่ ก่อนที่จะทำงานมาเรื่อยๆ โดยมีหน่วยงานภาครัฐสนับสนุน เพื่อออกแบบคู่มือรับมือภัยพิบัติที่สอดแทรกความบันเทิงลงไป เพื่อสร้างความตระหนักและการเผยแพร่ความรู้เตรียมรับมือกับภัยพิบัติในรูปแบบต่างๆ โครงการส่งมอบชุดความรู้เตรียมพร้อมรับมือภัยพิบัติ \"รู้แล้วรอด\"รูปแบบของชุดความรู้ จะเป็นการเตรียมความพร้อม เน้นทั้งช่วงก่อน ระหว่าง และหลังเกิดภัยพิบัติ โดย ยึดหลักการศึกษาผสมผสานควบคู่ไปกับความบันเทิง (EDUTAINMENT = Education + Entertainment) สอดแทรกเข้าไปในชีวิตประจำวัน ผ่านสื่อสร้างสรรค์หลากหลายรูปแบบ เช่น ในงานออกแบบชุดความรู้ "รู้แล้วรอด" ออกแบบ "ครอบครัวรู้รอด" ที่ประกอบด้วยตัวละครแทนคนในสังคมทุกช่วงวัย โดยจะมีตัวละคร 8 ตัว ตั้งแต่ผู้ใหญ่ เด็กเล็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และสัตว์เลี้ยง รวมถึงตัวละครในจินตนาการ ชื่อ "พลังแห่งความดีงาม" ซึ่งลงมาจากบนฟ้าเพื่อช่วยเหลือผู้คน เนื้อเรื่องจะดำเนินโดยใช้ตัวละครที่มีและแทรกสอดด้วยตัวละครพลังแห่งความดีในทุกๆ เหตุการณ์ ซึ่งตัวละครเหล่านี้จะทำเป็นมาสคอต และออกเดินทางไปพร้อมกับนิทรรศการเคลื่อนที่บนรถบัส ที่ตกแต่งเพื่อสร้างความสนใจกับเด็กๆ "ชุดความรู้ที่สร้างขึ้นนี้ เพื่อให้สื่อสารได้ง่ายๆ กับเด็ก โดยเกมแต่ละเกมจะแทรกเนื้อหาสาระการเรียนรู้ไว้ เพราะเรื่องของความปลอดภัย ปลูกฝังเรื่องของจิตสำนึกที่ดีไปพร้อมๆ กัน เพราะนอกจากช่วยเหลือตัวเองได้ ก็จะช่วยเหลือผู้อื่นได้อีกด้วย" คุณวิภาวีอธิบาย โครงการในครั้งนี้เป็นโครงการนำร่องซึ่งชุดความรู้ที่นำไปเผยแพร่ในแต่ละภูมิภาค จะเน้นในเรื่องที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เช่น ภาคใต้มีความเสี่ยงเรื่องสึนามิ พายุ น้ำป่า เป็นต้น แต่ทุกภูมิภาคจะได้รับความรู้ในการดูแลความปลอดภัยขั้นพื้นฐานไปด้วย เช่น การใช้รถใช้ถนน เป็นต้น นายแสงไทย มีสุนทร ผอ.สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน สพฐ. เพิ่มเติมว่า ชุดความรู้ดังกล่าวจะถูกนำไปพัฒนาต่อ ยอดขยายผล โดยจะมีการสรุปโครงการและปรับปรุงแก้ไข ก่อนนำไปพัฒนาและขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมต่อไป และอาจจะนำไปบรรจุในหลักสูตรการศึกษาเพื่อให้เกิดเป็นความรู้พื้นฐานของเด็กในอนาคตต่อไป ความรู้เหล่านี้ถือเป็นข้อมูลพื้นฐานที่จำเป็นและจะสร้างให้เด็กสามารถช่วยเหลือตัวเอง ลดการพึ่งพาคนอื่น ซึ่งการช่วยเหลือตัวเองถือเป็นสิ่งสำคัญมากในยามวิกฤตเพราะจะช่วยลดความสูญเสียลงได้ ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่จึงจำเป็นต้องมีไว้เป็นอาวุธป้องกันตัวเอง ขอบคุณ… http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1386237656 (ข่าวสดออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 5 ธ.ค.56)

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...