รักแท้อยู่เหนือการต่อรอง

แสดงความคิดเห็น

ดอกทิวลิป

ท่าน ว.วชิรเมธี

ปุจฉา : เพื่อนชายของดิฉันมีหญิงสาวมาติดพัน ถึงขั้นลุ่มหลงอย่างหนัก

เขาตอบปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลเพื่อถนอมน้ำใจเธอ เพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว

แต่ฝ่ายหญิงทำใจไม่ได้ โทษว่าเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน

และถ้าหากเขาไม่ตอบรับรัก เธอก็จะฆ่าตัวตายเป็นการประชด

ฝ่ายเพื่อนชายของดิฉันเกรงว่าหากเธอฆ่าตัวตายจริง ๆ เขาก็จะบาป

เลยไม่กล้าตัดความสัมพันธ์ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำผิดต่อคนรักอยู่

การที่เราไม่ทำตามกิเลสหรือความต้องการของผู้อื่น

และอาจเป็นสาเหตุให้เขาต้องจบชีวิตลงนั้น เราจะผิดบาปไหมคะ

และเราควรจะหาทางออกให้ปัญหานี้อย่างไรจึงจะดีที่สุด

วิสัชชนา : สมมติว่าเราสร้างบ้านขึ้นมาหลังหนึ่ง

เป็นบ้านที่สวยงามมาก และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้

กับสมาชิกในครอบครัวอีกหลายคนอย่างมีความสุข

แต่อยู่มาวันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านมาแถวนั้น

แล้วเห็นว่าบ้านของเราสวยมาก จึงอยากจะเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย

แต่พอเจ้าของบ้านไม่ยอม นักท่องเที่ยวคนนั้นก็ประกาศว่า

ถ้าไม่ยอมให้เขาเข้าไปอยู่ในบ้าน เขาจะฆ่าตัวตาย

เจ้าของบ้านกลัวเขาจะฆ่าตัวตาย

จึงตัดสินใจรับนักท่องเที่ยวคนนั้นมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้านด้วย

ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักมักคุ้น ไม่มีความผูกพัน ไม่มีความเต็มใจ ไม่มีความสุข

มีเพียงอย่างเดียว ไม่อยากให้เขาต้องตายเพราะ "บ้าน" ของตนเองเป็นเหตุ

กับอีกกรณีหนึ่ง เจ้าของบ้านตัดสินใจเด็ดขาดว่า

บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตน คนอื่นจะมาตู่เพื่อเข้ามาอยู่ง่าย ๆ ได้อย่างไร

แม้ว่าเขายื่นข้อเสนอว่าจะฆ่าตัวตาย เจ้าของบ้านก็ยืนกรานว่า นี่เป็นบ้านของตน

ตนมีสิทธิเต็มที่ที่จะให้ใครอยู่หรือไม่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็ได้ทั้งนั้น

ใครจะตายหรือไม่ตายเขาไม่รับรู้ด้วย เพราะเขาสร้างบ้านขึ้นมาเพื่ออยู่เอง

ไม่ใช่เพื่อให้ใครมายื่นเงื่อนไขว่าจะตายหรือจะอยู่เพราะบ้านหลังนี้

บ้านของเขาเป็นสมบัตส่วนตัว ไม่ใช่สมบัติสาธารณะ

ที่ใครจะมาอ้างสิทธิ์เพื่อครอบครองกันอย่างง่าย ๆ

ดังนั้น เจ้าของบ้านในกรณีที่สองจึงยืนหยัดหัวเด็ดตีนขาด

ไม่ยอมให้ใครมาตั้งเงื่อนไขกับตน แม้จะอ้างอันตรายถึงชีวิตก็ตาม

ในกรณีตัวอย่างที่กล่าวมานี้ การตัดสินใจของเจ้าของบ้านคนไหน

จะมีความชอบธรรมมากกว่ากัน ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ก

ารตัดสินใจในแบบที่สอง เพราะบ้านของเราเราย่อมมีสิทธิ์

ที่จะอนุญาตให้ใครก็ได้ทั้งนั้นที่เรา "ยินยอม" ให้เขามาอาศัยอยู่ด้วย

ส่วนคนที่เราไม่ยินยอม จะให้เขาเข้ามาอยู่ในฐานะอะไร

ซึ่งถ้าใครยอมก็คงประหลาด

ถ้าคุณตามใจคนที่มารักคุณ คนที่มารักคุณเขาก็สมหวัง

แต่คุณคงผิดหวังและมีปัญหาเพิ่มเติมมาเป็นของแถม

ถ้าคุณไม่ตามใจคนที่มารักคุณ เธอก็ผิดหวัง

(ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติมาก ที่เมื่อรักเขาแล้วเขาไม่รักตอบ

ก็ควรจะเดินกันไปคนละเส้นทาง)

แต่คุณยังคงสมหวังกับความรักที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว

ชีวิตเป็นของเรา เราควรมีสิทธิ์ในการออกแบบชีวิตของเราด้วยตนเอง

ไม่ใช่ปล่อยให้ใครมาอ้างสิทธิ์บางอย่างเหนือชีวิตของเรา

แล้วก็ปล่อยให้เขาริบเอา "อิสรภาพ" ในการใช้ชีวิตนั้นไปจากเราตลอดชีวิต

ส่วนคนที่ไปรักคนอื่นแล้วคนอื่นเขาไม่รักก็ควรจะทำใจให้กว้างว่า

ความรักนั้นเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องเห็นพ้องต้องกัน

ไม่ใช่เรื่องที่จะมาต่อรองกันด้วยเล่ห์เพทุบายเหมือนต่อราคากับแม่ค้าแม่ขายในตลาด

ความรักไม่ใช่เรื่องของการวางเงื่อนไขให้อีกฝ่ายหนึ่งทำตามใจตนฝ่ายเดียว

พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความหลง เป็นความเห็นแก่ตัว

คิดถึงตนเป็นศูนย์กลาง จึงไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง

ความรักที่แท้นั้นต้องลอยอยู่เหนือความเห็นแก่ตัว

ต้องไม่กลัวที่คนอื่นเขาจะไม่รักตน

แต่ขอแค่ได้เป็นคนที่รักคนอื่นอย่างซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองก็น่าจะใช้ได้แล้ว

ความรักที่มาพร้อมกับการวางเงื่อนไขข่มขู่นั้น

เป็นความรักในลักษณะจับเอาตัวคนรักมาเป็นตัวประกัน

เชื่อเถอะว่า ต่อให้ได้คนที่คุณรักมาครอบครอง แต่ในเมื่อเขาไม่รักมาแต่ต้น

สิ่งที่คุณได้มาก็คือกาย ไม่ใช่ใจ ความสมหวังนั้นก็เป็นเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น

ความรักแท้นั้นวัด กันที่ใจสองดวงที่เต้นอยู่ในทรวงเดียวกัน

ถ้าใจเราใจเขาไม่ได้เต้นอยู่ในทรวงเดียวกันเสียแล้ว

ขืนพยายามไปก็เป็นความเหนื่อยเปล่า

ปล่อยวางเสียยังจะดีกว่าพยายามทำในสิ่งซึ่งฝืนความจริง

เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้กันคนละไม่กี่ปี

เลือกทำในสิ่งที่มีความเป็นไปได้และไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนดีกว่า

ขอบคุณ... http://www.dhammathai.org/articles/dbview.php?No=34

ที่มา: www.dhammathai.org
วันที่โพสต์: 28/09/2559 เวลา 13:53:52 ดูภาพสไลด์โชว์ รักแท้อยู่เหนือการต่อรอง

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ดอกทิวลิป ท่าน ว.วชิรเมธี ปุจฉา : เพื่อนชายของดิฉันมีหญิงสาวมาติดพัน ถึงขั้นลุ่มหลงอย่างหนัก เขาตอบปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลเพื่อถนอมน้ำใจเธอ เพราะเขามีคนรักอยู่แล้ว แต่ฝ่ายหญิงทำใจไม่ได้ โทษว่าเขาเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องทนทุกข์ทรมาน และถ้าหากเขาไม่ตอบรับรัก เธอก็จะฆ่าตัวตายเป็นการประชด ฝ่ายเพื่อนชายของดิฉันเกรงว่าหากเธอฆ่าตัวตายจริง ๆ เขาก็จะบาป เลยไม่กล้าตัดความสัมพันธ์ แต่ขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังทำผิดต่อคนรักอยู่ การที่เราไม่ทำตามกิเลสหรือความต้องการของผู้อื่น และอาจเป็นสาเหตุให้เขาต้องจบชีวิตลงนั้น เราจะผิดบาปไหมคะ และเราควรจะหาทางออกให้ปัญหานี้อย่างไรจึงจะดีที่สุด วิสัชชนา : สมมติว่าเราสร้างบ้านขึ้นมาหลังหนึ่ง เป็นบ้านที่สวยงามมาก และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ กับสมาชิกในครอบครัวอีกหลายคนอย่างมีความสุข แต่อยู่มาวันหนึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านมาแถวนั้น แล้วเห็นว่าบ้านของเราสวยมาก จึงอยากจะเข้ามาอยู่ในบ้านด้วย แต่พอเจ้าของบ้านไม่ยอม นักท่องเที่ยวคนนั้นก็ประกาศว่า ถ้าไม่ยอมให้เขาเข้าไปอยู่ในบ้าน เขาจะฆ่าตัวตาย เจ้าของบ้านกลัวเขาจะฆ่าตัวตาย จึงตัดสินใจรับนักท่องเที่ยวคนนั้นมาเป็นสมาชิกคนหนึ่งในบ้านด้วย ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้จักมักคุ้น ไม่มีความผูกพัน ไม่มีความเต็มใจ ไม่มีความสุข มีเพียงอย่างเดียว ไม่อยากให้เขาต้องตายเพราะ "บ้าน" ของตนเองเป็นเหตุ กับอีกกรณีหนึ่ง เจ้าของบ้านตัดสินใจเด็ดขาดว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านของตน คนอื่นจะมาตู่เพื่อเข้ามาอยู่ง่าย ๆ ได้อย่างไร แม้ว่าเขายื่นข้อเสนอว่าจะฆ่าตัวตาย เจ้าของบ้านก็ยืนกรานว่า นี่เป็นบ้านของตน ตนมีสิทธิเต็มที่ที่จะให้ใครอยู่หรือไม่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็ได้ทั้งนั้น ใครจะตายหรือไม่ตายเขาไม่รับรู้ด้วย เพราะเขาสร้างบ้านขึ้นมาเพื่ออยู่เอง ไม่ใช่เพื่อให้ใครมายื่นเงื่อนไขว่าจะตายหรือจะอยู่เพราะบ้านหลังนี้ บ้านของเขาเป็นสมบัตส่วนตัว ไม่ใช่สมบัติสาธารณะ ที่ใครจะมาอ้างสิทธิ์เพื่อครอบครองกันอย่างง่าย ๆ ดังนั้น เจ้าของบ้านในกรณีที่สองจึงยืนหยัดหัวเด็ดตีนขาด ไม่ยอมให้ใครมาตั้งเงื่อนไขกับตน แม้จะอ้างอันตรายถึงชีวิตก็ตาม ในกรณีตัวอย่างที่กล่าวมานี้ การตัดสินใจของเจ้าของบ้านคนไหน จะมีความชอบธรรมมากกว่ากัน ถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดินก็คือ ก ารตัดสินใจในแบบที่สอง เพราะบ้านของเราเราย่อมมีสิทธิ์ ที่จะอนุญาตให้ใครก็ได้ทั้งนั้นที่เรา "ยินยอม" ให้เขามาอาศัยอยู่ด้วย ส่วนคนที่เราไม่ยินยอม จะให้เขาเข้ามาอยู่ในฐานะอะไร ซึ่งถ้าใครยอมก็คงประหลาด ถ้าคุณตามใจคนที่มารักคุณ คนที่มารักคุณเขาก็สมหวัง แต่คุณคงผิดหวังและมีปัญหาเพิ่มเติมมาเป็นของแถม ถ้าคุณไม่ตามใจคนที่มารักคุณ เธอก็ผิดหวัง (ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติมาก ที่เมื่อรักเขาแล้วเขาไม่รักตอบ ก็ควรจะเดินกันไปคนละเส้นทาง) แต่คุณยังคงสมหวังกับความรักที่มีอยู่ก่อนหน้านั้นแล้ว ชีวิตเป็นของเรา เราควรมีสิทธิ์ในการออกแบบชีวิตของเราด้วยตนเอง ไม่ใช่ปล่อยให้ใครมาอ้างสิทธิ์บางอย่างเหนือชีวิตของเรา แล้วก็ปล่อยให้เขาริบเอา "อิสรภาพ" ในการใช้ชีวิตนั้นไปจากเราตลอดชีวิต ส่วนคนที่ไปรักคนอื่นแล้วคนอื่นเขาไม่รักก็ควรจะทำใจให้กว้างว่า ความรักนั้นเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องเห็นพ้องต้องกัน ไม่ใช่เรื่องที่จะมาต่อรองกันด้วยเล่ห์เพทุบายเหมือนต่อราคากับแม่ค้าแม่ขายในตลาด ความรักไม่ใช่เรื่องของการวางเงื่อนไขให้อีกฝ่ายหนึ่งทำตามใจตนฝ่ายเดียว พฤติกรรมเช่นนี้ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความหลง เป็นความเห็นแก่ตัว คิดถึงตนเป็นศูนย์กลาง จึงไม่คำนึงถึงความรู้สึกของอีกฝ่ายหนึ่ง ความรักที่แท้นั้นต้องลอยอยู่เหนือความเห็นแก่ตัว ต้องไม่กลัวที่คนอื่นเขาจะไม่รักตน แต่ขอแค่ได้เป็นคนที่รักคนอื่นอย่างซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเองก็น่าจะใช้ได้แล้ว ความรักที่มาพร้อมกับการวางเงื่อนไขข่มขู่นั้น เป็นความรักในลักษณะจับเอาตัวคนรักมาเป็นตัวประกัน เชื่อเถอะว่า ต่อให้ได้คนที่คุณรักมาครอบครอง แต่ในเมื่อเขาไม่รักมาแต่ต้น สิ่งที่คุณได้มาก็คือกาย ไม่ใช่ใจ ความสมหวังนั้นก็เป็นเพียงความว่างเปล่าเท่านั้น ความรักแท้นั้นวัด กันที่ใจสองดวงที่เต้นอยู่ในทรวงเดียวกัน ถ้าใจเราใจเขาไม่ได้เต้นอยู่ในทรวงเดียวกันเสียแล้ว ขืนพยายามไปก็เป็นความเหนื่อยเปล่า ปล่อยวางเสียยังจะดีกว่าพยายามทำในสิ่งซึ่งฝืนความจริง เรามีเวลาอยู่ในโลกนี้กันคนละไม่กี่ปี เลือกทำในสิ่งที่มีความเป็นไปได้และไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนดีกว่า ขอบคุณ... http://www.dhammathai.org/articles/dbview.php?No=34

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...