ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม

แสดงความคิดเห็น

ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม

ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม : บาตรเดียวท่องโลก โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร

เด็กทารกถูกทิ้งในกองขยะ ตั้งท้องหรือทำแท้งในวัยเรียน ทะเลาะตบแย่งตีผู้ชาย โสเภณีเด็ก อยู่กินฉันสามีภรรยาตั้งแต่เรียนหนังสือ คลั่งไคล้หลงใหลดารา ทุบตีเพราะอยู่คนละสถาบัน ฯลฯ สิ่งที่ปรากฏเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกชี้ชัดถึงสภาพสังคม ครอบครัว การศึกษา สภาพแวดล้อม เทคโนโลยีการสื่อสารที่ไม่เอื้อเกื้อกูลให้เยาวชนมีโอกาสสัมผัส ความรัก ความอบอุ่น การเอาใจใส่ดูแล ความสุขสงบระหว่างตัวเอง ครอบครัว สังคมอย่างเห็นได้ชัด ขาดซึ่งความเข้าใจที่แท้แห่งการครองชีวิตคู่ ขาดความอดทน การยับยั้งชั่งใจในเกือบทุกมิติของการดำเนินชีวิต

ทุกอย่างมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน เริ่มจากฐานแห่งครอบครัว พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นแบบอย่าง คอยอบรมสั่งสอน อยู่ใกล้ชิดดูแลลูก ไม่ใช่ตามใจลูกหรือทำให้ลูกทุกอย่าง แต่เป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ เมื่อเด็กต้องการคำปรึกษาหรือประสบปัญหา สังคมไทยที่เปลี่ยนเป็นครอบครัวเดี่ยวจากไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ระบบความสัมพันธ์ที่ดีงาม โซ่คล้องผูกใจระหว่างพ่อแม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติผู้ใหญ่กับลูกหลานเริ่มลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ อีกทั้งครอบครัวส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้อำนาจกระแสแห่งวัตถุ บริโภคนิยม ให้ความสำคัญกับฐานะ ความมั่นคงทางเศษฐกิจมากกว่าทางจิตใจ เชิดชูให้เกียรติกับคนรวย มีฐานะ มีชื่อเสียง มีความรู้แม้จะเป็นแค่ปริญญาบัตรก็ตาม

สังคมที่ไร้ซึ่งระเบียบวินัย สื่อมวลชนมีบทบาทมาก ส่วนใหญ่เป็นข่าวการทะเลาะ ประท้วง แย่งชิง หย่าร้างหรือข่าวเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่ดีให้เห็น ทุกวันๆ ระบบโลกออนไลน์ที่อิสระ ไร้ขอบเขตพาใจของผู้คนไปไกลเกินกว่าที่ศีลธรรมจะหยุดไว้ได้อีกแล้ว

ระบบการศึกษาที่สอนให้เยาวชนเกิดการแข่งขันมากกว่าเกิดความเห็นอกเห็นใจ ให้ความสนใจเอาใจใส่กับเด็กที่ทำคะแนนได้ดี สร้างชื่อเสียง ยกย่องเชิดชูเป็นพิเศษจนเกินความพอดี ครูอาจารย์ที่ถูกบังคับให้ทำเอกสาร ผลงานเป็นกระดาษมากกว่าให้เวลาสนใจอยู่กับเด็กนักเรียน เกิดระบบพวกพ้อง มาตรฐานการเรียน การสอนที่ไม่เหมือนกัน ความผูกพัน เอาใจใส่ระหว่างศิษย์กับครูแทบไม่มี การศึกษาเหมือนการค้า เมื่อเด็กมิได้รับกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมอันเป็น ประสบการณ์ตรงจากครูและผู้ใกล้ชิด ย่อมไม่สำรวมในการเสพสิ่งต่างๆ เป็นเหตุให้ภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจบกพร่องอย่างรุนแรง กลายเป็นการปรนเปรอในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างไม่เท่าทัน อันเป็นรากแห่งการขาดความสุขสงบ เบิกบาน มั่นคงทางจิตใจอย่างใหญ่หลวง

ศีลข้อ ๓ ช่วยให้เราตระหนักรู้ เคารพในสิ่งที่เสพทางตา หู จมูก ลิ้น กระทั่งเคารพต่อร่างกายของเรา ต่อบรรพบุรุษที่ให้กายนี้แก่เรา โดยไม่ติดกับ หลงใหลการเสพ การบริโภคสิ่งต่างๆ จนเป็นที่มาแห่งการกระตุ้นความหลง

การมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ควรมีเมื่อเราพร้อมด้วยวัย สถานะ ความรับผิดชอบต่อตนเองและคนที่เรารัก ถ้าเรามีความสุข ความอบอุ่น ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การเรียน การอยู่กับธรรมชาติ เราจะรู้ว่า การไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครแต่ก็ยังมีความสุขได้และมันเป็นความสุขที่ยั่งยืน สงบเย็นภายใน ไม่ทำให้เดือดร้อนใจทั้งขณะนี้ หรือในอนาคต การเสพติดการมีเพศสัมพันธ์มิได้บ่งบอกถึงความสงบสุขในครอบครัว มิหนำซ้ำอาจทำลายครอบครัวด้วยซ้ำเพราะขาดความเคารพ เห็นอกเห็นใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุข อันเป็น หัวใจของครอบครัว

สุขแห่งพรหมจรรย์ เป็นสุขแท้ ทันสมัยในทุกสังคมโลก

ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130919/168546/ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม.html#.UjqfJVOja8o (ขนาดไฟล์: 167)

แสดงความคิดเห็น

รอตรวจสอบ
จัดฟอร์แม็ต ดูการแสดงผล

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

รอตรวจสอบ

ยกเลิก

รายละเอียดกระทู้

ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม : บาตรเดียวท่องโลก โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร เด็กทารกถูกทิ้งในกองขยะ ตั้งท้องหรือทำแท้งในวัยเรียน ทะเลาะตบแย่งตีผู้ชาย โสเภณีเด็ก อยู่กินฉันสามีภรรยาตั้งแต่เรียนหนังสือ คลั่งไคล้หลงใหลดารา ทุบตีเพราะอยู่คนละสถาบัน ฯลฯ สิ่งที่ปรากฏเหล่านี้เป็นสิ่งที่บ่งบอกชี้ชัดถึงสภาพสังคม ครอบครัว การศึกษา สภาพแวดล้อม เทคโนโลยีการสื่อสารที่ไม่เอื้อเกื้อกูลให้เยาวชนมีโอกาสสัมผัส ความรัก ความอบอุ่น การเอาใจใส่ดูแล ความสุขสงบระหว่างตัวเอง ครอบครัว สังคมอย่างเห็นได้ชัด ขาดซึ่งความเข้าใจที่แท้แห่งการครองชีวิตคู่ ขาดความอดทน การยับยั้งชั่งใจในเกือบทุกมิติของการดำเนินชีวิต ทุกอย่างมีความสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน เริ่มจากฐานแห่งครอบครัว พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำหน้าที่เป็นแบบอย่าง คอยอบรมสั่งสอน อยู่ใกล้ชิดดูแลลูก ไม่ใช่ตามใจลูกหรือทำให้ลูกทุกอย่าง แต่เป็นกำลังใจอยู่ข้างๆ ลูกเสมอ เมื่อเด็กต้องการคำปรึกษาหรือประสบปัญหา สังคมไทยที่เปลี่ยนเป็นครอบครัวเดี่ยวจากไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ระบบความสัมพันธ์ที่ดีงาม โซ่คล้องผูกใจระหว่างพ่อแม่ ลูก ปู่ ย่า ตา ยาย ญาติผู้ใหญ่กับลูกหลานเริ่มลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ อีกทั้งครอบครัวส่วนใหญ่ตกอยู่ภายใต้อำนาจกระแสแห่งวัตถุ บริโภคนิยม ให้ความสำคัญกับฐานะ ความมั่นคงทางเศษฐกิจมากกว่าทางจิตใจ เชิดชูให้เกียรติกับคนรวย มีฐานะ มีชื่อเสียง มีความรู้แม้จะเป็นแค่ปริญญาบัตรก็ตาม สังคมที่ไร้ซึ่งระเบียบวินัย สื่อมวลชนมีบทบาทมาก ส่วนใหญ่เป็นข่าวการทะเลาะ ประท้วง แย่งชิง หย่าร้างหรือข่าวเกี่ยวกับการกระทำที่ไม่ดีให้เห็น ทุกวันๆ ระบบโลกออนไลน์ที่อิสระ ไร้ขอบเขตพาใจของผู้คนไปไกลเกินกว่าที่ศีลธรรมจะหยุดไว้ได้อีกแล้ว ระบบการศึกษาที่สอนให้เยาวชนเกิดการแข่งขันมากกว่าเกิดความเห็นอกเห็นใจ ให้ความสนใจเอาใจใส่กับเด็กที่ทำคะแนนได้ดี สร้างชื่อเสียง ยกย่องเชิดชูเป็นพิเศษจนเกินความพอดี ครูอาจารย์ที่ถูกบังคับให้ทำเอกสาร ผลงานเป็นกระดาษมากกว่าให้เวลาสนใจอยู่กับเด็กนักเรียน เกิดระบบพวกพ้อง มาตรฐานการเรียน การสอนที่ไม่เหมือนกัน ความผูกพัน เอาใจใส่ระหว่างศิษย์กับครูแทบไม่มี การศึกษาเหมือนการค้า เมื่อเด็กมิได้รับกระบวนการเรียนรู้ในเรื่องคุณธรรมจริยธรรมอันเป็น ประสบการณ์ตรงจากครูและผู้ใกล้ชิด ย่อมไม่สำรวมในการเสพสิ่งต่างๆ เป็นเหตุให้ภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจบกพร่องอย่างรุนแรง กลายเป็นการปรนเปรอในรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส อย่างไม่เท่าทัน อันเป็นรากแห่งการขาดความสุขสงบ เบิกบาน มั่นคงทางจิตใจอย่างใหญ่หลวง ศีลข้อ ๓ ช่วยให้เราตระหนักรู้ เคารพในสิ่งที่เสพทางตา หู จมูก ลิ้น กระทั่งเคารพต่อร่างกายของเรา ต่อบรรพบุรุษที่ให้กายนี้แก่เรา โดยไม่ติดกับ หลงใหลการเสพ การบริโภคสิ่งต่างๆ จนเป็นที่มาแห่งการกระตุ้นความหลง การมีเพศสัมพันธ์ ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย แต่ควรมีเมื่อเราพร้อมด้วยวัย สถานะ ความรับผิดชอบต่อตนเองและคนที่เรารัก ถ้าเรามีความสุข ความอบอุ่น ความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว การเรียน การอยู่กับธรรมชาติ เราจะรู้ว่า การไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครแต่ก็ยังมีความสุขได้และมันเป็นความสุขที่ยั่งยืน สงบเย็นภายใน ไม่ทำให้เดือดร้อนใจทั้งขณะนี้ หรือในอนาคต การเสพติดการมีเพศสัมพันธ์มิได้บ่งบอกถึงความสงบสุขในครอบครัว มิหนำซ้ำอาจทำลายครอบครัวด้วยซ้ำเพราะขาดความเคารพ เห็นอกเห็นใจ ร่วมทุกข์ร่วมสุข อันเป็น หัวใจของครอบครัว สุขแห่งพรหมจรรย์ เป็นสุขแท้ ทันสมัยในทุกสังคมโลก ขอบคุณ... http://www.komchadluek.net/detail/20130919/168546/ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๓)สุขเพราะสำรวม.html#.UjqfJVOja8o

จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย

  1. เพิ่ม
  2. เพิ่ม ลบ
  3. เพิ่ม ลบ
  4. เพิ่ม ลบ
  5. เพิ่ม ลบ
  6. เพิ่ม ลบ
  7. เพิ่ม ลบ
  8. เพิ่ม ลบ
  9. เพิ่ม ลบ
  10. ลบ
เลือกการตกแต่งที่ต้องการ

ตกลง ยกเลิก

รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)

Waiting...