ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๑)เพราะไม่ฆ่าจึงไม่มีภัย
ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๑)เพราะไม่ฆ่าจึงไม่มีภัย : บาตรเดียวท่องโลก โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร
เด็กชาวสวิสและลูกครึ่งไทย-สวิสทั้งหมด ๕ ชีวิต ถูกเชื้อเชิญให้นั่งหน้าในพิธีน้อมรับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งในชีวิต พร้อมรับศีล ๕ ข้อเพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติ โดยก่อนหน้านี้เมื่อเด็กคลอดมาใหม่ๆ ทั้งพ่อและแม่ก็ได้นำเด็กมารับพรจากพระสงฆ์ รวมทั้งได้กราบเรียนว่า เมื่อเด็กโตขึ้นพอจะรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็จะขออนุญาตนำมาทำพิธีเป็นพุทธมามกะที่วัด เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจและนำไปเป็นแนวทางแห่งการดำเนินชีวิตด้วยตัวเขาเอง และพระท่านก็ได้แนะนำว่าให้พ่อและแม่พยายามประพฤติ ปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวทางชาวพุทธด้วยการรักษาศีล ๕ ข้อ อย่างมั่นคงเคร่งครัด แต่ต้องประกอบด้วยเมตตาคือไม่มีการบังคับ จะเป็นประโยชน์แก่ลูกอย่างยิ่ง ทำให้ลูกๆ เห็นแบบอย่างและเป็นการง่ายที่จะทำตาม เข้าใจในข้อวัตรปฏิบัติอย่างลึกซึ้งแท้จริง เพราะสามารถซึมซับ สัมผัส รับรู้จากวิถีชีวิตของพ่อแม่
ชาวพุทธ คือ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องในหลักพื้นฐานแห่งการดำรงชีวิตร่วมกัน ๕ ข้อ ในการเคารพหน้าที่แห่งการอยู่ร่วม เริ่มต้นด้วย การเคารพซึ่งสรรพชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ เราจะไม่ประกอบอาชีพอะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่องด้วยการฆ่าทำลายซึ่งชีวิต เพราะการดำรงอยู่ของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยการทำลายชีวิตของผู้อื่น ไม่ว่าพืชหรือสัตว์ แม้แต่สิ่งที่มีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายที่ถูกสมมติว่าเป็นเรา เราจะขาดซึ่งจิตใจที่ประกอบด้วยความเมตตาต่อตนเองอย่างที่สุด จิตใจเช่นนั้นเป็นจิตใจที่ไร้ซึ่งความสงบสุขอย่างยิ่ง ตราบใดที่เรารัก หวงแหนชีวิต หรือแม้แต่อวัยวะของตน เหตุไฉนเราสามารถทำลาย ทำร้ายชีวิต อวัยวะของผู้อื่นแม้แต่สรรพสัตว์ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้เราไม่ฆ่าเอง แต่เราอาจเป็นต้นเหตุหรือจุดเริ่มต้นแห่งการฆ่านั้น
หลายชีวิตหลงมัวเมา เพลินเพลิด เอร็ดอร่อย ลุ่มหลง เมามันกับการบริโภคชีวิตของผู้อื่น ทั้งที่เมื่อมองให้ลึกซึ้ง เราอาจไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นชีวิตของเราก็สามารถดำรงอยู่ได้ และอาจทำให้สุขภาวะทั้งภายในและภายนอกสงบสุข สมบูรณ์ แข็งแรงอีกด้วย และยิ่งเราบริโภคมากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าสิ่งที่บริโภคประกอบด้วยความทุกข์ สารปนเปื้อน สารพิษ สารเคมี เราเองจะได้รับผลจากการบริโภคอย่างทุกข์ทรมาณด้วยโรคต่างๆ มากมาย เพราะเราเองก็เป็นต้นเหตุแห่งการเลี้ยงดูสัตว์อย่างไม่เป็นไปตามธรรมชาติและ ประกอบด้วยความเมตตาปรานี สัตว์ได้รับการทุกข์ทรมาณจากการเลี้ยงดู การให้อาหารที่ประกอบด้วยสารเคมีมากมาย ทั้งในพืชและสัตว์ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตจำนวนมากตามความต้องการของผู้บริโภค
เราส่วนใหญ่บริโภคอาหารตามแฟชั่นมากกว่าตามความต้องการของร่างกาย แม้อาหารที่บริโภคอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่เพราะมีการโฆษณาและเป็นที่นิยมกัน มีการสมมติแห่งการให้ค่าของสินค้าขึ้นมา โดยกลุ่มนายทุนทั้งหลาย
ถ้าเราทุกชีวิตบริโภคสิ่งต่างๆ ด้วยความตระหนักรู้ ถึงแม้ว่าวันนี้เรายังต้องบริโภคชีวิตของผู้อื่นอยู่ก็ตามที แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะบริโภคอย่างพอเพียง รู้ถึงความจำเป็นในการบริโภค ปรับสมดุลตนเองเป็น เราอาจไม่เหนื่อยมากที่ต้องหาเงินจำนวนมาก มาเพื่อถูกหลอกให้หลงและเสพติดการบริโภคอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
บริโภคน้อยอย่างมีสติ สุขอนามัยที่ดีที่สุด
เพราะไม่บริโภคด้วย ความโกรธ ความอยาก และความหลง
ที่มา: http://www.komchadluek.net/detail/20130904/167345/ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๑)เพราะไม่ฆ่าจึงไม่มีภัย.html#.Ujv18VOja8o
วันที่โพสต์: 22/09/2556 เวลา 03:15:57
แสดงความคิดเห็น
รายละเอียดกระทู้
ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๑)เพราะไม่ฆ่าจึงไม่มีภัย ศีล๕ที่พึ่งแห่งชีวิต(๑)เพราะไม่ฆ่าจึงไม่มีภัย : บาตรเดียวท่องโลก โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร เด็กชาวสวิสและลูกครึ่งไทย-สวิสทั้งหมด ๕ ชีวิต ถูกเชื้อเชิญให้นั่งหน้าในพิธีน้อมรับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่งในชีวิต พร้อมรับศีล ๕ ข้อเพื่อนำไปประพฤติปฏิบัติ โดยก่อนหน้านี้เมื่อเด็กคลอดมาใหม่ๆ ทั้งพ่อและแม่ก็ได้นำเด็กมารับพรจากพระสงฆ์ รวมทั้งได้กราบเรียนว่า เมื่อเด็กโตขึ้นพอจะรับรู้ว่าอะไรเป็นอะไร ก็จะขออนุญาตนำมาทำพิธีเป็นพุทธมามกะที่วัด เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจและนำไปเป็นแนวทางแห่งการดำเนินชีวิตด้วยตัวเขาเอง และพระท่านก็ได้แนะนำว่าให้พ่อและแม่พยายามประพฤติ ปฏิบัติให้ถูกต้องตามแนวทางชาวพุทธด้วยการรักษาศีล ๕ ข้อ อย่างมั่นคงเคร่งครัด แต่ต้องประกอบด้วยเมตตาคือไม่มีการบังคับ จะเป็นประโยชน์แก่ลูกอย่างยิ่ง ทำให้ลูกๆ เห็นแบบอย่างและเป็นการง่ายที่จะทำตาม เข้าใจในข้อวัตรปฏิบัติอย่างลึกซึ้งแท้จริง เพราะสามารถซึมซับ สัมผัส รับรู้จากวิถีชีวิตของพ่อแม่ ชาวพุทธ คือ ผู้ที่ดำเนินชีวิตอย่างสอดคล้องในหลักพื้นฐานแห่งการดำรงชีวิตร่วมกัน ๕ ข้อ ในการเคารพหน้าที่แห่งการอยู่ร่วม เริ่มต้นด้วย การเคารพซึ่งสรรพชีวิตไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์ เราจะไม่ประกอบอาชีพอะไรก็ตามที่เกี่ยวเนื่องด้วยการฆ่าทำลายซึ่งชีวิต เพราะการดำรงอยู่ของมนุษย์ที่เต็มไปด้วยการทำลายชีวิตของผู้อื่น ไม่ว่าพืชหรือสัตว์ แม้แต่สิ่งที่มีชีวิตที่อาศัยอยู่ในร่างกายที่ถูกสมมติว่าเป็นเรา เราจะขาดซึ่งจิตใจที่ประกอบด้วยความเมตตาต่อตนเองอย่างที่สุด จิตใจเช่นนั้นเป็นจิตใจที่ไร้ซึ่งความสงบสุขอย่างยิ่ง ตราบใดที่เรารัก หวงแหนชีวิต หรือแม้แต่อวัยวะของตน เหตุไฉนเราสามารถทำลาย ทำร้ายชีวิต อวัยวะของผู้อื่นแม้แต่สรรพสัตว์ก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้เราไม่ฆ่าเอง แต่เราอาจเป็นต้นเหตุหรือจุดเริ่มต้นแห่งการฆ่านั้น หลายชีวิตหลงมัวเมา เพลินเพลิด เอร็ดอร่อย ลุ่มหลง เมามันกับการบริโภคชีวิตของผู้อื่น ทั้งที่เมื่อมองให้ลึกซึ้ง เราอาจไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นชีวิตของเราก็สามารถดำรงอยู่ได้ และอาจทำให้สุขภาวะทั้งภายในและภายนอกสงบสุข สมบูรณ์ แข็งแรงอีกด้วย และยิ่งเราบริโภคมากขึ้นเท่าไหร่ ถ้าสิ่งที่บริโภคประกอบด้วยความทุกข์ สารปนเปื้อน สารพิษ สารเคมี เราเองจะได้รับผลจากการบริโภคอย่างทุกข์ทรมาณด้วยโรคต่างๆ มากมาย เพราะเราเองก็เป็นต้นเหตุแห่งการเลี้ยงดูสัตว์อย่างไม่เป็นไปตามธรรมชาติและ ประกอบด้วยความเมตตาปรานี สัตว์ได้รับการทุกข์ทรมาณจากการเลี้ยงดู การให้อาหารที่ประกอบด้วยสารเคมีมากมาย ทั้งในพืชและสัตว์ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลผลิตจำนวนมากตามความต้องการของผู้บริโภค เราส่วนใหญ่บริโภคอาหารตามแฟชั่นมากกว่าตามความต้องการของร่างกาย แม้อาหารที่บริโภคอาจไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่เพราะมีการโฆษณาและเป็นที่นิยมกัน มีการสมมติแห่งการให้ค่าของสินค้าขึ้นมา โดยกลุ่มนายทุนทั้งหลาย ถ้าเราทุกชีวิตบริโภคสิ่งต่างๆ ด้วยความตระหนักรู้ ถึงแม้ว่าวันนี้เรายังต้องบริโภคชีวิตของผู้อื่นอยู่ก็ตามที แต่ถ้าเราเรียนรู้ที่จะบริโภคอย่างพอเพียง รู้ถึงความจำเป็นในการบริโภค ปรับสมดุลตนเองเป็น เราอาจไม่เหนื่อยมากที่ต้องหาเงินจำนวนมาก มาเพื่อถูกหลอกให้หลงและเสพติดการบริโภคอย่างถอนตัวไม่ขึ้น บริโภคน้อยอย่างมีสติ สุขอนามัยที่ดีที่สุด เพราะไม่บริโภคด้วย ความโกรธ ความอยาก และความหลง
จัดฟอร์แม็ตข้อความและมัลติมีเดีย
รายละเอียดการใส่ ลิงค์ รูปภาพ วิดีโอ เพลง (Soundcloud)