“ชาติชาย”ชี้หากเขียนควบคุมการทำงานสื่อขัดรธน.

“ชาติชาย”ชี้หากเขียนควบคุมการทำงานสื่อขัดรธน.

เมื่อวันที่ 30 เมษายน นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง ร่างพ.ร.บ.การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพส่งเสริมจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพสื่อมวลชน ว่า ตนยังไม่ได้ดูรายละเอียดในร่างกฎหมายว่าเขียนไว้อย่างไรบ้าง แต่หากไปเขียนควบคุมการทำงานของสื่อมวลชน ก็จะเป็นการขัดกับความมุ่งหมายของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่กำหนดให้ สื่อมีสิทธิและเสรีภาพในการทำงาน ส่วนการทำงานของกรธ. ขณะนี้กำลังพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยศาลรัฐธรรมนูญ โดยให้ฝ่ายกฎหมายไปพิจารณาระบบการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญอยู่ โดยหลังจากนี้ กรธ.เตรียมจะส่งกฎหมายลูกฉบับต่อไปให้ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)ในเดือนพฤษภาคมอาจจะเป็น ร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการพิจารณาคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือร่างร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่กรธ.พิจารณาเสร็จแล้ว

ด้าน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่ สปท.จะออกกฏหมายควบคุมสื่อนั้นตนขอบอกว่า ถ้า สปท.ว่างมากหรือกลัวประชาชนจะหาว่ากินเงินเดือนภาษีประชน กินเบี้ยประชุมแล้วไม่มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันนั้น ตนว่าน่าจะไปออกกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีการรับรู้การทำงาน ของรัฐบาลมากกว่า เช่นกฎหมายว่าด้วยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารของรัฐบาลกรณีใช้งบประมาณเกินกว่า 1000 ล้านบาทประชาชนควรมีสิทธิ์รู้ข้อมูลข่าวสารนั้นๆ ส่วนในพรบ.ที่บอกว่าคณะกรรมการจะมาจากปลัดกระทรวงๆ จะเอามาตรฐานอะไรไปตัดสินว่านักข่าวนั้นดีหรือไม่ดีอย่างไร หรือว่างานปลัดกระทรวงงานน้อยเกินไปถ้าน้อยก็ควรจะยุบตำแหน่งปลัดกระทรวงไปเสีย ที่ผ่านมาตนเรียนวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนมา ถูกพร่ำสอนมาเสมอว่าความน่าเชื่อถือมาจากจริยธรรมจรรยาบรรณวันหนึ่งสื่อที่เอียงกระเท่เล่ เหล่านั้นก็จะหายและตายไปเอง ประชาชนเขาฉลาดไปไกลแล้ว

นายจิรายุ กล่าวว่า สปท.บางคนช่างพูดโดยระบุว่าขนาดอาชีพหมอนวดยังต้องขึ้นทะเบียน ทำไมสื่อจะถูกขึ้นบ้างไม่ได้ คนพูดเช่นนี้เหมือน ดูถูกเหยียดหยาม สื่อที่ทำข่าวเชิงสืบสวนสอบสวนน่าจะไปหาข่าวดูบ้างว่าคนที่พูดเช่นนี้โปร่งใสขนาดไหน การออกกฏหมายกดหัวสื่อฉบับนี้ ต่างกับใบประกอบวิชาชีพอื่นๆอย่างสิ้นเชิงเช่นวิศวกรก็ต้องมีความรู้เรื่องวิศวกร หมอก็ต้องรู้เรื่อง หมอ ส่วนสื่อมวลชนเป็นศาสตร์ที่ไม่ใช่ใดทางหนึ่งเช่นทางวิทยาศาสตร์และศิลปศาสตร์ หรือไสยศาสตร์ เป็นงานที่ ผสมผสานกัน เป็น ศิลปะที่ถูกเรียกว่าฐานันดรสี่ คนจะมาออกใบอนุญาตจะรู้เรื่องอะไรกับการทำอาชีพสื่อสารมวลชน ถ้าตนอยู่ในคณะกรรมาธิการชุดนี้ตนจะยกมือประท้วงตลอดรับรองไม่ได้ผ่านแน่นอน

“ผมไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับกฎหมายฉบับนี้เพราะว่าที่ผ่านมาสื่อมวลชนเป็นอิสระ ก็ยอมตอบทั่วโลกได้ว่าประเทศไทยมีเสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือของประเทศ และย่อมเป็นตัวแทนให้กับประชาชนได้ ส่วนการขึ้นทะเบียนสื่อนั้นวันนี้ก็มีกรมประชาสัมพันธ์ทำหน้าที่ขึ้นทะเบียนสื่อมวลชนกันอยู่แล้วก็ให้กรมประชาทำเหมือนเดิมโดยเป็นผู้ออกบัตรสื่อมวลชนที่สำนักสื่อสารมวลชนต่างๆรับรองกันเอง หรือจะให้สมาคมสื่อรับรอง เท่านี้ก็ชัดเจนและให้ใช้บัตรนี้เป็นบัตรมาตรฐานสากลทั่วประเทศไทย และสปท.ระบุว่าต้องการ ตีทะเบียนสื่อเพื่อต้องกันคนไม่ดีแฝงมาในคราบสื่อ ผมยิ่งไม่เห็นด้วยเพราะ หากกฎหมายนี้บังคับใช้อยากจะถามว่าคนที่มีใบอนุญาตสื่อถ้านิสัยไม่ดี ไม่มีจริยธรรมจรรยาบรรณออกกฏหมายมาก็สูญเปล่า แถมเป็นการฟอกขาวให้อีกด้วยซ้ำ” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับทางออกเรื่องนี้นั้นตนอยากให้สมาคมที่เกี่ยวข้องกับสื่อทุกสมาคม มีความแข็งแรงและมั่นคงในจุดยืนของคำว่าฐานันดร 4 ควรร่วมจัดตั้งคณะกรรมการกลางเพื่อชี้หรือตักเตือนหรือลงโทษตามแบบฉบับของสื่อ ส่วนสื่อที่ไม่มีจริยธรรมจรรยาบรรณทำผิดจริง ก็ขอให้กล้าลงโทษ และประกาศต่อสังคมให้รับรู้เช่นการพาดหัวข่าวแบบมีอคติ หรือผู้ประกาศข่าวนักจัดรายการที่ใส่อารมณ์ผสมข่าว ควรตักเตือนหรือลงโทษคนเหล่านี้มากกว่าและควรจะถูกกลุ่มสมาคมต่างๆรุมประณามโดยไม่ต้องให้รัฐบาลไหนมาออกกฏหมายกดหัวไว้

ขอบคุณ... http://www.matichon.co.th/news/545787

ที่มา: มติชนออนไลน์/มูลนิธิพัฒนาคนพิการไทย 2 พ.ค.60
วันที่โพสต์: 2/05/2560 เวลา 11:22:37 ดูภาพสไลด์โชว์ “ชาติชาย”ชี้หากเขียนควบคุมการทำงานสื่อขัดรธน.